"...2 คดีดังกล่าวถ้ามีคำตัดสินออกมา ‘เป็นลบ’ จะส่งผล ‘เชิงบวก’ กับ ‘ฝ่ายอนุรักษนิยม’ อย่างแน่นอน พร้อมกับเป็นการ ‘รีเซ็ตการเมือง’ เข้าสู่กระบวนการ ‘จัดตั้งรัฐบาล’ กันอีกรอบหนึ่ง แม้ว่า ‘ทักษิณ’ ตามหลักการจะไม่ได้มีตำแหน่งแห่งที่อะไรในรัฐบาลก็ตาม แต่หลังม่านหลายคนย่อมทราบกันดีอยู่ว่าเขามีบทบาทสำคัญในรัฐบาลชุดนี้อย่างไร..."
เงื่อนปม ‘โพยก๊วน’ 149 ชื่อที่เข้ารอบตัดเชือกรอชิงดำเลือก สว.ระดับประเทศ จากการออกมาแฉแบบทิ้งบอมบ์ของ ‘สมชาย แสวงการ’ สว.รักษาการชุดปัจจุบัน ทำเอาอุณหภูมิทางการเมืองระอุไปทุกพื้นที่
เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะเข้าสู่การเลือก สว.ช็อตแรกคือ ‘ระดับอำเภอ’ ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้
@ สมชาย แสวงการ
สรุปใจความที่ ‘สมชาย’ ออกมาแฉ คือ มีการส่ง ‘โพยก๊วน’ ดังกล่าวผ่าน ‘ไลน์กลุ่ม’ ของ สว.ชุดปัจจุบัน
เบื้องต้นพบ 149 ชื่อที่คาดว่าน่าจะเข้าไปรอรอบตัดเชือก แต่ยังมีลอต 2 อีก 2,864 คน เพื่อให้ได้ยอดถึง 3,013 คน ก่อนโหวตระดับประเทศ และสุดท้ายเหลือ สว.ชุดใหม่ 200 คน
บรรดา ‘ชื่อย่อ’ ต่าง ๆ ที่ ‘สมชาย’ ออกมาแฉนั้น มีหลายคนที่มองปราดเดียวก็พอจะรู้ได้ว่าอยู่คนละขั้วกับฝ่ายอนุรักษนิยม
ทำเอาผู้สมัคร สว.บางคนที่อ้างว่ามีชื่อตัวเองอยู่ในโพยก๊วนดังกล่าว ต้องไปลงบันทึกประจำวัน และยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเรื่องนี้
แม้เบื้องต้น กกต.จะออกมาชี้แจงยืนยันว่า ‘โพยก๊วน’ ดังกล่าวเป็นการคาดเดาของผู้เสนอข่าว ที่นำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง เพราะยังมีการเลือก สว.ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศก็ตาม แต่มิได้ปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลแต่อย่างใด
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ‘หลังม่าน’ ของ ‘ฝ่ายอนุรักษนิยม’ บางกลุ่มที่เริ่มเดินเกม ‘ล้มกระดาน’ การเลือก สว.ครั้งนี้ เพราะ ‘บ้านใหญ่’ หลายคนที่ส่ง ‘เครือข่าย’ ลงชิงเก้าอี้ เริ่มพ่ายแพ้กระแส ‘สีส้ม’ ที่มีการรณรงค์ ‘ฟรีโหวต’ โดย ‘คณะก้าวหน้า-ไอลอว์’ ไปก่อนหน้านี้
ฝ่ายอนุรักษนิยมเริ่มคาดเดากันว่า สว.เสียงอิสระ ที่มาจากแคมเปญดังกล่าว อาจเข้ารอบตัดเชือก และได้เป็น สว.มากถึง 1 ใน 3 หรือราว 66-67 ที่นั่งในสภาฯสูง
หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้น สว.ชุดใหม่ จะไม่เป็นเอกภาพในการโหวต เพื่อเดินเกมคานกับ ‘สภาฯล่าง’ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ต้อง ‘ต่อสู้’ กันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงร่างกฎหมาย ‘นิรโทษกรรม’ ที่จะเหมารวมคดี ม.112 ซึ่งหมายถึงรวมคดีของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่ถูกอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งฟ้องตอนนี้ด้วยหรือไม่
สถานการณ์ตอนนี้แม้แต่ กกต.ยังต้องเฝ้าจับตา โดย ‘แสวง บุญมี’ เลขาธิการ กกต.ส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มภายในสำนักงานฯ โดยระบุถึง 3 แรงเสียดทานทางการเมืองตอนนี้
สรุปใจความสำคัญคือ
หนึ่ง ‘เลื่อนหรือลาก’ หมายถึง การเลื่อนเลือก สว.ให้ลากยาวออกไป
สอง ‘ล้ม’ หมายถึง ความพยายามของบางฝ่ายต้องการล้มการเลือก สว.ครั้งนี้
และสาม ‘เลือก’ หมายถึงการล็อคผลให้ผู้สมัคร สว.บางคนได้เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้ง 3 แรงเสียดทานดังกล่าว เลขาธิการ กกต.สั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับเฝ้ามอนิเตอร์จับตาดูการเลือก สว.ทั่วประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้นช็อตแรกในระดับอำเภอ 6 มิ.ย.นี้
ที่หลายคนสนใจคือถ้ามีการ ‘ล้ม’ เลือก สว.ครั้งนี้ใครจะได้ประโยชน์ แน่นอนว่า การได้มาซึ่งสมาชิกสภาฯสูงจะต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อเปิดรับสมัครใหม่ และเตรียมเลือกกันใหม่
ตรงกับไทม์ไลน์สำคัญใน 2 คดีที่เกี่ยวพันกับการเมือง นั่นคือ
หนึ่ง คดียุบพรรคก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าล้มล้างการปกครอง ซึ่งพรรคก้าวไกล ส่งคำชี้แจงที่ร่างโดย ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ หัวหน้าพรรค ไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วตั้งแต่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเตรียมแถลงใหญ่ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าในคำชี้แจงจะยืนยันหลักการเดิมว่า พรรคไม่ได้มีเจตนาล้มล้างการปกครอง และความผิดยังไม่สำเร็จ
โดยตามขั้นตอนเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำชี้แจงจากพรรคก้าวไกลแล้ว จะต้องนัดประชุมปรึกษาหารือกันว่า คดีมีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพียงพอจะนัดฟังคำวินิจฉัยหรือไม่ ถ้าเพียงพอแล้วจะนัดฟังคำวินิจฉัย โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ แต่ถ้าคดียังมีข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมายไม่เพียงพอ จะนัดไต่สวน หรือนัดขอพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
สอง คดีกล่าวหา ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2552 โดยคดีนี้ อสส.มีคำสั่งฟ้อง ‘ทักษิณ’ และนัดหมายผู้ต้องหามาส่งฟ้องแก่ศาลในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ถ้าทักษิณมา มีสิทธิยื่นขอประกันตัวโดยเป็นดุลพินิจของศาล แต่ถ้าไม่มาพบอัยการตามคำสั่ง จะส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนให้นำตัวทักษิณมาดำเนินการส่งฟ้อง และต้องลุ้นว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่
ทั้ง 2 คดีดังกล่าวถ้ามีคำตัดสินออกมา ‘เป็นลบ’ จะส่งผล ‘เชิงบวก’ กับ ‘ฝ่ายอนุรักษนิยม’ อย่างแน่นอน พร้อมกับเป็นการ ‘รีเซ็ตการเมือง’ เข้าสู่กระบวนการ ‘จัดตั้งรัฐบาล’ กันอีกรอบหนึ่ง แม้ว่า ‘ทักษิณ’ ตามหลักการจะไม่ได้มีตำแหน่งแห่งที่อะไรในรัฐบาลก็ตาม แต่หลังม่านหลายคนย่อมทราบกันดีอยู่ว่าเขามีบทบาทสำคัญในรัฐบาลชุดนี้อย่างไร
@ ทักษิณ ชินวัตร
ขณะที่การยุบพรรคก้าวไกล หากเกิดขึ้นจริงย่อมทำให้ สส.ก้าวไกล ไม่น้อยกว่า 30-40 คน ที่แสดงเจตจำนงเป็น ‘งูเห่า’ พร้อมแปรพักตร์ไปอยู่กับพรรคขั้วรัฐบาล เป็นไปตามแผนดัน ‘พี่ใหญ่’ คัมแบ็กสู่ ‘หลังเสือ’ ก่อนหน้านี้ แม้ว่าแผนยื่นศาลรัฐธรรมนูญล้ม ‘นายกฯเศรษฐา’ อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าก็ตาม
เมื่อ ‘พลพรรคสีส้ม’ ระส่ำระส่ายอีกรอบ ย่อมส่งผลกระทบต่อ ‘เสียงอิสระ’ ที่เตรียมเข้าไปสมัครเป็น สว.ชุดใหม่ด้วย และหวังผลให้ได้เสียง 1 ใน 3 อาจเป็นไปได้ยากกว่าเดิมแน่นอน
การเซ็ตเกม ‘ล้มกระดาน’ เลือก สว.ครั้งนี้
ฝ่ายที่มีแต่ได้กับได้หนีไม่พ้นกลุ่มอนุรักษนิยมนั่นเอง แต่แน่นอนว่าการเดินหมากเกมนี้ก็อยู่ในสายตาพรรคเพื่อไทย-ฝ่ายเสรีนิยมด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ต้องจับตาดูว่าจะแก้หมากเกมนี้อย่างไรให้รอดพ้นบ่วง กลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมอีกรอบ
ห้ามกระพริบตา