ประธานศาลฎีกาเปิดโครงการ"ค่ายต้นกล้าตุลาการ"รุ่นที่12 เพิ่มพูนทักษะด้านกฎหมาย ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีต่อชุมชน สังคมและประเทศชาติ แก่เยาวชนตั้งแต่วัยเยาว์
วันนี้ (28 เมษายน 2567) เมื่อเวลา 08.45 น.นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ค่ายต้นกล้าตุลาการ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2567 รุ่นที่ 12 พร้อมทั้งให้โอวาทแก่คณะเยาวชนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชาย-หญิง ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 138 คน โดยมี นายธานี สิงหนาท เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวรายงานและมีคณะผู้บริหารศาลยุติธรรมและคณะทำงานเข้าร่วมพิธี ณ บริเวณโถงบุษบก ชั้น 2 อาคารศาลฎีกา
ในการนี้ประธานศาลฎีกา ได้กล่าวว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ค่ายต้นกล้าตุลาการ” รุ่นที่ 12 ในวันนี้การที่สำนักงานศาลยุติธรรมจัดโครงการ “ค่ายต้นกล้าตุลาการ” รุ่นที่ 12 ขึ้น นับเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการทุกคนต้องเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ การที่เยาวชนให้ความสนใจระบบงานภายในศาล และหลักกฎหมายเบื้องต้นตั้งแต่เยาว์วัย ย่อมเป็นเรื่องน่าชื่นชมยินดี ทั้งเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นที่จะประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย รวมทั้งเยาวชนที่อาจกำลังค้นหาแนวทางของตนเองอยู่ การจัดโครงการนี้ นอกจากเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการที่มีโอกาสได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านกฎหมาย และบทบาทหน้าที่ของศาลยุติธรรมในฐานะองค์กรหลักของประเทศ ที่ใช้อำนาจตุลาการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์แล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกา เรื่อง “เท่าเทียม” ที่ส่งเสริมให้ประชาชนไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือเด็กและเยาวชน มีความรู้พื้นฐานในเรื่องกระบวนการพิจารณาคดีของศาล ส่งผลให้เยาวชนสามารถเข้าใจสิทธิของตนเอง และของผู้อื่น ตลอดจนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของหลักนิติธรรม ยิ่งไปกว่านั้น โครงการนี้ยังสอดแทรกปลูกฝังเรื่องจิตสำนึกที่ดีให้แก่เยาวชน ด้วยการเสริมสร้างคุณธรรม และจริยธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุขอีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตลอดระยะเวลาที่เยาวชนเข้าร่วมโครงการนี้ ทุกคนจะได้รับความรู้ ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการพิจารณาคดีของศาล ตลอดจนได้รับประสบการณ์ทางด้านกฎหมายจากบุคลากรที่ทางสำนักงานศาลยุติธรรมคัดสรรมาเป็นอย่างดี และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเพิ่มพูนทักษะ และมีจิตสำนึกที่ดีทั้งต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ อันนำมาซึ่งความสงบสุข และสันติภาพอย่างยั่งยืนตลอดไป
บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว ดิฉันขอเปิดโครงการ “ค่ายต้นกล้าตุลาการ” รุ่นที่ 12 ขอให้การดำเนินโครงการประสบความสำเร็จ บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ และขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่เยาวชนที่มาร่วมโครงการในวันนี้เคารพนับถือ โปรดดลบันดาลประทานพรให้เยาวชนทุกคนพบแต่ความสุข มีอนาคตที่สวยงามสว่างสดใส มีสุขภาพกายกับสุขภาพใจที่เข้มแข็ง เดินทางไปถึงเป้าหมายตามที่มุ่งมั่นตั้งใจไว้โดยทั่วกัน
นายธานี กล่าวว่าสำนักงานศาลยุติธรรมโดยกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการจัดโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ซึ่งในปีนี้เป็นรุ่นที่ 12 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นให้แก่เยาวชน ด้วยรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อเกี่ยวกับกฎหมาย การศาลยุติธรรม การศึกษาวิชากฎหมายทั้งในและต่างประเทศ การแนะนำแนวทางสู่การเป็นผู้พิพากษาและวิชาชีพกฎหมายอื่น ๆ ตลอดจนกิจกรรมเสริมสร้างทัศนคติในการดำเนินชีวิตที่ดี ซึ่งเยาวชนที่ผ่านโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการนับตั้งแต่ รุ่นที่ 1 จนถึงรุ่นที่ 11 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,370 คน บางส่วนยังอยู่ระหว่างการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาหรือมหาวิทยาลัย แต่ส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาและประกอบอาชีพแล้ว โดยมีผู้ผ่านการสอบและได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาและผู้พิพากษาแล้ว จำนวน 10 คน และเยาวชนทุกคนต่างมีทิศทางในการดำเนินชีวิตที่ดีเป็นต้นกล้าตุลาการที่สามารถเข้าใจในการดำเนินงานของศาลยุติธรรม นำหลักการสำคัญของกฎหมายและแนวทางแห่งตุลาการที่ดีไปใช้เป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิต
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรีช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา และประธานคณะทำงานดำเนินการจัดโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ รุ่นที่ 12 ได้กล่าวว่าสำหรับโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ รุ่นที่ 12 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2567 ที่โรงแรมทวาราวดี รีสอร์ท จังหวัดปราจีนบุรี เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 138 คน จากผู้สมัครทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 922 คน
รูปแบบการจัดกิจกรรมนั้น จะมีวิทยากรทั้งผู้พิพากษาและวิทยากรอิสระร่วมบรรยายและอภิปราย นอกจากนี้ยังมีการแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมภาคสนาม (นอกห้องประชุม) การแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติในลักษณะ “ศาลจำลอง” การวิเคราะห์ข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อฝึกตัดสินคดี โดยกิจกรรมทั้งหมดส่วนของวิชาการกฎหมายและเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตมีการพัฒนาและปรับปรุงให้สอดคล้องต่อบริบทของสังคมในยุคปัจจุบันเพื่อประโยชน์สูงสุดของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ
โครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ มุ่งมั่นส่งเสริมประสบการณ์อันล้ำค่าแก่เยาวชน ผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย เชื่อมั่นว่าผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ จะได้รับประสบการณ์อันทรงคุณค่าเก็บเกี่ยวความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อนำไปต่อยอดแนวคิดวางแผนชีวิตสู่เป้าหมายการศึกษาและอาชีพที่ใฝ่ฝันด้วยความุ่งมั่นของคณะทำงานผู้ริเริ่มโครงการฯ ตั้งแต่แรกเริ่มมุ่งหวังส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตอย่างมั่นคงค้นพบศักยภาพภายในการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน โครงการนี้จึงเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางสนับสนุนให้เยาวชนไทยกล้าคิด กล้าฝัน เป็นพลังขับเคลื่อนสังคมนำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน