"..วัคซีนกระตุ้น หรือบูสเตอร์โดส (Booster Dose) คือ การฉีดวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันช่วยรักษาระดับภูมิคุ้มกันได้นานขึ้น ภายหลังจากการฉีดวัคซีนครบโดส โดยปกติเมื่อเวลาผ่านไป ภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีนจะเริ่มลดลงตามธรรมชาติ โดยหลายประเทศได้เริ่มฉีดให้กับบุคคลากรสาธารณสุขด่านหน้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวแล้ว.."
---------------------------------------------------------
จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่มีความรุนแรงมากขึ้น แพร่กระจายและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ทำให้วัคซีนที่มีอยู่ประสิทธิภาพลดลง
หลายประเทศทั่วโลกจึงเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือที่เรียกว่า บูสเตอร์โดส (Booster Dose) ให้กับประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รวบรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสในต่างประเทศ มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
วัคซีนกระตุ้น หรือ บูสเตอร์โดส คือ การฉีดวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันช่วยรักษาระดับภูมิคุ้มกันได้นานขึ้น ภายหลังจากการฉีดวัคซีนครบโดส โดยปกติเมื่อเวลาผ่านไป ภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีนจะเริ่มลดลงตามธรรมชาติ
สหรัฐอเมริกา
ในประเทศสหรัฐอเมริกา วัคซีนโควิด-19 บูสเตอร์โดสที่คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (the U.S. Food and Drug Administration: FDA) อนุญาต และแนะนำโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) คือ ชนิด mRNA ของไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ซึ่งสามารถฉีดได้หลังรับวัคซีนชนิดเดียวกันครบโดส 28 วัน โดยระบุว่าสำหรับบุคคลผู้ที่มีภาวะบกพร่องและมีความเสี่ยงเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ควรจะได้รับวัคซีนบูสเตอร์โดสเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่ได้รับในตอนแรก
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า คณะกรรมการอาหารและยา มีมติเป็นเอกฉันท์ 18-0 เสียง ในการประชุมอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 บูสเตอร์โดส เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้แก่ผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปี และผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้ที่ประกอบอาชีพเสี่ยงสูง คือ บุคลากรการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าด้านสาธารณสุข ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 1 เดือน หลังคณะกรรมการอาหารและยา มีมติเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ผู้ป่วยด้วยโรคประจำตัว ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นบุคคลกลุ่มแรกในสหรัฐที่สามารถรับวัคซีนบูสเตอร์ได้ ไม่ว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงวัยใด
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 16-2 เสียง ยังไม่อนุมัติการใช้งานวัคซีนเข็มที่ 3 กับประชาชนทั่วไป โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มที่ 3 ที่มีต่อการลดอัตราการป่วยหลักและเสียชีวิต อีกทั้ง คณะกรรมการอาหารและยา มีความกังวลว่า เมื่อฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว อาจต้องมีการฉีด มากกว่านั้น ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการรับวัคซีนที่อาจมากเกินไป
แม้ว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูง 8 ได้ประกาศเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปในสัปดาห์นี้ โดยอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก คณะกรรมการอาหารและยา และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค
ไฟเซอร์ยันคนทั่วไปควรได้รับเข็ม 3 เช่นกัน
ขณะที่ นายอัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ไฟเซอร์ กล่าวว่า แม้ว่าการอนุมัติวัคซีนเสริมวัคซีนโควิด-19 ครั้งแรกของคณะกรรมการอาหารและยา ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 นี้ แต่บริษัทได้โต้แย้งว่ามีจำเป็นต้องมีการฉีดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิฯ สำหรับประชาชนทั่วไปด้วยเช่นกัน โดยยืนยันว่า ผลการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง 44,000 คน บ่งชี้ว่าการฉีดบูสเตอร์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ 96% หลังฉีดครบสองเข็มไปแล้ว 2 เดือน แต่ลดลงเหลือประมาณ 84% หลังการฉีดครบสามเข็มไปแล้ว 6 เดือน
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ระบุว่า สหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ฉีดบูสเตอร์โดสสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเมื่อเดือนที่แล้ว และมากกว่า 2 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว
นอกจากสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งจะอนุมัติการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสไปเมื่อเร็วๆ นี้ แล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสมาก่อนแล้ว
อิสราเอล
อิสราเอล ประเทศที่ประชากรราว 57% จากทั้งหมด 9.3 ล้านคน ได้รับวัคซีนแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าอีกครั้ง และเพื่อไม่ให้ต้องเกิดการล็อกดาวน์ ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ผู้สูงอายุแล้ว โดยประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เคยรับ วัคซีนไฟเซอร์ ครบ 2 โดสแล้ว นานกว่า 5 เดือน ถึงจะเข้าเกณฑ์สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้
นายนัฟตาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล จึงประกาศว่า รัฐบาล หวังว่าการเดินหน้าทุ่มความพยายามในโครงการฉีดวัคซีนนี้จะประสบความสำเร็จในการหยุดการแพร่ระบาดได้
บราซิล
บราซิล ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมเป็นอันดับที่ 3 ของโลก มีผู้ป่วยมากกว่า 21 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 5 แสนราย โดยได้รับวัคซีนแล้ว อย่างน้อย 1 เข็มประมาณ 123.9 ล้านคน คิดเป็น 59% ของประชากรทั้งหมด และได้รับวัคซีนครบโดสแล้วประมาณ 55.7 ล้านคน คิดเป็น 26.5% ของประชากรในประเทศ
กระทรวงสาธารณสุขบราซิล เปิดเผยว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 หรือ บูสเตอร์ให้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปีและกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ตั้งแต่กลางเดือน ก.ย.เป็นต้นไป โดยจะใช้วัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือไฟเซอร์ โดยจะฉีดวัคซีนบูสเตอร์ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่กลุ่มผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว 6 เดือน และฉีดบูสเตอร์ให้กับเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว 28 วัน
นอกจากนี้ จะลดช่วงเวลาระหว่างวัคซีนไฟเซอร์โดสแรกกับแอสตร้าเซนเนก้าโดสที่ 2 จาก 12 สัปดาห์เหลือ 8 สัปดาห์
อังกฤษ
อังกฤษ ประกาศเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่อยู่บ้านพักคนชรา กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปราะบาง จำนวน 32 ล้านคน ในสัปดาห์แรกของเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา สำหรับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสจะได้รับ หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างน้อย 6 เดือน โดยคณะกรรมการร่วมด้านวัคซีนและภูมิคุ้มกัน (JCVI) แนะนำให้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาครึ่งโดส
นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นการฉีดยากระตุ้นครั้งแรก โดยขอเชิญชวนให้กลุ่มเสี่ยงทุกคนที่มีสิทธิ์ได้รับบูสเตอร์โดสเข้ารับเพื่อเสริมและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันอังกฤษพยายามเชิญชวนประชากรโดยเฉพาะวัยรุ่นให้เข้ารับวัคซีน เพราะประชากรวัยผู้ใหญ่ของอังกฤษที่รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มมีสัดส่วนสูงถึง 90% แต่ในกลุ่มอายุ 18-30 ปี กลับมีอัตราการฉีดวัคซีนเพียง 60%
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย ใช้วัคซีนของโมเดอร์นาเป็นบูสเตอร์โดสให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข เกือบ 1.5 ล้านคน โดยเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนที่ได้รับการบริจาคมาจากสหรัฐฯ ภายใต้โครงการโคแวกซ์ (COVAX) จำนวน 4 ล้านโดส เนื่องจากมีรายงานว่าบุคลากรด้านสาธารณสุขในอินโดนีเซียเสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 1,569 คน
นอกจากนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนทั่วไป เนื่องจากผลการศึกษาชี้ว่า ภูมิต้านทานจากการฉีดวัคซีน 2 เข็มจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
กัมพูชา
ขณะที่ กัมพูชา จะเริ่มแผนฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชากรที่ได้วัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งจะเน้นให้ บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า จำนวน 5 แสน - 1 ล้านคนก่อน โดยใช้วิธีฉีดผสมระหว่างวัคซีนซิโนฟาร์มหรือซิโนแวคกับแอสตร้าเซเนก้า โดยผู้ที่ได้วัคซีนของซิโนฟาร์มหรือซิโนแวค 2 เข็มแล้ว จะได้รับแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มกระตุ้น ส่วนผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว คาดว่าจะได้วัคซีนของซิโนแวค
ไทย
สำหรับประเทศไทย เริ่มการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 บูสเตอร์โดส ให้กับบุคลกรสาธารณสุขด่านหน้า ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย ซิโนแวค 2 เข็มก่อนนี้ โดยกระตุ้นเข็มที่ 3 คือ ไวรัลเวกเตอร์ แอสตร้าเซนตร้า หรือชนิด mRNA ของไฟเซอร์ และเริ่มฉีดกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้าสำหรับประชาชนทั่วไปที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็มด้วยเช่นกัน โดยเริ่มเมื่อสัปดาห์ปลายเดือน ก.ย. แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการรายงานว่าจะมีการฉีดบูสเตอร์โดสให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้รับแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 2 เข็ม
ทั้งหมดนี้ คือสถานการณ์การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโควิด-19 ของประเทศต่างๆ ขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญสายพันธุ์เดลต้า
เรียบเรียงจาก:
- FDA advisers recommend COVID boosters for 65 and older, reject broad approval
- U.S. FDA clears Pfizer COVID-19 booster dose for older and at-risk Americans
- Booster Shots and Third Doses for COVID-19 Vaccines: What You Need to Know
- Indonesia considers COVID-19 booster shots for wider use -govt official
- Israel to offer Pfizer booster shot against COVID-19 to the over-60s
- Third shot: UK to offer COVID booster jabs to over 50s
- COVID-19 booster vaccine campaign begins in England
- Cambodia to mix vaccines as booster shots to fight COVID
ภาพประกอบจาก: reuters
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage