"...นายอิทธิพล พร้อมด้วย น.ส.รัชดา จาติกวณิช คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,162,381 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 543,016 บาท นายอิทธิพล แจ้งมีทรัพย์สิน 37,794,599 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 11,989,482 บาท ทั้งหมด 3 บัญชี เงินลงทุน 500,000 บาท ในบริษัท บางแสนวิลล่า จำกัด โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 16,200,000 บาท เป็นบ้านเดี่ยวที่เขตลาดพร้าว กทม. ยานพาหนะ 5,040,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน ยีห้อ Mercedes Benz สิทธิและสัมปทาน 3,504,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 561,117 บาท เช่น สร้อยคอทองคำหนักประมาณ 5 บาท 1 เส้น พระเครื่อง 4 องค์ นาฬิกา 2 เรือน ปืน 2 กระบอก..."
'นายอิทธิพล คุณปลื้ม' อดีต รมว.วัฒนธรรม
เป็นนักการเมืองไทยอีก 1 ราย ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา
หลังจากเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายอิทธิพล คุณปลื้ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา และพวก กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 1 เสียง เห็นว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งฟ้องคดี นายอิทธิพล คุณปลื้ม ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2566 ซึ่งเป็นวันนัดหมายให้มารายงานตัวเพื่อส่งฟ้อง และถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ออกหมายจับ เนื่องจากเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ต่อจากนั้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2566 นายอิทธิพล ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย เพื่อมอบตัวสู้คดี โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหลบหนี แต่มีอาการป่วยติดเชื้อโควิด 2019 ระหว่างเดินทางไปทำภารกิจส่วนตัวที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายอิทธิพล ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค2 มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณา โดยตีราคาหลักประกันเป็นเงินสด 120,000 บาท โดยในระหว่างออกนั่งบัลลังก์ศาลฯ ได้สอบคำให้การจำเลย นายอิทธิพลให้การปฏิเสธสู้คดี และประสงค์หาทนายความเอง
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ต้องหลบหนีไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องคดีนี้ ตามวันเวลานัดหมาย ในวันที่ 4 ก.ย.2566
อาจเป็นเพราะต้องการถ่วงคดีให้หมดอายุความ
กล่าวคือ คดีนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ถูกชี้มูลความผิดอาญาในคดีถูกกล่าวหาพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 โดยบทลงโทษ เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ขณะที่บทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี มีอายุความ 15 ปี ตามมาตรา 95 (2)
เมื่อนับอายุความคดีตั้งแต่วันกระทำความผิด คือ วันที่ 10 ก.ย.2551 จึงทำให้คดีนี้จะครบกำหนดอายุความ ในวันที่ 10 ก.ย.66
ส่วนการถูกออกหมายจับนั้น ตามกฎหมายมาตรา 68 ป.วิอาญา ระบุให้ หมายจับสิ้นผล 3 กรณี คือ 1. จับกุมได้ 2.ขาดอายุความ และ 3.เพิกถอนหมาย
ดังนั้น ในการหลบหนี ของนายอิทธิพล คุณปลื้ม หากเกินวันที่ 10 ก.ย.2566 ไปแล้วยังไม่สามารถจับกุมตัว คดีนี้ก็จะหมดอายุความ หมายจับก็จะสิ้นผลตามไปด้วย
"เข้าใจว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม คงรู้หลักกฎหมายเหล่านี้ดี เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณี นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี ในคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี ที่มีการหลบหนีไม่ไปรายงานตัวต่ออัยการเพื่อส่งตัวฟ้องคดี และถูกออกหมายจับ แต่ก็ไม่สามารถตามจับกุมตัวได้ จนคดีขาดอายุความมาแล้ว" แหล่งข่าวกล่าว
- วางเงินสด1.2แสน! 'อิทธิพล' ได้ประกันตัวสู้คดีวอเตอร์ฟร้อนท์ หลังอ้างติดโควิดเข้าICUกัมพูชา
- ทนแรงกดดันไม่ไหว! ลูกน้อง 'อิทธิพล คุณปลื้ม' โผล่มอบตัวสู้คดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- โดน ม.157! ป.ป.ช.ชี้มูล 'อิทธิพล คุณปลื้ม-พวก' ออกใบอนุญาตสร้างคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- เปิดตัว บ.บาลีฮาย ผู้ขอใบอนุญาตสร้างวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ ก่อน 'อิทธิพล คุณปลื้ม-พวก'โดนชี้มูล
- เชื่อหลบหนี! ศาลฯ สั่งออกหมายจับ 'อิทธิพล คุณปลื้ม' คดีอนุญาตสร้างคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- 10 ก.ย.คดีหมดอายุความ-หมายจับสิ้นผล! เผยเหตุ 'อิทธิพล คุณปลื้ม' หนี
- สั่งเพิกถอนโฉนดด้วย! ฉบับเต็ม มติป.ป.ช.ชี้มูลคดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ ก่อน 'อิทธิพล' หนี
- ล่าหลักฐานหนีไปตปท.! ตำรวจ ปปป.บุกเมืองชลฯค้นบ้าน ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’
- ชัดๆ! พฤติการณ์ 'อิทธิพล'คดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ เร่งรีบออกใบอนุญาต พิจารณา'วันเดียวจบ'
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566
อิทธิพล คุณปลื้ม
โดย นายอิทธิพล พร้อมด้วย น.ส.รัชดา จาติกวณิช คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,162,381 บาท มีหนี้สินทั้งหมด 543,016 บาท
นายอิทธิพล แจ้งมีทรัพย์สิน 37,794,599 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 11,989,482 บาท ทั้งหมด 3 บัญชี เงินลงทุน 500,000 บาท ในบริษัท บางแสนวิลล่า จำกัด
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 16,200,000 บาท เป็นบ้านเดี่ยวที่เขตลาดพร้าว กทม. ยานพาหนะ 5,040,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน ยีห้อ Mercedes Benz
สิทธิและสัมปทาน 3,504,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 561,117 บาท เช่น สร้อยคอทองคำหนักประมาณ 5 บาท 1 เส้น พระเครื่อง 4 องค์ นาฬิกา 2 เรือน ปืน 2 กระบอก หนี้สิน 83,966 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี
ส่วน น.ส.รัชดา คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 43,310,325 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 37,574,374 บาท ทั้งหมด 10 บัญชี เงินลงทุน 198,500 บาท ในสหกรณ์ออมทรัพย์ ปตท. จำกัด ยานพาหนะ 4,500,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน ยีห้อ Mercedes Benz
สิทธิและสัมปทาน 687,451 บาท และทรัพย์สินอื่น 350,000 บาท เป็นนาฬิกา 2 เรือน หนี้สิน 459,050 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี
ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ)
นายอิทธิพล แจ้งมีรายได้ต่อปี 17,072,883 บาท เป็นเงินเดือน 1,388,880 บาท ค่าเบี้ยประชุม 80,000 บาท หมายเหตุระบุ ตามภาษีปี 2565 และเงินเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต 15,604,003 บาท รายจ่ายต่อปี 6,221,000 บาท
ส่วน น.ส.รัชดา คู่สมรส แจ้งมีรายได้ต่อปี 2,800,000 บาท จากการขายรถ และรายจ่ายต่อปี 408,800 บาท
นายอิทธิพล แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,468,880 บาท
กล่าวสำหรับ นายอิทธิพล เป็นทายาทการเมืองของ หรือนายสมชาย คุณปลื้ม 'กำนันเป๊าะ' โดยนายอิทธิพล เริ่มเส้นทางการเมือง เป็น สส.ชลบุรี 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปี 2551 เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีหลายกระทรวง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อมาจึงได้หันมาทำงานการเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเมืองพัทยา และได้รับเลือกตั้งถึง 2 สมัย
ในปี 2561 นายอิทธิพลเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ,เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ต่อมาในปี 2562 ได้รับโปรดเกล้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมจากนั้นในเดือนมิถุนายน 2564 นายอิทธิพลได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนการต่อสู้คดีความในชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ นายอิทธิพล จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป
แบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด