"...หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามนัยมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ด้วย..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติ 4 ต่อ 4 เสียง ซึ่งไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวหาในคดีร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่ากว่า 658 ล้านบาท และเห็นชอบให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้ส่งรายการ สำนวนการไต่สวน เอกสารพยานหลักฐานและความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินแล้ว แต่ก็มีทรัพย์สินบางส่วนที่เห็นว่าไม่ใช่ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ และให้ถอนการอายัดไปด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการลงมติ ป.ป.ช. ในการลงมติชี้มูลความผิด นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการฯ ในคดีร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่ากว่า 658 ล้านบาท และเห็นชอบให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน ดังกล่าวเพิ่มเติม
มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
หนึ่ง. มติ 4 ต่อ 4 เสียง
ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาคดีนี้ มีการลงมติแยกเป็น 2 ฝ่าย คือ
ฝ่ายแรก ได้แก่ พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. นางสาวสุภา ปิยะจิตติ, นายวิทยา อาคมพิทักษ์ และนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา กรรมการ ป.ป.ช. มีความเห็นว่า ทรัพย์สินรายการเงินฝากในบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ ชื่อ ชื่อบัญชี นางธนิภา พวงจำปา จำนวนรวม 41 รายการ จำนวนรวม 194,587,589.87 บาท และรายการเงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำปา ใน 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท จีไอ กรีน พาวเวอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล อินเตอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล รีฟายเนอรี่ จำกัด บริษัท จีไอ กรีม ปาล์ม ออยล์ จำกัด บริษัท ดอนสัก วิลล์ จำกัด และบริษัท ปาล์ม บิช คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวม 243,762,500 บาท เป็นทรัพย์สิน นายประหยัด พวงจำป่า ผู้ถูกกล่าวหา คดีร่ำรวยผิดปกติ
ส่วนฝ่ายที่สอง ได้แก่ นายณรงค์ รัฐอมฤต นางสุวณา สุวรรณจูฑะ พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ และนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข เห็นว่า นายประหยัด พวงจำปา ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการและกำกับดูแลภารกิจด้านงานป้องกันการทุจริต และภารกิจสนับสนุนเป็นงานหลัก ซึ่งไม่เอื้อโอกาสที่จะใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน และจากการไต่สวน ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์และพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ทรัพย์สินรายการเงินฝากในบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นางธนิภา พวงจำปา จำนวนรวม 41 รายการ จำนวนรวม 194,587,589.87 บาท และรายการเงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำปา ใน 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท จีไอ กรีน พาวเวอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล อินเตอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล รีฟายเนอรี่ จำกัด บริษัท จีไอ กรีม ปาล์ม ออยล์ จำกัด บริษัท ดอนสัก วิลล์ จำกัด และบริษัท ปาล์ม บิช คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวม 243,762,500 บาท เป็นการได้ทรัพย์สินมาโดยสืบเนื่องจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของนายประหยัด ผู้ถูกกล่าวหา กรณีจึงไม่อาจรับฟังได้ว่าทรัพย์สินรายการดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่นายประหยัด พวงจำป่า ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ
เบื้องต้น พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ประธานฯ จึงสรุปว่า ผลการลงคะแนนเสียง เพื่อมีมติของที่ประชุมในเรื่องนี้ ต้องถือตามความเห็นของกรรมการ ป .ป.ช. ฝ่ายที่หนึ่ง จำนวน 4 เสียง ซึ่งไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ว่า นายประหยัด ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่า 658,680,980.32 บาท
สอง. รายละเอียดทรัพย์สิน
สำหรับทรัพย์สิน รวมมูลค่า 658,680,980.32 บาท ปรากฏตามรายการดังต่อไปนี้
1. ห้องชุดในอาคารชุด Wolfe House 389 Kensington High Street, London สหราชอาณาจักร มูลค่า 4,900,500 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือ 220,330,890.45 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 23 มกราคม 2561 1 ปอนด์สเตอร์ลิง คิดเป็น 44.9609 บาท) ของนางธนิภา พวงจำปา คู่สมรส ซึ่งให้บริษัท S & Mariner Company Ltd เป็นผู้ถือครองแทน
2. รายการเงินฝากในบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นางธนิภา พวงจำป่า รวม 41 รายการ จำนวนรวม 194,587,589.87 บาท
3. รายการเงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำป่า ใน 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท จีไอ กรีน พาวเวอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล อินเตอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล รีฟายเนอรี่ จำกัด บริษัท จีไอ กรีน ปาล์ม ออยล์ จำกัด บริษัท ดอนสัก วิลล์ จำกัด และบริษัท ปาล์ม บิช คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวนรวม 243,762,500 บาท
อย่างไรก็ดี ทรัพย์สินในส่วนของรายการเงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำปา ใน 6 บริษัท ได้มีการโอน ยักย้าย เงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำป่า ในบริษัท จีไอ กรีน พาวเวอร์ จำกัด บริษัท โกลบอล อินเตอร์ จำกัด และบริษัท จีไอ กรีน ปาล์ม ออยล์ จำกัด ไปยังบุตรสาว ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งอายัดเงินลงทุนที่อยู่ในชื่อของ บุตรสาว ไว้ชั่วคราวแล้ว รายการเงินลงทุนดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ จึงเห็นชอบให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน และขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่มีการอายัดไว้ชั่วคราวเฉพาะในส่วนที่ได้รับโอนมาจากนางธนิภา พวงจำปา ตกเป็นของแผ่นดิน ตามรายการดังต่อไปนี้
1. เงินลงทุนของบุตรสาว ในบริษัท จีไอ กรีน พาวเวอร์ จำกัด มูลค่า 2,812,500 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินรายการเดียวกับที่ได้มีการโอน ยักย้าย มาจากเงินลงทุนของ นางธนิภา พวงจำปา
2 เงินลงทุนของบุตรสาว ในบริษัท โกลบอล อินเตอร์ จำกัด มูลค่า 221,000,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินรายการเดียวกับที่ได้มีการโอน ยักย้าย มาจากเงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำปา
3. เงินลงทุนของบุตรสาว ในบริษัท จีไอ กรีน ปาล์ม ออยล์ จำกัด มูลค่า 12,750,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินรายการเดียวกับที่ได้มีการโอน ยักย้าย มาจากเงินลงทุนของนางธนิภา พวงจำปา
ที่ประชุมจึงมีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และแจ้งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกผู้ถูกกล่าวหาภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม ต่อไป
หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามนัยมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ด้วย
สาม. ถอนอายัดคืนทรัพย์สินบางส่วน
ในการประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ ยังมีมติถอนการอายัดทรัพย์สิน ที่ผ่านการพิจารณาจากสำนวนการไต่สวนแล้ว เห็นว่า ทรัพย์สินบางรายการหรือทรัพย์สินบางส่วนมิใช่ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ดังนี้
1. รถยนต์ BMW X1 SDrive18i xLine (2017) 1 คัน
2. รถยนต์ BMW 530e M Sport (2020) 1 คัน
3. รายการเงินลงทุนในบริษัท จีไอ กรีน พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งมีชื่อบุตรสาว เป็นผู้ถือหุ้น ให้ถอนการอายัดเฉพาะในส่วนที่มิใช่รายการทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ในมูลค่า 10,687,500 บาท
4. รายการเงินลงทุนในบริษัท โกลบอล อินเตอร์ จำกัด ซึ่งมีชื่อบุตรสาว เป็นผู้ถือหุ้น ให้ถอนการอายัดเฉพาะในส่วนที่มีใช่รายการทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ในมูลค่า 35,700,000 บาท
5. รายการเงินลงทุนในบริษัท จีไอ กรีน ปาล์ม ออยล์ จำกัด ซึ่งมีชื่อบุตรสาว เป็นผู้ถือหุ้น ให้ถอนการอายัดเฉพาะในส่วนที่มิใช่รายการทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ในมูลค่า 10,850,000 บาท
6. รายการเงินลงทุนในบริษัท ดอนสัก วิลล์ จำกัด ซึ่งมีชื่อบุตรสาว เป็นผู้ถือหุ้น มูลค่า 150,000 บาท
7. รายการเงินลงทุนในบริษัท บลู โอเชี่ยน ทรานส์ จำกัด ซึ่งมีชื่อบุตรสาว เป็นผู้ถือหุ้น มูลค่า 800,000 บาท
สี่. ยื่นอุทธรณ์ขอความเป็นธรรมไม่เป็นผล
ทั้งนี้ ในการพิจารณาลงมติยึดทรัพย์คดีนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันด้วยว่า ภายหลังจากที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติดังกล่าว นายประหยัด พวงจำปา ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ขอความเป็นธรรม แต่กรรมการ ป.ป.ช. ยืนยันมติเดิม ชี้ว่า นายประหยัด มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ก่อนหน้านี้ นายประหยัด พวงจำปา ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 60 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบไปแล้ว โดยอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องคดีต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีมีพฤติการณ์ควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินจำนวน 6 รายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินและหนี้สินในชื่อของ นางธนิภา พวงจำปา คู่สมรส เป็นทรัพย์สินในประเทศ จำนวน 2 รายการ รวม 2,010,000 บาท และทรัพย์สินในต่างประเทศ จำนวน 4 รายการ รวม 225,383,103 บาท มูลค่ารวม 227,393,103 บาท ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจากศาล
ส่วนนายประหยัด เคยแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ยืนยันว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของภรรยา และทำการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมไปแล้ว ดังนั้นการดำเนินคดีดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้ง และดำเนินการไม่ชอบหลายประการ ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ตน ส่วนข่าวที่พาดพิงว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับบางคดีนั้น คดีเหล่านั้นยังไม่มีข้อยุติ
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลฯ จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไปแบบห้ามกระพริบต่อโดยเด็ดขาด
(อ่านประกอบ : รองเลขาฯ ป.ป.ช.ลั่นโดนแกล้งหลังถูกฟันปกปิดบัญชีฯ 227 ล.-ชี้ช่อง ส.ส.ยื่นถอดถอน กก.)
อ่านประกอบ :
- สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่! ศาลฎีกาฯรับฟ้อง‘รองเลขาฯ ป.ป.ช.’คดียื่นทรัพย์สินเท็จ 227 ล.
- เลื่อนพบอัยการบ่อย-ไม่มาทำงาน! อสส.ฟ้อง‘ประหยัด’ คดียื่นทรัพย์สินเท็จต่อศาลฎีกาฯแล้ว
- ชอบด้วย กม.-ป.ป.ช.ยันตามเดิม! ไม่เพิกถอนมติชี้มูล‘ประหยัด’ยื่นทรัพย์สินเท็จ 227 ล.
- อสส.รับดำเนินการยื่นคำร้องศาลฎีกาฯคดี‘ประหยัด’รองเลขาฯ ป.ป.ช.แจ้งบัญชีเท็จ 227 ล.
- คณะทำงานร่วมฯอัยการ-ป.ป.ช.ชง อสส.ชี้ขาด‘ประหยัด พวงจำปา’คดียื่นทรัพย์สินเท็จ 227 ล.
- รองเลขาฯ ป.ป.ช.ลั่นโดนแกล้งหลังถูกฟันปกปิดบัญชีฯ 227 ล.-ชี้ช่อง ส.ส.ยื่นถอดถอน กก.
- ยลโฉมอพาร์ตเมนต์หรูอังกฤษ 4.5 ล.ปอนด์! ซุกชื่อ‘เมีย’รองเลขาฯ ป.ป.ช.ถูกฟันปกปิดบัญชีฯ
- มติทางการ! ป.ป.ช.เอกฉันท์ฟันรองเลขาฯซุกทรัพย์สิน 227 ล.-คอนโดหรูอังกฤษ 4.5 ล.ปอนด์
- สอบรวยผิดปกติต่อ!‘วัชรพล’ยันให้ความเป็นธรรมเต็มที่‘บิ๊ก ป.ป.ช.’ปกปิดทรัพย์สิน
- ‘บิ๊ก’ป.ป.ช.ขอความเป็นธรรม! ปมถูกฟันปกปิดทรัพย์สิน-ที่ประชุม กก.นัดถกอีก 13 ส.ค.
- ฟัน‘บิ๊ก ป.ป.ช.’ปกปิดทรัพย์สินหลัง‘ญาติ’ โดนสอบเส้นทางเงินคดีปลูกปาล์มอินโดฯ
- เปิดลำดับเหตุการณ์สำคัญคดีปลูกปาล์มอินโดฯก่อนกรณีค่านายหน้า32ล.ดอลลาร์