เปิดคำสั่ง ปปง. ยึดทรัพย์ 241.7 ล. ‘เสี่ยว เจี้ยนเหวิน’ กลุ่มคนจีน พวก คดีขนเหล้าบุหรี่หนีภาษี ผลสอบระบุชัด‘ลิน เยี่ยน’ สัญชาติกัมพูชา หน.ขบวนการ เจ้าของแท้จริง พฤติกรรมตั้งบริษัทนอมินีคนไทยกว้านซื้อที่ดิน เลี่ยง กม. เสร็จจดทะเบียนเปลี่ยนกก. ผู้ถือหุ้นเป็นของตนเอง
กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.122/2566 วันที่ 5 ก.ค.2566 ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวราย ราย MR. XAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก จำนวน 31 รายการ มูลค่า 241.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมารายงานแล้วว่า ที่มาของคดี สำนักงาน ปปง.ได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าทำการตรวจคันบ้านเลขที่ 396/63 ซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พบสุราต่างประเทศยี่ห้อ KWEICHOW MOUTAI จำนวน 50 ขวด ยี่ห้อ HENNESSY X.O จำนวน 8 ขวด ไพ่ จำนวน 522 สำรับ และบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 11 คอตตอน ซึ่ง MR. XIAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) เป็นพ่อครัวที่บ้านหลังดังกล่าว รับว่าเป็นของตนและเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีนโดยยังมิได้เสียภาษีและไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร ต่อมามีการขยายผล และตรวจสอบการถือครองทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องและมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์ดังกล่าว
ล่าสุดสำนักข่าวอิศราตรวจสอบคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน กับพวก เพิ่มเติมพบว่า Mr. Lin Yian (นายลิน เยี่ยน) สัญชาติกัมพูชา เป็นหัวหน้าและผู้วางแผน เป็นผู้ใช้ประโยชน์และครอบครองบ้านที่เกิดเหตุ และเป็นเจ้าของสุรา ไพ่ และบุหรี่ และเป็นนายจ้างของ นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน (Xiao Jianwen) โดยบุคคลกลุ่มนี้ ได้ร่วมกันจัดหาคนไทยและว่าจ้างคนไทยให้เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นแทน เพื่อจัดตั้งเป็นคณะบุคคลในรูปแบบบริษัทโดยมีคนไทยยินยอมเข้าร่วมเป็นกรรมการและแอบอ้างผู้ถือหุ้นบริษัทที่เป็นคนไทย เพื่อให้ครบจำนวนร้อยละ 51 เพื่อให้บริษัทเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย ตามที่กฎหมายกำหนด แล้วไปซื้อที่ดินในนามบริษัทสัญชาติไทย หลังจากซื้อที่ดินแล้ว จึงเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นและกรรมการเป็นของตนเอง ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินและทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทของคนต่างด้าว เป็นการกระทำในลักษณะปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายอันมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ดิน มีรายละเอียดดังนี้
นอกจากนี้ยังปรากฎหลักฐานว่า MR. XAO JIANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) ผู้ต้องหา ได้กระทำความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติสุลกากร พ.ศ. 2560 ในความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรไทย ตามคดีอาญาที่ 788/2565 ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาการค้าระหว่างประเทศกลาง และปรากฎข้อมูลตามสำนวนคดีอาญาที่ 790/2565 สถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข ดำเนินคดีกับ MR. LIN Yian สัญชาติกัมพูชา ในความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 265 ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาพระโขนง
ต่อมา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขยายผล ตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ 153/2566 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2566 ดำเนินการสืบสวนสอบสวนปรากฎข้อเท็จจริงว่า Mr. Lin Yan (นายลิน เยี่ยน) Mr. Chen Feixiong (นายเฉิน เฟยสง) Mr. Yiteng Huang (นายอี้เถิง หวง) นางสาววรวสัญซ์ เหลาผา นายไชยพร ทรัพย์ประดิษฐ์ และนางทองบูรณ์ กตะศิลา ร่วมกันวางแผนปกปิด วิธีดำเนินการโดยจัดหาคนไทยและว่าจ้างคนไทยให้เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นแทน เพื่อจัดตั้งเป็นคณะบุคคลในรูปแบบบริษัทโดยมีคนไทยยินยอมเข้าร่วมเป็นกรรมการและแอบอ้างผู้ถือหุ้นบริษัทที่เป็นคนไทย เพื่อให้ครบจำนวนร้อยละ 51 เพื่อให้บริษัทเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย ตามที่กฎหมายกำหนด แล้วไปซื้อที่ดินในนามบริษัทสัญชาติไทย หลังจากซื้อที่ดินแล้ว จึงเปลี่ยนแปลง ผู้ถือหุ้นและกรรมการเป็นของตนเอง ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินและทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทของคนต่งด้าว
อีกทั้งจากการสอบสวนกรรมการและผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทยยืนยันว่าไม่เคยลงหุ้น และไม่ทราบว่าเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ไม่เคยเข้าประชุม ไม่ทราบที่ตั้งบริษัท ซึ่งการกระทำของบุคคลทั้ง 6 ราย จึงเป็นการกระทำในลักษณะปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายอันมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ดิน
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ Mr. Lin Yian (นายลิน เยี่ยน) เป็นหัวหน้าผู้สั่งการ วางแผน นำคนไทยมาเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นแทนเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าว อันเป็นความผิดฐานอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 และจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า Mr. Lin Yian (นายลิน เยี่ยน) มีการซื้อทรัพย์สินมีราคาสูงจำนวนมากด้วยเงินสด ไม่มีการผ่อนชำระ เช่นที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ เงินสด ซึ่งผิดประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 ในการได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สืบสวนสอบสวนพบว่า Mr. Lin Yan (นายลิน เยี่ยน) Mr. Chen Feixiong (นายเฉิน เฟยสง) Mr. Yiteng Huang (นายอี้เถิง หวง) เป็นผู้ใช้ประโยชน์และครอบครองบ้านที่เกิดเหตุ และเป็นเจ้าของสุรา ไพ่ และบุหรี่ และเป็นนายจ้างของ นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน (Xiao Jianwen) จึงเชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ร่วมกันนำเข้าของซึ่งยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร และโดยการหลีกเสี่ยงข้อจำกัดและข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น เป็นอั้งยี่ และเป็นบุคคลต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยดำเนินคดีเพิ่มเป็นคดีอาญาที่ 85/2566 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข ได้กล่าวหา
1. Mr. Lin Yian (นายลิน เยี่ยน) 2. Mr. Chen Feixiong (นายเฉิน เฟยสง) 3. Mr.riteng Huang (นายอี้เถึง หวง) ในความผิดฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ร่วมกันช่วยช่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ร่วมกันนำเข้าของซึ่งยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร และโดยการหลีกเลี้ยงข้อจำกัดและข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นเป็นอั้งยี่ และเป็นบุคคลต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วน 4.นายไชยพร ทรัพย์ประดิษฐ์ 5. นางสาววรวลัญช์ เหลาผา และ 6. นางทองบูรณ์ กตะศิลา กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ เป็นความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการควบคุมแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 มาตรา 86 มาตรา 111 ประมวลกฎหมายที่ดิน และ มาตรา 83 มาตรา 209 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่153/2566 ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด
กรณีปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ MR. XAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดเกี่ยวกับการค้าตามประมวลกฎหมายอาญาเฉพาะที่เกี่ยวกับการปลอม หรือการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าหรือความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอันมีลักษณะเป็นการค้าอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(10) และ (13)แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 คณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 จึงมีมติเห็นชอบให้เพิ่มฐานความผิด ตามมาตรา 3 (10) และ (13) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินราย MR. XAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัด จำนวน 31 รายการ มูลค่า 241.7 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 3 รายการ เป็นที่ดินตามโฉนด 3 แปลงพร้อม สิ่งปลูกสร้าง ผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง เป็นนิติบุคคล ได้แก่
ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 51094 ต.ดอกไม้ แขวงประเวศ กรุงเทพฯ เนื้อที่ประมาณ 1 งาน 17.9 ตารางวา มูลค่า 34 ล้านบาท บริษัท ซิโน แปซิฟิก บริดจ์ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง
ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 57091 ต.ดอกไม้ แขวงประเวศ กรุงเทพฯ เนื้อที่ประมาณ 89.1 ตารางวา มูลค่า 36,700,000 บาท บริษัท หย่ง ปัง เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง
ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 34539 ต.คลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เนื้อที่ประมาณ 70.1 ตารางวา มูลค่า 14,990,000 บาท บริษัท วาการดา เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง (ดูรายละเอียดในเอกสาร)
อย่างไรก็ตาม คดีข้างต้นยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดตามข้อกล่าวหา