"...การเลิกมูลนิธิ ระบุไว้ชัดเจนว่า ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไปโดยมติของคณะกรรมการหรือโดยเหตุผลใดก็ตาม ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลือให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ กองทัพบก..."
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่อุทยานราชภักดิ์รายหนึ่ง ถึงกำหนดการเปิดใช้งานพิพิธภัณฑ์ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ได้รับคำตอบว่า "ไม่มีกำหนด"
เมื่อถามว่า ทำไมงานก่อสร้างส่วนนี้ถึงมีความล่าช้า เจ้าหน้าที่ อุทยานราชภักดิ์รายนี้ ตอบว่า "เท่าที่ทราบเรามีการเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบใหม่ หลังจากสัญญาเดิมสิ้นสุดไปแล้ว เข้าใจว่าผู้รับผิดชอบปัจจุบัน ก็คือ ทหารช่างของกองทัพบก แต่เนื่องจากทหารช่างติดภารกิจงานในกรุงเทพฯ อยู่ เลยยังไม่ได้เข้ามาทำงาน และไม่รู้จะเข้ามาทำงานที่นี่ได้เมื่อไร"
คือ ข้อมูลสำคัญที่ปรากฏอยู่ในรายงาน เรื่อง เปลี่ยนผู้รับผิดชอบใหม่! 5 ปีผ่านไป พิพิธภัณฑ์อุทยานราชภักดิ์ งบ 80 ล. ยังไร้วี่แวว จากการลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการต่างๆ ใน อุทยานราชภักดิ์ โดยเฉพาะงานจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์อีกล่าสุดของ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ที่นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
น่าสนใจว่า ใครคือผู้ผิดชอบอุทยานราชภักดิ์รายใหม่ ที่ถูกระบุถึงดังกล่าว
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารของอุทยานราชภักดิ์ พบว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่องจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ มูลนิธิราชภักดิ์ ซึ่งนายทะเบียนมูลนิธิ กทม.ได้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565
มีสาระสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนรายละเอียดเรื่องคุณสมบัติ และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ จากกรรมการที่เป็นบุคคลทั่วไป ในช่วงที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ มาเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพบกทั้งหมด
โดยในประกาศฉบับเดิม ระบุว่าคุณสมบัติกรรมการของมูลนิธิ ในข้อ 7. ดังนี้
7.1 มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์
7.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
7.3 ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
8. กรรมการของมูลนิธิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
8.1 ถึงคราวออกตามวาระ
8.2 ตายหรือลาออก
8.3 ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับข้อ 7
8.4 เป็นผู้มีความประพฤติและปฏิบัติตนเป็นที่เสื่อมเสีย และคณะกรรมการมูลนิธิมีมติห้ออกโดยมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของคณะกรรมการมูลนิธิ
ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น ข้อ 7 กรรมการของมูลนิธิต้องมีคุณสมบัติคือเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
7.1 รองเสนาธิการทหารบก ที่รับผิดชอบสายงานด้านกิจการพลเรือน (รอง เสธ.ทบ.) เป็น ประธานกรรมการมูลนิธิ
7.2 เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก (จก.ยศ.ทบ.) เป็น รองประธานกรรมการ
7.3 ผู้อำนวยการสำนักปกครองและบริการกำลังพล กรมกำลังพลทหารบก (ผอ.สปบ.กพ.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.4 ผู้อำนวยการสำนักโยบายและแผน กรมยุทธการทหารบก (ผอ.สนผ.ยก.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.5 ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุน กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก (ผอ.สสน.กบ.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.6 ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนกองทัพบก (ผอ.สกร.กร.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.7 ผู้อำนวยการสำนักบริหารงบประมาณ สำนักงานปลัดบัญชีทหารบก (ผอ.สบง.สปช.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.8 ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก (ผอ.สธน.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.9 ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ (ผบ.ศร.) เป็นกรรมการ
7.10 ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก (ผบ.รร.นส.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.11 เจ้ากรมยุทธโยธาทหารบก (จก.ยย.ทบ.) เป็นกรรมการ
7.12 เจ้ากรมการเงินทหารบก (จก.กง.ทบ.) เป็นกรรมการและเหรัญญิก
7.13 รองผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กมกิจการพลเรือนทหารบก (รอง ผอ.สกรกร.ทบ) เป็นกรรมการและเลขานุการ
7.14 รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก (รอง ผบ.รร.นส.ทบ) เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
7.15 ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน สำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก (ผอ.กกร.สกร.กร.ทบ.) เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ 8 กรรมการของมูลนิธิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
8.1 ได้รับคำสั่งย้ายจากการดำรงตำแหน่ง
8.2 ตายหรือลาออกจากราชการ
สำหรับอำนาจหน้าที่คณะกรรมการมูลนิธิ ได้แก่ กำหนดนโยบาย และดำเนินการตามนโยบาย ควบคุมการเินและทรัพย์สินต่างๆ เสนอรายงานกิจการ รายงานการเงินและบัญชีรายรับ-รายจ่ายต่อนายทะเบียน เป็นต้น
ส่วนเรื่องทุนทรัพย์ ทรัพย์สินและการได้มาซึ่งทรัพย์สิน ของ มูลนิธิราชภักดิ์ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ทรัพย์สินมูลนิธิมีทุนเริ่มแรกคือเงินสด จำนวน 200,000 บาท มูลนิธิอาจได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยวิธีการต่อไปนี้ คือ เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้โดยพินัยกรรมหรือนิติกรรมอื่นๆ โดยมิได้มีเงื่อนไขผูกพันให้มูลนิธิต้องรับผิดชอบในหนี้สินหรือภาระติดพันอื่นใด เงินหรือทรัพย์สิน ที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้ ดอกผลซึ่งเกิดจากทรัพย์สิน ของมูลนิธิ รายได้อันเกิดจากการจัดกิจกรรมซึ่งอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
สำหรับเรื่องการเงิน มีดังนี้ ประธานกรรมการมูลนิธิหรือรองประธานกรรมการมูลนิธิในกรณีทำหน้าที่แทนมีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้คราวละไม่เกิน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการมูลนิธิโดยเสียงข้างมาก เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดได้คราวละไม่เกิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) เงินสดของมูลนิธิหรือเอกสารสิทธิ ต้องนำฝากไว้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นใดที่รัฐบาลค้ำประกัน แล้วแต่คณะกรรมการมูลนิธิจะเห็นสมควร
ขณะที่การสั่งจ่ายเงินโดยเช็คหรือตั๋วสั่งจ่ายเงิน จะต้องมีลายมือชื่อของประธานกรรมการมูลนิธิ, รองประธาน และเลขานุการกับเหรัญญิกลงนามทุกครั้ง จึงจะเบิกจ่ายได้ การใช้จ่ายเงินของมูลนิธิ ให้ใช้จ่ายเงินทุนและดอกผล อันเกิดจากทรัพย์สินที่เป็นทุน และเงินที่ผู้บริจาคมิได้แสดงเจตนาให้เป็นงินสมทบทุนโดยเฉพาะ รวมทั้งรายได้อันเกิดจากการจัดกิจกรรมของมูลนิธิ ให้คณะกรรมการมูลนิธิวางระเบียบเกี่ยวกับการเงินบัญชี และทรัพย์สินของมูลนิธิตลอดจนกำหนดอำนาจหน้าที่ต่างๆ เกี่ยวกับการรับและการจ่ายเงิน นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
นอกจากนี้ ยังให้คณะกรรมการมูลนิธิจัดทำรายงานสถานะการเงินของมูลนิธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผ่านมาเสนอต่อที่ประชุมในการประชุมสามัญประจำปี ให้มีผู้สอบบัญชีของมูลนิธิ ซึ่งคณะกรรมการมูลนิธิเห็นชอบและแต่งตั้งจากบุคคลที่มิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้ที่อื่นของมูลนิธิ โดยจะให้ดำรงตำแหน่งกิตติมศักดิ์ หรือได้รับคำตอบแทนอย่างไร สุดแต่ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิจะกำหนด
โดยผู้สอบบัญชีมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของมูลนิธิ และรับรองงบดุลประจำปีที่คณะกรรมการมูลนิธิจะต้องรายงานต่อกระทรวงมหาดไทย ผู้สอบบัญชีมีสิทธิตรวจสอบบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสอบถามกรรมการมูลนิธิและเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิในเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการเงินการบัญชีและเอกสารดังกล่าวได้
ส่วนการเลิกมูลนิธิ ระบุไว้ชัดเจนว่า ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไปโดยมติของคณะกรรมการหรือโดยเหตุผลใดก็ตาม ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลือให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ กองทัพบก (ผู้รับต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคล)
การสิ้นสุดของมูลนิธินั้น นอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ให้มูลนิธิเป็นอันสิ้นสุดลง โดยมิต้องให้ศาลสั่งเลิกด้วยเหตุต่อไปนี้
- เมื่อมูลนิธิได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้ว ไม่ได้รับทรัพย์ตามคำมั่นเต็มจำนวน
- เมื่อกรรมการมูลนิธิจำนวนสองในสาม มีมติให้ยกเลิก
- เมื่อมูลนิธิไม่อาจหากรรมการได้ครบตามจำนวนกรรมการ ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของมูลนิธิ
- เมื่อมูลนิธิไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใด
(คลิกดูประกาศฉบับเต็มที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/D/043/T_0093.PDF)
ปัจจุบันที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ อยู่ที่อาคารกองบัญชาการกองทัพบก บ้านเลขที่ 111 ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
จากข้อมูลทั้งหมด ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันมูลนิธิราชภักดิ์ อยู่ภายใต้การดูแลของ กองทัพบก ทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ดี ในประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร เรื่องจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ มูลนิธิราชภักดิ์ฉบับใหม่ดังกล่าว มิได้แสดงรายละเอียดรายรับ-รายจ่าย ของมูลนิธิ เอาไว้ด้วย
จึงไม่ทราบว่า ณ ปัจจุบัน มูลนิธิราชภักดิ์มีเงินเหลืออยู่กี่มากน้อย
โดยเฉพาะรายรับจากเงินบริจาคช่วงแรกที่เริ่มก่อสร้างอุทยานตั้งแต่ช่วงปี 2558 ที่ว่ากันว่ามีวงเงินสูงถึงตัวเลขพันล้านบาท
ส่วนรายละเอียดข้อมูลอื่นๆ รวมถึงแผนการดำเนินงานสร้างงานพิพิธภัณฑ์ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่
หากมีความคืบหน้า สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป
อ่านประกอบ :
- ป.ป.ช.ไม่ให้ข้อมูล‘อิศรา’คดีราชภักดิ์ อ้างตีตกในชั้นแสวงข้อเท็จจริง ยังไม่ไต่สวน
- วัดความโปร่งใส? เปิดแฟ้ม‘อิศรา’ ขอข้อมูล ป.ป.ช.แต่ถูกปฏิเสธ ก่อนกรณี ‘ปรีชา’
- ไม่พบความผิดปกติ! ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ 9:0 ตีตกคดีสร้างราชภักดิ์
- ศอตช.สอบไม่ครบ! ป.ป.ช.สานต่อล่ามือมืดหักหัวคิวสร้างราชภักดิ์
- ไม่ให้ข้อมูลราชภักดิ์! ทบ.อ้างรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคล-โยนขอ ป.ป.ท.-สตง.เอง
- สำนักเลขาฯทบ.จี้กรมกำลังพลทหารบกเปิดข้อมูลสร้างราชภักดิ์แก่‘อิศรา’
- ‘อิศรา’ใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารขอ ทบ.เปิดรายละเอียดสร้าง‘อุทยานราชภักดิ์’
- 2 เดือนเพิ่งตอบ! ทบ.ไม่ให้ข้อมูลสร้างราชภักดิ์'อิศรา'อ้าง สตง.สอบอยู่
- ‘วีระ’ ค้าน ศตอช.สรุป 'ราชภักดิ์' โปร่งใส ลั่นนโยบายปราบโกงหมดความชอบธรรม
- เช็คจ่ายเมื่อไหร่-ใครสร้างรั้ว! ปมที่ยังไม่เคลียร์หลัง ศอตช.ยันราชภักดิ์โปร่งใส?
- มีประเด็นใหม่! ป.ป.ช.สั่งสอบเพิ่มปมราชภักดิ์-รวมข้อมูลกล่าวหา‘บิ๊กโด่ง’
- ‘วีระ’ยื่น ป.ป.ช.สอบ‘อุดมเดช-ศิริชัย’ ปมก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
- เจาะถุงเงิน! ‘บ.สยามปุระ’เอาจากไหนจ่ายเช็ค 20 ล.บริจาคสร้าง‘ราชภักดิ์’
- หุ้น‘เซียนอุ๊’หายจาก บ.สยามปุระฯช่วงเกิดเรื่องราชภักดิ์-นักธุรกิจโผล่ถือแทน
- เทียบจุดตาย! ‘ราชภักดิ์-อผศ.ขุดคลอง’ วัดใจ‘รบ.บิ๊กตู่’สางปัญหาใต้พรม?
- สตง.ชงศอตช.ชี้ขาดผลสอบราชภักดิ์ ลั่นพร้อมให้สื่อซักถาม-โชว์เช็คเซียนพระ
- ตีเช็ค5ใบ20ล. บริจาคแทนโรงหล่อ!เซียนพระอุ๊ โผล่แจงสตง.ไร้หัวคิวราชภักดิ์
- ทหารตามเงินได้แล้ว แต่ไม่มีใครเอาคืน! โรงหล่อแจงยิบปมจ่ายเงิน 'เซียนพระ'
- แกะรอย 'อุ๊ กรุงสยาม' เซียนพระคดีอุทยานราชภักดิ์ ถูกทหารเชิญตัวให้ปากคำจริงหรือ?
- ขมวดปมหัวคิวโรงหล่อ! สรุป 'เซียนพระอุ๊' มีเอี่ยวจริงหรือ? หาตัวมาแถลงชัดๆได้ไหม?
- เปิดตัว2เอกชนใหม่ สร้างตึก รปภ.-ป้ายราชภักดิ์!คู่สัญญาร.ร.นายร้อยฯ 216 ล.
- เบ็ดเสร็จคว้า2 สัญญา 46 ล.! ผู้รับเหมาจ.นนท์ ยันทำงานอุทยานราชภักดิ์เพื่อชาติ-ไร้หัวคิว
- ทบ.ยกเลิกประกวดราคาสร้างรั้ว‘ราชภักดิ์’วิธีพิเศษ 9.3 ล.ทั้งที่ทำเสร็จแล้ว
- ย้อนข้อมูล ทบ.ประกาศจ้างสร้างรั้ว 'ราชภักดิ์'ยกเลิกหลังทำเสร็จ-ใครสร้าง?
- ทบ.เฉย! ‘อิศรา’ร้องเรียน กก.ข่าวสารฯขอให้เปิดเผยข้อมูลสร้างราชภักดิ์