สปสช.จับมือโรงพยาบาลและร้านยาลดความแออัด ชวนผู้ป่วยเบาหวาน ความดันสิทธิบัตรทอง สมัครใจรับยาได้ที่ร้านยาใกล้บ้าน 4 โรงพยาบาลใหญ่ในสระบุรี 22 ร้านยาในเขต 4 สระบุรี เริ่ม 1 ต.ค.62 นี้
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมลงนามความร่วมมือตามนโยบาย รมว.สธ. ลดความแออัด ลดระยะเวลาการรอคอย ดึงร้านยาเป็นกลไกขับเคลื่อน ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน หลังพบแพทย์กลับบ้าน รับยาได้ที่ร้านยาใกล้บ้าน สปสช.จับมือสมาคมเภสัชกรรมชุมชน (แห่งประเทศไทย) โรงพยาบาลรัฐ ร้านขายยา หนุนระบบลดแออัด มั่นใจผู้ป่วยสะดวกและได้รับยาที่มีคุณภาพ
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2562 ณ ห้องประชุม 5 ตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลสระบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี (สสจ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 สระบุรี สมาคมเภสัชกรรมชุมชน (แห่งประเทศไทย) โรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลพระพุทธบาท โรงพยาบาลบ้านหมอ และโรงพยาบาลเสาไห้ พร้อมด้วยร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ 22 ร้าน ร่วมในพิธีบันทึกความร่วมมือ โครงการลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยใช้กลไกร้านยา โดยมี นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนาม นายแพทย์สมยศ ศรีจารนัย สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 4 กระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ รอง ผวจ.สระบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สปสช. นพ.ชลอ ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 4 สระบุรี ภญ.ดร.ศิริรัตน์ ตันปิชาติ นายกสมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) นายแพทย์รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรีนายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี และคณะ ร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้
นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สธ. กล่าวว่าตามที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้มีนโยบายลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยใช้กลไกร้านยานั้น เป็นโครงการที่มุ่งใช้ทรัพยากร ร้านยาที่มีอยู่แล้วในระบบสาธารณสุข โดยที่ภาครัฐไม่ต้องลงทุนทางด้านกำลังคนและโครงสร้างเพิ่มเติม ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐครั้งสำคัญ เพื่อลดความแออัดของกระบวนการรักษาในโรงพยาบาล โดยยังคงควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยได้ไม่แตกต่างจากการให้บริการในระบบปกติ ทั้งนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วย หรือประชาชน ได้เข้าถึงบริการข้อมูลที่ถูกต้องด้านยาที่เกี่ยวข้องกับ โรคของผู้ป่วยและยาที่ผู้ป่วยได้รับ โดยเภสัชกรร้านยา โดยผู้ป่วยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี โรงพยาบาลสระบุรี และสมาคม/ชมรมร้านขายยาในจังหวัดสระบุรี และสปสช.เขต 4 สระบุรี มีความเห็นร่วมกัน ที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว จึงได้ตกลงทำบันทึกความร่วมมือโครงการลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยใช้กลไกร้านยาขึ้น ให้บริการใน 2 กลุ่มโรคได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน โดยโรงพยาบาลจะเป็นผู้ควบคุมกำกับร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ และจัดส่งยาที่ผู้ป่วยต้องได้รับประจำ ไว้ให้ที่ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ
สำหรับโรงพยาบาลที่มีความพร้อมเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 ต.ค. 2562 ได้แก่ โรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลพระพุทธบาท โรงพยาบาลบ้านหมอและโรงพยาบาลเสาไห้ มีร้านยาที่เข้าร่วมโครงการรวมจำนวน 22 ร้าน ประกอบด้วย
1.ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลสระบุรี จำนวน 15 ร้านได้แก่ ร้านยา แฟมิลี่ ลีลาวดีเภสัช บู๊ทส์ - โรบินสันสระบุรี กิ่งเภสัช คลังยาแสงทองเภสัช ชนะธรรมเภสัช ร้านบ้านยาและสุขภาพ ไทยรุ่งเรืองเภสัช ริมคลองหนองแค ไทย รุงเรืองเภสัช ตลาดหนองปลาหมอ 7R Dispensary จ.ชุมชนเภสัช ปันยา ยาเภสัชกร ร้านจึงเจริญเภสัช วังยาชะอม
2. ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลพระพุทธบาท จำนวน 4 ร้าน ได้แก่ นานายา ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนพล เมด แอนด์ แคร์ แสนเจริญเภสัช รุ่งแสงเภสัช
3. ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลบ้านหมอ จำนวน 2 ร้าน ได้แก่ ณัฐณิชาเภสัช ประภัสสรเภสัช
4.ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลเสาไห้ จำนวน 1 ร้าน ได้แก่ ประวิทย์เภสัช
ทั้งนี้ ร้านยาที่เข่ารวมโครงการจะเป็นหน่วยร่วมให้บริการ ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งยา จัดหรือจ่ายยาตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม โดยร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นร้านขายยา ขย.1 ที่มีเภสัชกรประจำอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เนื่องจากจะต้องมีการแนะนำผู้ป่วยในการใช้ยา และยาบางชนิดเป็นยาอันตราย รวมไปถึงการติดตามการใช้ยา โดยร้านขายยาจะต้องจ่ายยาให้ผู้ป่วยตามใบสั่งแพทย์ โดยอาจจะมีการกำหนดจากแพทย์มาว่า ให้ผู้ป่วยไปรับยาที่ร้านยาทุก ๆ 1 เดือน โดยโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการจะดำเนินการจัดยารายบุคคลส่งให้ร้านยา พร้อมให้เภสัชกรช่วยประเมินความร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วย (Compliance Audit) เช่น วัดความดัน หรือ ประเมินระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยในกลุ่มเบาหวาน ประเมินหลอดลมของผู้ป่วยโรคหอบหืด (peak flow meter) หรือหากพบผู้ป่วยมีความเสี่ยงให้ส่งตัวมาโรงพยาบาล พร้อมกับรายงานข้อมูลการเข้ารับยาของผู้ป่วยตามระบบของโรงพยาบาล โดยเน้นย้ำว่า ประชาชนจะได้รับความสะดวกสบาย และไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิบัตรทอง สอบถามข้อมูลร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่สายด่วน สปสช.โทร 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เวปไซด์ สปสช. www.nhso.go.th