เผยผลวิจัยไม่เป็นทางการที่ประเทศอิสราเอลพบผู้ติดโควิดตามธรรมชาติแล้วหาย มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดเดลต้าน้อยกว่าผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ถึง 6 เท่า เสี่ยงติดป่วยโควิดซ้ำแบบมีอาการน้อยกว่าผู้ฉีดวัคซีนถึง 7 เท่า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่ามีข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่าข้อมูลเบื้องต้นจากประเทศอิสราเอลนั้นรายงานผลว่าผู้ที่หายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นอาจจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเท็คครบโดสแล้ว
ซึ่งการค้นพบดังกล่าวนั้นอาจจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อนโยบายสาธารณสุขทั่วโลก ซึ่งจากการศึกษาในโลกจริงที่ใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาผ่านมานั้นมีการเปรียบเทียบเรื่องการได้รับภูมิตามธรรมชาติจากการติดเชื้อก่อนหน้านี้กับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งข้อมูลนั้นแสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อซ้ำเกิดขึ้นได้น้อยกว่ามากในหมู่ที่เคยติดเชื้อโควิดไปแล้ว
อนึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลก่อนตีพิมพ์บนวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ medRxiv และยังไม่ได้รับการทบทวนข้อมูลโดยนักวิจัยรายอื่นๆ ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณาอีกทีหนึ่ง โดยผลของข้อมูลนี้นั้นถือว่ามีความขัดแย้งเป็นอย่างยิ่งกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่บ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนให้ภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าการติดเชื้อก่อนหน้านี้ ซึ่งผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ว่ามานั้นก็ยังไม่ได้มีการประเมินเรื่องไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้ามาก่อนแต่อย่างใด
โดยผลการศึกษาฉบับใหม่ที่ไม่เป็นทางการดังกล่าวนั้นระบุต่อไปว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 2 โดส นั้นมีแนวโน้มว่าจะมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิดเดลต้าได้มากกว่าถึง 6 เท่า และ เสี่ยงที่จะมีการป่วยแบบมีอาการได้มากกว่า 7 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดและรักษาหายไปแล้วก่อนหน้านี้
“ผลการวิเคราะห์ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติให้การป้องกันที่ยาวนานและแข็งแรงต่อการติดเชื้อ การป่วยแบบมีอาการ และการรักษาตัวในโรงพยาบาล ได้ดีกว่าเมื่อต้องเจอกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า” นักวิจัยกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อล่วงหน้านั้นจะลดลงไปเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว
ซึ่งการศึกษาวิจัยดังกล่าวนั้นทำให้เกิดคำถามที่สำคัญและจริงจังอย่างยิ่งเกี่ยวกับการติดสินใจขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาหรือว่าเอฟดีเอที่เพิ่งจะอนุมัติวัคซีนไฟเซอร์และไบออนเท็คอย่างเต็มรูปแบบในช่วงต้นสัปดาห์นี้
ขณะที่ประเทศอิสราเอล ณ เวลานี้มีรายงานว่าการติดเชื้อแบบก้าวหน้านั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีโอกาสที่จะป่วยและเสียชีวิตมากกว่าก็ตาม จึงเป็นสาเหตุทำให้ประเทศอิสราเอลได้เริ่มที่จะมีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์หรือว่าวัคซีนโดสที่ 3 แล้ว
โดยผลกระทบจากภูมิคุ้มกันที่ร่อยหรอลงในประเทศอิสราเอลนั้นเริ่มจะเกิดขึ้นแล้วกับชาวอิสราเอลที่ฉีดวัคซีนในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา และมีรายงานระบุเมื่อช่วงเดือน ก.ค.ด้วยว่า จากข้อมูลของผู้ติดเชื้อโควิดในเดือน มิ.ย.และเดือน ก.ค.ที่เริ่มจะลดลงตามระยะเวลาตั้งแต่ที่ได้รับการฉีดวัคซีน นั้นหมายความว่ากลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนในเดือน ม.ค.จะมีความเสี่ยงมากกว่า 2.26 เท่า ในการติดเชื้อแบบก้าวหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนในเดือน เม.ย.
เรียบเรียงจาก:https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-08-27/previous-covid-prevents-delta-infection-better-than-pfizer-shot
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage