ปปง.ยึดอายัดทรัพย์กลุ่มคนจีน‘เสี่ยว เจี้ยนเหวิน’ 31 รายการ 241.7 ล้านคดี ลักลอบนำเข้าเหล้าตปท. บุหรี่ ไพ่ หนีภาษีศุลกากร หลัง ตร. สน.อุดมสุข ส่งเรื่อง เจ้าตัวรับเป็นแค่พ่อครัว เงินสด เครื่องประดับ โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ชื่อบุคคล นิติบุคคล ถือครอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.122/2566 วันที่ 5 ก.ค.2566 ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวราย ราย MR. XAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก จำนวน 31 รายการ มูลค่า 241.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ซึ่งเป็นกรณี สำนักงานปป.ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข ตามหนังสือที่ ตช 0015(บก.4)10(3)/4577 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565
คำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินระบุว่า
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าทำการตรวจคันบ้านเลขที่ 396/63 ซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พบสุราต่างประเทศยี่ห้อ KWEICHOW MOUTAI จำนวน 50 ขวด ยี่ห้อ HENNESSY X.O จำนวน 8 ขวด ไพ่ จำนวน 522 สำรับ และบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 11 คอตตอน ซึ่ง MR. XIAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) เป็นพ่อครัวที่บ้านหลังดังกล่าว รับว่าเป็นของตนและเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีนโดยยังมิได้เสียภาษีและไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร เจ้าพนักงานตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และได้จับกุมตัว MR. XIAO JIANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นคดีอาญาที่ 788/2565
พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วทางคดี มีพยานหลักฐานพอเชื่อได้ว่า MR. XIAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหงิน) ผู้ต้องหา ได้กระทำความผิดฐานนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ทำเรือ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือของต้องกำกัด หรือของต้องห้าม หรือของที่นำเข้ามาในราขอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพี่ธีการศุลกากร หรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเสี่ยงอากรข้อจำกัด หรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นเป็นความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
จึงเห็นสมควรสั่งฟ้อง MR. XAO JIANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9)แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า MR. XIAOJIANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ประชุมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม.254/2566 ลงวันที่ 24 เมษายน 2566 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดราย MR. XIAO JANWEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฏหลักฐานที่เชื่อได้ว่า MR. XIAO JIANEN (นายเสี่ยว เจี้ยนเหวิน) กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (7) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง หรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฎว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 31 รายการ พร้อมดอกผล
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34(3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบการพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 31 รายการ พร้อมตอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัด จำนวน 31 รายการ มูลค่า 241,748,297.90 บาท ประกอบด้วย เงินสด (15 ล้านบาท) สร้อยข้อมือ แหวน นาฬิกา รถยนต์ 7 คัน , รถจักรยานยนต์ 3 คัน โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แบบพกพา ห้องชุด 2 ห้อง ที่ดินตามโฉนด 3 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินสดต่างงประเทศ จำนวนหนึ่ง มีชื่อบุคคลและนิติบุคคล เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง (ในส่วนของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีชื่อนิติบุคคล 3 ราย)