"...พล.อ. ประวิตร ชี้แจงถึงนาฬิกาตามภาพข่าวเรือนที่ 16 นี้ ว่า ไม่สามารถระบุยี่ห้อและรุ่นนาฬิการวมทั้งวัน เวลาและสถานที่ได้ และพิจารณาจากภาพประกอบแล้ว น่าจะเป็นระยะเวลาผ่านมานานพอสมควรอย่างไรก็ตาม พล.อ. ประวิตร ยืนยันว่า (คาดดำปกปิดข้อความ) ให้ยืมมาใส่อย่างแน่นอน เนื่องจาก (คาดดำปกปิดข้อความ) ให้ยืมนาฬิกามาใส่เป็นระยะเวลานานมาแล้ว และพล.อ.ประวิตร ได้คืนให้แก่ (คาดดำปกปิดข้อความ) ด้วยตนเอง..."
หลังจากยืดเยื้อ ขึ้นโรงขึ้นศาลสู้คดีกันมานานหลายยก
ในที่สุด นายวีระ สมความคิด ก็ได้รับมอบเอกสารผลสอบคดีนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครบทั้ง 3 รายการแล้ว รวมจำนวนนับร้อยหน้า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา
แม้ว่าเอกสารบางส่วนจะมีการทำคาดดำปกปิดข้อความอยู่ ซึ่งนายวีระ เห็นว่า เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามคำพิพากษาศาลปกครอง และเตรียมที่จะการดำเนินคดีต่อ ป.ป.ช. โดยจะนำเอกสารไปบังคับคดีกับศาลปกครอง พร้อมประกาศว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับกรรมการ ป.ป.ช.และพนักงาน ป.ป.ช.ที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหลังปีใหม่ด้วย
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลครั้งใหม่ ระหว่าง นายวีระ กับ ป.ป.ช. ช่วงหลังปีใหม่จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดู
อย่างไรก็ดี ต่อกรณีนี้หากโฟกัสไปที่เอกสารผลสอบคดีนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร ที่ ป.ป.ช.ส่งมอบให้นายวีระ เป็นทางการมาแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ที่ติดตามไปทำข่าวการรับมอบเอกสารสำคัญดังกล่าวที่สำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2566 และมีโอกาสเห็นข้อมูลแล้ว 'บางหน้า' แม้ว่าจะมีการทำคาดดำปกปิดข้อความอยู่
แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดเนื้อความแล้ว จะพบว่ามีข้อมูลสำคัญหลายส่วนเกี่ยวกับการสอบสวนคดีนี้ ของ ป.ป.ช. ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก่อน
เริ่มต้นจากข้อมูลการสรุปความเห็นเกี่ยวกับรายงานผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินกรณีนี้ ที่มีการระบุว่า เป็นผลสืบเนื่องจากกรณีปรากฏเป็นข่าวและมีผู้ร้องเรียนว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่แสดงรายการนาฬิกาข้อมือหรูและแหวนหลายรายการในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ขณะที่ สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมีหนังสือขอให้ พล.อ. ประวิตร ชี้แจงข้อเท็จจริง ตรวจสอบนาฬิกาที่บ้านของ (คาดดำปกปิดข้อความ) ซึ่งเป็นเพื่อนของพล อ.ประวิตร
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้จำหน่ายนาฬิกาในประเทศ 13 ราย ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายนาฬิกาในต่างประเทศ รวม ๗ บริษัท ใน 4 ประเทศ รวมถึงขอทราบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมศุลกากร กรมการกงสุล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสอบปากพยานบุคคล 10 ราย และยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภายในสำนักงาน ป.ป.ช. ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงบางประการร่วมด้วย ได้แก่ สำนักการต่างประเทศ สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ
สำหรับประเด็นการตรวจสอบนาฬิกา ในรายงานการสอบสวนระบุว่า เมื่อพิจารณาคำชี้แจงของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชี ประกอบกับภาพถ่ายขณะสวมใส่นาฬิกา ฟังเป็นยุติว่าผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชี เป็นผู้ครอบครองทรัพย์นั้น เพียงแต่อ้างว่ายืมนาฬิกาจาก (คาดดำปกปิดข้อความ) เท่ากับกล่าวอ้างว่า มิได้ยึดถือเพื่อตน
จึงมีประเด็นที่ต้องพิสูจน์ว่าผู้มีหน้าที่ยืนบัญชีฯ ครอบครองเพื่อผู้อื่นตามที่อ้างจริงหรือไม่
หากพิสูจน์ไม่ได้ว่านาฬิกาเป็นของ (คาดดำปกปิดข้อความ) ต้องฟังว่าผู้มีหน้าที่ยืนบัญชีฯ ครอบครองเพื่อตน จึงมีเหตุให้เชื่อว่านาฬิกาเป็นของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีฯ
หากฟังว่านาฬิกาเป็นของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีฯ จริง ยังคงต้องพิสูจน์ต่อไปว่าครอบครองเพื่อตนอยู่ ณ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีฯ หรือไม่ และต้องพิสูจน์อีกว่าทรัพย์สินอื่นของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีฯ มีมูลค่ารวมกันถึงสองแสนบาทหรือไม่
ในข้อมูลเอกสารบางหน้าที่ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา มีโอกาสได้เห็นแล้ว ยังมีการระบุถึงผลการสอบสวนข้อมูลนาฬิกาที่มีการจัดกลุ่มประเภทไว้ด้วย อาทิ กลุ่มที่ 1 พบตัวเรือนแต่ไม่ทราบ Serial Number จำนวน 1 เรือน
ป.ป.ช.ระบุข้อมูลส่วนนี้ไว้ว่า นาฬิกาตามภาพข่าวเรือนที่ 16 คือ นาฬิกายี่ห้อ Blancpain ซึ่งไม่สามารถทราบ SerialNumber ได้จากการตรวจสอบนาฬิกาภายนอกเบื้องต้น
สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อขายนาฬิกาและการรับบริการหลังการขายไปยังผู้จำหน่ายนาฬิกาในประเทศ 1 ราย คือ (คาดดำปกปิดข้อความ) โดยสอบถามจากข้อมูลเท่าที่ปรากฏบนตัวเรือน ทาง (คาดดำปกปิดข้อความ) แจ้งว่า ตรวจสอบรายงานการขายของบริษัทฯ แล้วไม่พบรายการซื้อขาย
ขณะที่ พล.อ. ประวิตร ชี้แจงถึงนาฬิกาตามภาพข่าวเรือนที่ 16 นี้ ว่า ไม่สามารถระบุยี่ห้อและรุ่นนาฬิการวมทั้งวัน เวลาและสถานที่ได้ และพิจารณาจากภาพประกอบแล้ว น่าจะเป็นระยะเวลาผ่านมานานพอสมควร
อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประวิตร ยืนยันว่า (คาดดำปกปิดข้อความ) ให้ยืมมาใส่อย่างแน่นอน เนื่องจาก (คาดดำปกปิดข้อความ) ให้ยืมนาฬิกามาใส่เป็นระยะเวลานานมาแล้ว และพล.อ.ประวิตร ได้คืนให้แก่ (คาดดำปกปิดข้อความ) ด้วยตนเอง
ส่วน (คาดดำปกปิดข้อความ) ให้การเกี่ยวกับนาฬิกาตามภาพข่าวที่ 16 เพียงว่าเป็นนาฬิกายี่ห้อ Blancpain พบหมายเลขชุดหนึ่งบนตัวเรือนระบุเลขว่า 1/33
ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับนาฬิกา Blancpain จากพนักงานของผู้จำหน่ายนาฬิกาทางโทรศัพท์ จึงทราบว่าหมายเลข 1/33 หมายความว่านาฬิกาเรือนดังกล่าว เป็นนาฬิกา 1 เรือน ในจำนวนนาฬิกาทั้งหมด 33 เรือน ของรุ่น Limited edition นั้นๆ
ดังนั้น หมายเลย 1/33 จึงไม่ใช่ Serial Number
คณะทำงานวินิจฉัย แล้วเห็นว่า เรื่องนี้เป็นการตรวจสอบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนถึง 5 ราย มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัดเมื่อยังมีช่องทางตรวจสอบได้ โดยการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกามาตรวจสอบและวิเคราะห์ตัวเรือนนาฬิกาเพื่อค้นหา Serial Number แล้วใช้เป็นข้อมูลตรวจสอบกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายนาฬิกาทั้งในและต่างประเทศ
แต่การตรวจสอบดังกล่าวต้องอาศัยอำนาจการตรวจสอบเชิงลึกของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นควรขออนุมัติตรวจสอบเชิงลึกเพื่อตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เหล่านี้ คือ ข้อมูลสำคัญที่ปรากฎอยู่ในเอกสารผลการสอบสวนคดีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร บางหน้า ที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา มีโอกาสได้เห็นแล้วและสามารถบันทึกเอาไว้
แม้จะมีการทำคาดดำปกปิดข้อความชื่อผู้เกี่ยวข้องเอาไว้ แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงเค้าลางแห่งกระบวนการและแนวทางการในสอบสวนคดีนี้ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่รับผิดชอบคดีนี้ รวมไปถึงคำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร ต่อคดีนี้ ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร (แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้อนุมัติตรวจสอบเชิงลึกตามที่มีการเสนอเรื่องหรือไม่?)
ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการพิจารณาคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่มีมติ 5 ต่อ 3 เสียง ให้ตีตกเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่มีมูลเพียงพอว่า พล.อ.ประวิตร จงใจ ยื่นบัญชีแสดงรายการอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ในช่วงเดือนธ.ค.2561 ที่สร้างความเคลือบแคลง สงสัยต่อสาธารณชนมาโดยตลอด
ข้อมูลชุดนี้ จึงถือเป็นการโหมโรง เปิดผลสอบคดีนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร เพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชนได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดข้อมูลส่วนอื่นๆ เป็นอย่างไร สำนักข่าวอิศรา จะรีบนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไปโดยเร็ว
โปรดอดใจรออีกไม่นานนับจากนี้