“ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์” ชูโมเดลใหม่ในการดูแลลูกค้าแบบไร้พรมแดน พร้อมเปิดตัวออฟฟิศใหม่ใจกลางกรุง เดินหน้ารุกตลาดบริหารความมั่งคั่งระดับสูงเต็มรูปแบบ ตั้งเป้า 5 ปี มีส่วนแบ่ง 10% ขึ้นแท่นผู้นำด้าน Wealth Management ในกลุ่มลูกค้า UHNWIs และ HNWIs
................................................................
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) บริษัทร่วมทุนระหว่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และจูเลียส แบร์ (Julius Baer) ชู “New Operating Rhythm” โมเดลใหม่ในการดูแลลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงของเมืองไทย (Ultra High Net Worth Individuals - UHNWIs / High Net Worth Individuals – HNWIs) ด้วย Single RM หรือผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพด้วยความเข้าใจความต้องการและตลาดเมืองไทยเป็นอย่างดี สามารถตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนของลูกค้าได้ครบทุกด้านจบในคนเดียว พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวสำนักงานแห่งแรกในไทยใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิท เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการบริหารความมั่งคั่งมาตรฐานเวิลด์คลาสแบบครบวงจรในที่เดียวสำหรับลูกค้า UHNWIs และ HNWIs ตั้งเป้าภายใน 5 ปีจะมีส่วนแบ่งการตลาด 10% ขึ้นแท่นผู้นำด้าน Wealth Management กลุ่มลูกค้า UHNWIs และ HNWIs ในประเทศไทย
นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เผยว่า “ภาพรวมการลงทุนและเศรษฐกิจโลกในปี 2563 ยังคงเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งหลังจากภาวะตลาดผันผวนในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 และคาดว่า GDP โลกในปี 2564 จะฟื้นตัวขึ้นได้ที่ระดับ 6.5% จากเดิมที่น่าจะติดลบประมาณ 3% ในปี 2563 อันเนื่องมาจากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งนี้ เรามองว่าตลาดตราสารทุนมีความน่าสนใจมากกว่าตลาดสินทรัพย์ปลอดภัย โดยภูมิภาคที่เราเน้นการลงทุน คือ สหรัฐอเมริกาและจีน”
“ด้านภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของไทยโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (Ultra High Net Worth Individuals – UHNWIs / High Net Worth Individuals – HNWIs) ที่มีสินทรัพย์เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปในประเทศไทย มีการเติบโตในอัตราที่สูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจ โดย ณ สิ้นปี 2562 ตลาดมีมูลค่าคงค้างอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 9.9 % สำหรับบล. ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ แม้ว่าในช่วงต้นปี 2563 จะมีสถานการณ์โควิด-19 แต่ บริษัทฯ ยังคงมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่าเท่าตัว ทั้งในด้าน AUM จากการเพิ่มปริมาณการลงทุนของกลุ่มลูกค้าในปี 2562 รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้มีการเพิ่มจำนวน RM เป็นเท่าตัวเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอีกด้วย” นางสาวลลิตภัทร กล่าวเสริม
ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ยังคงยึด 3 แกนหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่
1. Expert Advisory ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่มีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ รวมถึงบริการอันหลากหลายและความสามารถด้านการบริหารความมั่งคั่งมาตรฐานระดับโลกของจูเลียส แบร์
2. Personal Touch บริการที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ (Relationship Manager – RM) คนไทยที่มีความรู้ ความเข้าใจตลาดเมืองไทย เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิตและแนวคิดของคนไทยด้วยกัน พร้อมที่จะให้บริการได้ทันทีเนื่องจากประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย โดยในปีนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดูแลลูกค้าแบบใหม่ที่เรียกว่า New Operating Rhythm – Single RM โดยที่แม้ว่าไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จะเน้นการลงทุนต่างประเทศ แต่ถ้าลูกค้าของเรามีความต้องการที่จะลงทุนในประเทศ RM ของไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์จะสามารถดูแลและให้บริการแบบครบจบในคนเดียวผ่านแพลตฟอร์มของไทยพาณิชย์
3. Seamless Access การให้บริการผ่าน Open Product Platform ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถลงทุนได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้ และเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง
ล่าสุดบล.ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ได้เปิดสำนักงานแห่งแรกในเมืองไทยซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิท ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Private Luxx” สะท้อนความมุ่งมั่นของไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ที่ต้องการมอบบริการด้านการบริหารความมั่งคั่งแบบมืออาชีพที่ได้มาตรฐานระดับเวิลด์คลาสให้กับลูกค้าชาวไทยแบบครบวงจร (One-stop service solution for HNWIs) นับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ตัวอาคารก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์ยูเรเชีย ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยผสมผสานความโดดเด่นของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาตลาดน้อย และสำนักงานจูเลียส แบร์ ณ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เข้าไว้ด้วยกัน ภายในมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้มีลักษณะกึ่งเรสซิเดนท์ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว พร้อมมอบการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ (Relationship Manager –RM) ระดับมืออาชีพ ที่พร้อมด้วยประสบการณ์บริหารการเงินการลงทุน ความเข้าใจในวัฒนธรรม ภาษา และบริบทในการลงทุน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงในการลงทุน
“นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดหลักสูตร Junior Executive Program โดยโฟกัสกลุ่มทายาทรุ่นที่ 2 ของลูกค้า เพื่อปูพื้นฐานด้านการลงทุนและเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มทายาทให้เข้าใจถึงการบริหารความมั่งคั่งเต็มรูปแบบด้วยมาตรฐานระดับโลกอีกด้วย เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยรูปแบบของการดูแลและให้บริการด้านการลงทุนแบบมืออาชีพ คุณภาพของบุคลากรที่ได้มาตรฐานสากล ตลอดจนสำนักงานแห่งแรกในประเทศที่จะเป็นเหมือนศูนย์กลางในการให้บริการด้านการบริหารความมั่งคั่ง และสามารถเป็นพื้นที่ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ กับกลุ่มลูกค้าในเมืองไทยได้เป็นอย่างดี และด้วยแพลตฟอร์มการลงทุนของจูเลียส แบร์ และความเข้าใจในตลาดไทยของไทยพาณิชย์จะทำให้ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์สามารถสร้างการเติบโตและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับกลุ่มลูกค้า UHNWIs และ HNWIs ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าภายใน 5 ปี ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% และมีฐานลูกค้ากว่า 1,000 ครอบครัว พร้อมมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเวลธ์แมเนจเม้นท์ (Wealth Management) ในกลุ่มลูกค้า UHNWIs และ HNWIs ของเมืองไทย” นางสาวลลิตภัทร กล่าวทิ้งท้าย