“…พยานหลักฐานโจทก์เพียงเท่าที่นำสืบมา จึงไม่อาจรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ตราสารการโอนหุ้นบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด และหนังสือสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัดเอกสารหมาย จ.15 ถึง จ.17 เป็นเอกสารปลอม…”
..................................
จบ ‘ยกแรก’
สำหรับศึกชิงหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) หรือ ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ’ มูลค่านับหมื่นล้านบาท
เมื่อศาลอาญา (ชั้นต้น) พิพากษา ‘ยกฟ้อง’ ในคดีที่ เกษม ณรงค์เดช ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เคพีเอ็นกรุ๊ป’ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา ,ณพ ณรงค์เดช (บุตรชายคนกลางของ เกษมกับคุณหญิงพรทิพย์) และ สุรัตน์ จิรจรัสพร (กรรมการบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด) ในข้อหาใช้เอกสารปลอม
เนื่องจากศาลฯพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานของโจทก์ (เกษม) ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 3 มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม กรณีโอนหุ้น บริษัท โกลเด้น มิวสิคฯ (เจ้าของหุ้น วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ สัดส่วน 38.6%) จำนวน 459.1 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 99.99% จาก เกษม ไปเป็นของ คุณหญิงกอแก้ว
“พยานหลักฐานโจทก์เพียงเท่าที่นำสืบมา จึงไม่อาจรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ตราสารการโอนหุ้นบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด และหนังสือสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัดเอกสารหมาย จ.15 ถึง จ.17 เป็นเอกสารปลอม
เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยดังกล่าว การใช้เอกสารทั้งสามฉบับ จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม กรณีต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยทั้งสาม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง เช่นกัน
พิพากษายกฟ้อง” คำพิพากษาศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.2497/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ 3518/2561 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2565 ระบุ
@ย้อนรอยร้าวครอบครัว ‘ณรงค์เดช’ ปมลงทุน ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ’
ย้อนกลับไปในเดือน เม.ย.2561 รอยร้าวภายในครอบครัว ‘ณรงค์เดช’ ซึ่งคุกรุ่นมาก่อนหน้านี้แล้ว ได้ปรากฏเด่นชัดต่อสาธารณะ เมื่อ เกษม ณรงค์เดช ผู้เป็นบิดา , กฤษณ์ ณรงค์เดช พี่ชายคนโต และ กรณ์ ณรงค์เดช น้องชายคนเล็ก ออกแถลงการณ์ตัดความสัมพันธ์กับ ณพ ณรงค์เดช น้องชายคนกลาง
“การดำเนินการใดๆ ของนายณพ ณรงค์เดช ที่ผ่านมา และต่อจากนี้ครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ฉบับนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับปมขัดแย้งภายในครอบครัวณรงค์เดช ว่า “...เริ่มจากประมาณ 2 ปีที่แล้ว นายณพ ณรงค์เดช ได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวณรงค์เดช ในเรื่องการจัดหาเงินเพื่อลงทุนซื้อหุ้นใน บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH)
ซึ่งต่อมาครอบครัวณรงค์เดช ก็ให้ความช่วยเหลือในการให้ยืมเงินสด การให้นำทรัพย์สินของครอบครัวณรงค์เดช และทรัพย์สินอื่นที่ครอบครัวณรงค์เดชจัดหามา ไปเป็นหลักประกันในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม
แต่หลังจากที่ นายณพ ณรงค์เดช ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว นายณพ กลับดำเนินการใดๆ โดยใช้ชื่อเสียง ของครอบครัวณรงค์เดชไปแอบอ้างเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยลำพัง โดยทางครอบครัวณรงค์เดชไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญหลายประการ ไม่มีส่วนในการรับรู้ถึงรายละเอียดของการดำเนินการเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว...”
(แถลงการณ์ครอบครัวณรงค์เดช เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2561)
ในอีกไม่ถึง 2 เดือนต่อมา หรือวันที่ 13 มิ.ย.2561 ความขัดแย้งภายในครอบครัวณรงค์เดช ปรากฏรอยร้าวลึกยิ่งขึ้น
เมื่อมีการโอนหุ้น บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด (จดเบียนจัดตั้งที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง) จำนวน 459.1 ล้านหุ้น หรือ 99.99% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท จาก เกษม ไปเป็นของ คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา (แม่ยายของ นพ ณรงค์เดช)
ส่งผลให้ในวันที่ 29 มิ.ย.2561 เกษม ยื่นฟ้องต่อศาลฮ่องกง โดยขอให้ศาลฯมีคำสั่งเพิกถอนการโอนหุ้น บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด ไปยัง คุณหญิงกอแก้ว เนื่องจากมีการปลอมแปลงเอกสาร พร้อมทั้งขอให้ศาลฯมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฝ่ายเดียว ซึ่งศาลฮ่องกงรับฟ้องเป็น หมายเลขคดีที่ HCA 1525/2018
“(2) นายณพ และ/หรือ คุณหญิงกอแก้ว ได้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อใช้ในการโอนหุ้นโกลเด้น มิวสิค จากนายเกษมไปให้แก่คุณหญิงกอแก้วโดยมิชอบ และการโอนหุ้นดังกล่าวแท้จริงแล้วเป็นการหลอกลวง
(3) การดำเนินการใดๆ กับหุ้นโกลเด้น มิวสิค และ/หรือหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ ของนายณพ จะนำความเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัวณรงค์เดช
(4) การดำเนินการใดๆ กับหุ้นโกลเด้น มิวสิค จะทำให้ครอบครัวณรงค์เดช ตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรงที่จะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง เพราะหุ้นรีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี่ เป็นเพียงทรัพย์สินอันมีนัยสำคัญประการเดียวของโกลเด้น มิวสิค” คำให้การของ เกษม เพื่อสนับสนุนคำขอคุ้มครองชั่วคราวฯ ต่อศาลฮ่องกง ระบุ
แต่ทว่าในเวลาต่อมา คือ วันที่ 22 พ.ย.2561 เกษม กลับยื่นคำร้องต่อศาลฮ่องกง ‘ขอถอนฟ้องคดี’ และศาลฯมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในวันที่ 26 ก.ค.2562 ท่ามกลางข้อเท็จจริงที่ว่า อาจมีความล้มเหลวในการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา
“สำหรับประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย ในประเด็นอันเป็นเนื้อหาของกระบวนพิจารณานี้ ตามที่ได้มีคำวินิจฉัยดังปรากฏหน้าที่ 24 ถึง 25 ข้างต้น ย่อมไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษ อันสมควรที่จะวินิจฉัยให้แตกต่างไปจากหลักเกณฑ์ทั่วไปว่า ผู้ร้อง (ที่ขอถอนฟ้องหรือขอยุติการดำเนินคดี) จะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย
อีกทั้งตามที่ได้ปรากฏว่านายเกษม (อย่างน้อยที่สุด) ล้มเหลวในการเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา ด้วยเหตุนี้ จึงวินิจฉัยให้ประเมินค่าใช้จ่ายในคดีและให้โจทก์ชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าวโดยพลัน ในอัตราสูงสุด” คำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีศาลสูงเลขที่ HCA 1525/2018 วันที่ 26 ก.ค.2562 ระบุ
@ฟ้อง ‘คุณหญิงกอแก้ว-ณพ’ ข้อหาปลอมเอกสาร 2 คดี
อย่างไรก็ดี แม้ว่าศาลฮ่องกงได้มีคำพิพากษาอนุญาตให้ เกษม ถอนฟ้องในคดีปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้น บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด ไปในวันที่ 26 ก.ค.2562 แล้ว แต่ทว่าการพิจารณาคดีใช้เอกสารปลอมในการโอนหุ้น บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด ในประเทศไทย ยังคงเดินหน้าต่อไป
เนื่องจาก 11 เดือนก่อนหน้านั้น หรือเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2561 เกษม ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว ,ณพ และสุรัตน์ ในข้อหาใช้เอกสารปลอมกรณีโอนหุ้นบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด ต่อ ศาลอาญา รัชดา เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.2497/2561
หลังจากสู้คดีเกือบ 4 ปี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2565 ศาลชั้นต้นได้มีพิพากษา ‘ยกฟ้อง’ คุณหญิงกอแก้ว , ณพ และสุรัตน์ ในคดีใช้เอกสารปลอม เนื่องจากศาลเห็นว่า
“พยานหลักฐานโจทก์เพียงเท่าที่นำสืบมา จึงไม่อาจรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ตราสารการโอนหุ้นบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด และหนังสือสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทโกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัดเอกสารหมาย จ.15 ถึง จ.17 เป็นเอกสารปลอม…”
แต่คดียังไม่สิ้นสุด เพราะ เกษม อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์
อีกทั้งเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 อัยการ และเกษม (ยื่นขอเป็นโจทก์ร่วม) เป็นโจกท์ยื่นฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว ,ณพ และ สุภาพร วงศ์อนันต์ (อดีตฝ่ายกฎหมายของ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ) ในข้อหาร่วมกันปลอม และใช้เอกสารปลอมกรณีการโอนหุ้น บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ดฯ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.1708/2564
โดยคดีนี้เกิดขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2562 เกษม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ คุณหญิงกอแก้ว และ ณพ ต่อ สน.ทองหล่อ ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ในกรณีการโอนหุ้นบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ดฯ ซึ่งเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษในระหว่างที่คดีหมายเลขดำที่ อ.2497/2561 ยังอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลฯ
ส่วนสถานะล่าสุดของคดีนี้ (คดีหมายเลขดำที่ อ.1708/2564) นั้น ศาลฯจะเริ่มกระบวนการพิจารณาสืบพยานในคดี ในเดือน ก.พ.2566
ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีความพยายามจาก เกษม ในการยื่นคำร้องต่อศาลฯขอให้ ‘รวม’ การพิจารณาในคดีหมายเลขดำที่ อ.2497/2561 ของศาลอาญารัชดา กับคดีหมายเลขดำที่ อ.1708/2564 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเอกสารซ้ำกัน 3 ฉบับ แต่ศาลฯมีคำสั่งไม่อนุญาต
(เกษม ณรงค์เดช ,กฤษณ์ ณรงค์เดช , กรณ์ ณรงค์เดช และทนายความสำนักงานกฎหมายเบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ เปิดคฤหาสน์ 3 ชั้น ในซอยสุขุมวิท แถลงข้อเท็จจริงการฟ้องร้องคดีความซื้อขายหุ้น บริษัท วินด์เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เมื่อช่วงสายของวันที่ 12 ธ.ค.2561)
@‘ศาลแพ่งกรุงเทพใต้’ อายัดเงินปันผล ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ’ 1.7 พันล.
นอกเหนือจากคดีปลอมแปลงเอกสารแล้ว ศึกภายในและระหว่างครอบครัว ‘ณรงค์เดช-บุญยะจินดา’ ได้ขยายแนวออกไป
โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2562 เกษม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว ,นายณพ และ บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ดฯ ข้อหาเรียกทรัพย์คืน (หุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด) ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็น คดีหมายเลขดำที่ พ.1031/2562
เกษม ยังยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ พ.1031/2562 โดยขอให้ศาลฯ มีคำสั่งอายัดเงินปันผลของ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ที่บริษัทฯจะจ่ายให้กับบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ดฯ และ กลุ่มประเดช กิตติอิสรานนท์ ล่วงหน้า ก่อนที่บริษัทฯจะมีการอนุมัติจ่ายปันผล
กระทั่งต่อมาวันที่ 1 ก.ค.2563 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำสั่งอายัดเงินปันผลของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ตามที่ เกษม ยื่นคำร้องฯ
ก่อนที่ในเวลาต่อมาในวันที่ 11 พ.ค.2565 ศาลฯจะมีคำสั่ง ‘เพิกถอน’ การอายัดเงินปันผลของ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หลัง ณพ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ซึ่งล่าสุด เกษม อยู่ระหว่างขออนุญาตฎีกา
แต่ทว่าในท้ายที่สุด ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำสั่งอายัดเงินปันผลของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด อีกครั้ง ในวันที่ 19 พ.ค.2565
หลังจากพี่น้องณรงค์เดช 'กฤษณ์-กรณ์' เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว , ณพ ,บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ และบริษัท โกลเด้น มิวสิคฯ ข้อหาติดตามเอาทรัพย์คืน (หุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ) เป็น คดีหมายเลขดำที่ พ.978/2565 พร้อมทั้งขอให้ศาลฯมีคำสั่งอายัดเงินปันผลของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด
และแม้ว่าต่อมา ณพ จะยื่นคำร้องขอให้ศาลฯมีคำสั่งยกเลิกการอายัดเงินปันผลของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ในคดีหมายเลขดำที่ พ.978/2565 แต่ศาลฯมีคำสั่งยกร้องของ ณพ ส่งผลให้จนถึงปัจจุบันเงินปันผลของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้งฯ ที่ถูกศาลฯสั่งอายัดไว้ มีจำนวนกว่า 1,700 ล้านบาท
@‘ณพ-บ.โกลเด้น มิวสิค’ ฟ้อง ‘กฤษณ์-กรณ์’ เบิกความเท็จ 4 คดี
ทั้งนี้ ในขณะที่ คุณหญิงกอแก้ว และ ณพ ถูก เกษม และพี่น้อง ‘กฤษณ์-กรณ์’ ฟ้องรวม 4 คดี ได้แก่ คดีใช้เอกสารปลอมกรณีโอนหุ้นโกลเด้น มิวสิคฯ 2 คดี (คดีหมายเลขดำที่ อ.2497/2561 และคดีหมายเลขดำที่ อ.1708/2564) และคดีเรียกทรัพย์คืน (วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ) 2 คดี (คดีหมายเลขดำที่ พ.1031/2562 และคดีหมายเลขดำที่ พ.978/2565)
ณพ ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ของฝ่าย ‘ตั้งรับ’ ทำได้เพียงยื่นฟ้อง ‘คู่กรณี’ ในคดีเบิกความเท็จ
เพราะ ณพ ต้องรับศึกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นกรณี นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้งฯ ฟ้องคดีต่อศาลอังกฤษ ทวงเงินค่าหุ้น 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งล่าสุดค่าใช้จ่ายในการสู้คดีสูงถึงกว่า 500 ล้านบาทแล้ว และยังต้องเผชิญหน้ากับ ‘กลุ่มประเดช’ ในการบริหารภายใน บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ
โดยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2565 ณพ ยื่นฟ้อง กรณ์ น้องชายคนเล็ก ในคดีเบิกความเท็จ เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.2154/2565 และยื่นฟ้อง กฤษณ์ พี่ชายคนโต ในคดีเบิกความเท็จ เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.2155/2565
หลังจาก กรณ์ และ กฤษณ์ ซึ่งเบิกความเป็นพยานในคดีหมายเลขดำที่ อ.2597/2561 ได้อ้างว่าครอบครัวณรงค์เดชได้ให้เงินทุนและทรัพย์สินกับ ณพ เพื่อนำไปใช้สำหรับการลงทุนซื้อหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด แต่ ณพ เห็นว่านั่นเป็นการเบิกความเท็จ โดยทั้ง 2 คดี ศาลฯนัดวันไต่สวนมูลฟ้องในเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้
นอกจากนี้ บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด โดย สุรัตน์ จิรจรัสพร (กรรมการบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กฤษณ์ ในคดีเบิกความเท็จ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1262/2565 โดยกล่าวหาว่า กฤษณ์ เบิกความเท็จในคดีหมายเลขดำที่ พ.1031/2562
ขณะเดียวกัน บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำกัด โดย สุรัตน์ ยังเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรณ์ ในคดีเบิกความเท็จ เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.1263/2565 โดยกล่าวหาว่า กรณ์ เบิกความเท็จในคดีหมายเลขดำที่ พ.978/2565 อีกด้วย
@‘ณพ’ ฟ้อง ‘กฤษณ์’ ยักยอก ‘ค่าเช่า-ค่าเช่าช่วง’ ทรัพย์มรดก
ไม่เพียงเท่านั้น ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในครอบครัวณรงค์เดช จากกรณีการโอนหุ้นบริษัท โกลเด้น มิวสิคฯ ณพ ได้ยื่นฟ้อง กฤษณ์ ผู้เป็นพี่ชาย ต่อศาลแขวงกรุงเทพใต้ ในคดียักยอก เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.2886/2563
โดยคดีนี้ ณพ กล่าวหาว่า กฤษณ์ ในฐานะผู้จัดการมรดก ได้ยักยอกเงินค่าเช่า ค่าเช่าช่วงและสิทธิประโยชน์ร่วมกันในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ กิ่งอำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่ง ณพ มีสิทธิได้รับส่วนแบ่ง ไปเป็นของตัวเอง
ทั้งนี้ ศาลประทับรับฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2565 และนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยวันที่ 25 ม.ค.2566
ขณะที่ก่อนหน้านี้ คือ วันที่ 7 เม.ย.2563 ณพ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอถอดถอน กฤษณ์ ออกจากผู้จัดการมรดกของคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช เนื่องจากนายกฤษณ์ละเลยมิได้ทำหน้าที่ของผู้จัดมรดก และกระทำการปฏิปักษ์ต่อเจตนารมณ์ของเจ้ามรดกที่ระบุไว้ในพินัยกรรมฯ แต่ศาลฯยกคำร้องฯ
เหล่านี้เป็นคดีความทั้งหมด ที่ทำให้ ‘พ่อ-พี่น้อง’ ในครอบครัว ‘ณรงค์เดช’ ต้องมาเผชิญหน้าในกันศาลฯ อันเป็นผลพวงจากศึกแย่งชิงหุ้น ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ’ มูลค่านับหมื่นล้าน!
อ่านประกอบ :
หลังโดนพ่อแท้ๆ แจ้งความ! 'ณพ-คุณหญิงกอแก้ว' ให้ปากคำคดีปลอมเอกสารซื้อขายหุ้นวินด์ฯ แล้ว
สดจากครอบครัว'ณรงค์เดช' ในวันที่ พ่อ-ลูก-แม่ยาย แตกหักฟ้องร้องคดี
เปิดตัว 3 บ.ฮ่องกง คู่กรณี 'ณพ ณรงค์เดช' ในคดีศึกชิงหุ้น วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ หมื่นล.
เปิดธุรกิจหมื่นล. 3 พี่น้องเคพีเอ็นกรุ๊ป ก่อนขับ‘ณพ’พ้นกงสี ปมหุ้น WEH ขุมข่าย 50 บริษัท
บ.วินด์ แจง'กรณ์ ณรงค์เดช' ปูดจัดประชุมด่วนช่วงไปตปท.ไม่จริง-ยันให้แสดงความเห็นทุกวาระ