"...แม้โทษแต่ละกระทงความผิดจะสามารถรอการลงโทษได้ก็ตาม แต่พฤติกรรมของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 นอกจากจะไม่สำนึกในความผิดแล้ว ยังให้การปฏิเสธ ทั้งเป็นการกระทำที่มุ่งเอาแต่ประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องของกฎหมายและตามทำนองคลองธรรม ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและสังคมโดยส่วนรวม ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ..."
นายธัมมารัตน์ นาคทอง อดีตนายอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และพวกอีก 3 ราย คือ นายประยูร สมโภชน์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี นายสมเกียรติ สมโภชน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และนายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มล่าสุด ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษคนละหลายปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีทุจริตโครงการจ้างเหมาขุดลอกคลองและสระน้ำ ปี 2548
โดยคดีนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องคดีเอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายธัมมารัตน์ นาคทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัด ปราจีนบุรี และพวกอีก 3 ราย คือ นายประยูร สมโภชน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี นายสมเกียรติ สมโภชน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และนายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ในคดีทุจริตโครงการจ้างเหมาขุดลอก คลองและสระน้ำ ปี 2548 ซึ่ง ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ในช่วงปี 2563
คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ชี้มูลความผิด นายธัมมารัตน์ นาคทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 91 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2542 มาตรา 7 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 162 (1) (4) และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการ เสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 7 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญากับนายธัมมารัตน์ นาคทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1ในความผิดฐานนี้
นายประยูร สมโภชน์ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายสมเกียรติ สมโภชน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทาง อาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 และ มาตรา 91 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 7 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 และมาตรา 91
แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 7 ประกอบมาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญากับนายประยูร สมโภชน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายสมเกียรติ สมโภชน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ในความผิดฐานนี้เช่นกัน
@ การพิจารณาศาล
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายธัมมารัตน์ นาคทอง จำเลยที่ 1 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอกบินทร์บุรี ได้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ให้เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการจัดจ้างโครงการขุดลอกคลองและขุดสระน้ำ จำนวน 6 โครงการ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 41 (1) โดยมีหน้าที่ในการจัดส่งประกาศสอบราคาไปยังผู้ประกอบการ
แต่ปรากฏว่า นายธัมมารัตน์ จำเลยที่ 1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดส่งซองเปล่าโดยไม่มีการส่งประกาศสอบราคาไปยังผู้ประกอบการ และได้จัดทำประกาศสอบราคาและเอกสารเกี่ยวกับการจัดจ้างทั้ง 6 โครงการ ย้อนหลังอันเป็นเท็จ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่รับซองสอบราคา และคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา มาลงชื่อในเอกสารจัดจ้างทั้ง 6 โครงการดังกล่าวในภายหลัง
ทั้งที่ความเป็นจริงอำเภอกบินทร์บุรี ไม่มีการดำเนินการจัดจ้างทั้ง 6 โครงการ ไม่มีการรับซองและเปิดซองสอบราคา ตามวันเวลาที่ระบุไว้ในประกาศสอบราคาแต่อย่างใด
อันเป็นการมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เข้าเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
โดยมี นายประยูร สมโภชน์ จำเลยที่ 2 นายสมเกียรติ สมโภชน์ จำเลยที่ 3 และนายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ จำเลยที่ 4 เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของ นายธัมมารัตน์ นาคทอง จำเลยที่ 1
พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นได้ว่า นายธัมมารัตน์ นาคทอง จำเลยที่ 1 มีเจตนาอาศัยตำแหน่งนายอำเภอกบินทร์บุรีที่มีอำนาจในการจัดจ้างโครงการขุดลอกคลองและขุดสระน้ำ จำนวน 6 โครงการ กระทำการไม่เป็นไปตามระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 41 (1) อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยสุจริตสำหรับ ตนเองหรือผู้อื่น ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่อำเภอกบินทร์บุรี
นายธัมมารัตน์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12
นายประยูร สมโภชน์ จำเลยที่ 2 นายสมเกียรติ สมโภชน์ จำเลยที่ 3 และนายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ จำเลยที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 86
แต่การกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 การกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 จึงไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
@ พิพากษาลงโทษ
การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ให้ลงโทษ
นายธัมมารัตน์ จำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก จำเลยที่ 1 กระทงละ 5 ปี รวม 6 กระทงเป็นจำคุก 30 ปี
จำคุก นายประยูร สมโภชน์ จำเลยที่ 2 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 3 กระทงเป็นจำคุก 9 ปี 12 เดือน
จำคุกนายสมเกียรติ สมโภชน์ จำเลยที่ 3 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 6 ปี 8 เดือน
นายศิวพจน์ คูวิจิตรสุวรรณ จำเลยที่ 4 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 5 กระทง เป็นจำคุก 15 ปี 20 เดือน
คำให้การในชั้นไต่สวนฯ และคำเบิกความของจำเลยทั้งสี่ในชั้น พิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกระทงละหนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คงจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 3 ปี 9 เดือน รวม 6 กระทงเป็น จำคุก 18 ปี 54 เดือน
จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 3 กระทงเป็น จำคุก 6 ปี 18 เดือน
จำคุกจำเลยที่ 3 กระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทงเป็น จำคุก 4 ปี 12 เดือน
จำคุกจำเลยที่ 4 กระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 5 กระทงเป็น จำคุก 10 ปี 30 เดือน
แม้โทษแต่ละกระทงความผิดจะสามารถรอการลงโทษได้ก็ตาม แต่พฤติกรรมของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 นอกจากจะไม่สำนึกในความผิดแล้ว ยังให้การปฏิเสธ ทั้งเป็นการกระทำที่มุ่งเอาแต่ประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องของกฎหมายและตามทำนองคลองธรรม ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและสังคมโดยส่วนรวม ถือเป็นเรื่องร้ายแรง
โทษจำคุกไม่สมควรจะรอการลงโทษให้กับจำเลยทั้งสี่ ข้อหาอื่นให้ยก
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
อนึ่งสำหรับความผิดทางวินัยคดีนี้นั้น มีรายงานข่าวว่า เนื่องจาก กรมการปกครอง ได้มีคำสั่งลงโทษไล่ นายธัมมารัตน์ นาคทอง ออกจาก ราชการแล้ว ป.ป.ช.จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องไป ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยกับ นายธัมมารัตน์ นาคทอง ตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (2) อีก
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- ได้รอลงอาญาคุก3 ปี 4 ด.! ศาลอุทธรณ์ แก้โทษอดีตนายกฯ บ้านโตนด ใช้รถหลวงส่วนตัว
- แก้โทษ! ไม่รอลงอาญาคุก 1 ปี อดีตจนท.พัสดุ อบต.แม่ข้าวต้ม ละเว้นตรวจสอบเอกสารการเงิน
- ยืนโทษ! คุก 4 ปี ผู้รับเหมา ทุจริตสร้างโรงกำจัดขยะเทศบาลตำบลปากแพรก นครศรีฯ
- รอลงอาญา คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตนายก อบต.พิมลราช ทุจริตเบิกค่าจ้างปรับสถานที่งานวันสงกรานต์
- ยืนโทษ! คุก 32 ปี 96 ด. อดีตนายก อบต.หนองขวาว จ่ายเงินเดือนมิชอบ
- ยืนโทษ คุก 4 ปี 24 ด.! อดีตรองนายก อบต.กมลา รับสารภาพทุจริตปรับปรุงกุโบร์
- ป.ป.ช.ฟ้องเอง! คุก 3 ปี 4 ด. อดีตปลัดอำเภอหนองพอก ตรวจรับซ่อมอาคาร-บ้านพักขรก.เท็จ