ธอส.เปิดจองสินเชื่อช่วงนาทีทองกรอบวงเงิน 900 ล้านบาท ผ่านแอปฯ 'GHB ALL' พบยอดจองเต็มวงเงินภายใน 7 วินาทีหลังเปิดจอง มีผู้ได้สิทธิ์ยื่นขอสินเชื่อ 283 ราย วงเงินเฉลี่ยรายละ 3.2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3 เดือนแค่ 2.07% พร้อมเปิดให้ผู้มีสิทธิ์ยื่นขอสินเชื่อได้ 9-31 ส.ค.นี้
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธอส.ได้จัดช่วงนาทีทอง Golden minute โดยเปิดให้ประชาชนที่ต้องการมีบ้านทั่วประเทศสามารถจองสิทธิ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL ในวันที่ 9 ส.ค.63 ตั้งแต่เวลา 12.09 น. เป็นต้นไปนั้นล่าสุดพบว่ามีประชาชนสนใจจองสิทธิ์สินเชื่อเต็มกรอบวงเงิน 900 ล้านบาทแล้ว ภายในเวลาเพียง 7 วินาทีหลังเปิดจองเท่านั้น
"ถือเป็นสถิติที่วงเงินสินเชื่อบ้านถูกจองหมดเร็วที่สุดของธนาคาร โดยมีผู้สนใจเข้าจอง จำนวน 6,700 ราย และมีผู้ได้สิทธิ์ จำนวน 283 ราย วงเงินจองเฉลี่ยต่อราย 3.2 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของประชาชนต่อผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธอส. ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal ในปัจจุบัน" นายฉัตรชัยกล่าว
สำหรับสินเชื่อนาทีทอง Golden minute คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ต่อปี นาน 9 เดือนแรก เดือนที่ 10-36 อัตราดอกเบี้ย MRR ลบ 3.16% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.150% ต่อปี) และเดือนที่ 37-39 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปี 3 เดือนอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.07% วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ต่อหลักประกัน ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ประเภท 1.ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ 2.ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน โดยผู้กู้สำรองจ่ายก่อนและธนาคารจะจ่ายคืนหลังทำนิติกรรมแล้วเสร็จ และ3.ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ทั้งนี้ ผู้ที่จองสิทธิ์แล้วต้องยื่นคำขอกู้ระหว่างวันที่ 9-31 ส.ค.2563 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ก.ย.2563 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th
"ผลิตภัณฑ์สินเชื่อดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าเพราะผ่อนชำระต่ำเริ่มต้นปีที่ 1 เพียงแค่ 2,900 บาท/เดือน/เงินกู้ 1 ล้านบาทเท่านั้น และฟรีค่าธรรมเนียม 3 ประเภท ซึ่งความสำเร็จจากการเปิดจองสิทธิ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้จากการพัฒนาระบบให้มีความพร้อมรองรับบริการรูปแบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่องของกลุ่มงานไอที ทำให้ธนาคารเตรียมจัดทำผลิตภัณฑ์ทางการเงินพิเศษให้กับลูกค้าได้จองสิทธิ์ผ่าน GHB ALL เพิ่มเติมต่อไปในอนาคต" นายฉัตรชัยระบุ
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ.2563 โดยปรับปรุงอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธอส. และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
จากเดิมอัตรา 0.25% ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นอัตรา 0.125% ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นระยะเวลา 2 ปี สำหรับการนำส่งเงินในปี 2563-2564 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีสภาพคล่องสำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิดได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ.2563 ดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นายฉัตรชัย ระบุว่า ธอส.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลูกค้าในช่วงไตรมาส 3 หลังประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจฯ มีผลบังคับใช้แล้ว ขณะที่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ของธอส.อยู่ที่ 6.150% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 5.750% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 5.9%
อ่านประกอบ :
ทรัพย์สิน 45.2 ล.‘ฉัตรชัย ศิริไล’พ้น กก.ผจก.ธอส. ขาย MiniCooper ถอย Porsche 6.5 ล.
'ธอส.' ยกดอกเบี้ยค้างชำระ 4 เดือนให้ลูกค้า 1.1 ล้านบัญชี หลังพักหนี้ 'เงินต้น-ดบ.'
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage