การเคหะแห่งชาติเผยเป็นโอกาสดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยหลังกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบ “มาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง” ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติชอบและอนุมัติ โดยจะมีผลตั้งแต่ 24 มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีสำหรับลูกค้าการเคหะแห่งชาติ ที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย หลังกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้อนุมัติ “มาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง” ด้วยการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยและจดจำนอง อสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและบ้านแถว จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 ของราคาประเมิน และลดอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและการจดจำนอง จากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 ของราคาประเมิน โดยต้องมีราคาซื้อขายไม่เกินหนึ่งล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกินหนึ่งล้านบาท ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 2562 ไปจนถึงวันที่ 23 มิ.ย. ของปีถัดไป โดยมาตรการดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับอยู่อาศัยราคาไม่เกินหนึ่งล้านบาท รวมถึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติมีลูกค้าที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในภาพรวมทั่วประเทศ กว่า 50,000 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 32,000 ราย และต่างจังหวัด จำนวน 18,000 ราย โดยกลุ่มลูกค้าของการเคหะแห่งชาติที่สนใจโอนกรรมสิทธิ์ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 1.) ต้องเป็นลูกค้าที่ครบค้ำประกัน 5 ปี 2.) ต้องไม่มีหนี้ค้าง และ 3.) คู่สมรสสามารถเซ็นยินยอมได้ในวันโอนกรรมสิทธิ์ได้ โดยการเคหะแห่งชาติจะเร่งประชาสัมพันธ์เชิญชวนและทำหนังสือแจ้งแก่ลูกค้าที่ต้องการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ให้รีบมายื่น คำร้องการขอโอนกรรมสิทธิ์ได้ที่สำนักงานเคหะที่ดูแลได้ทั่วประเทศ