“13 เม.ย. วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” บัตรทอง 30 บาท ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุด้วยบริการสุขภาพที่ครอบคลุม ทั้งบริการรักษาพยาบาล บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ พร้อมการดูแลผู้สูงอายุที่ร่วมกับ อปท. ผ่าน กปท.
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ทุกวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ตามมติคณะรัฐมนตรี (14 ธ.ค. 25) ได้กำหนดให้เป็น "วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” โดยผูกรวมไว้กับวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือ “วันสงกรานต์” เพื่อรณรงค์ให้ชาวไทยได้ร่วมกันตระหนักถึงผู้สูงอายุ นอกจากจะเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อทุกครอบครัวแล้ว หลายท่านยังเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างยิ่ง และในช่วงสงกรานต์นี้หลายคนต่างเดินทางกลับบ้านเพื่อไปรดน้ำดำหัวพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล อย่างไรก็ดีด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้สุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุเสื่อมถอยไปตามวัย และเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพให้กับผู้สูงอายุ สปสช. ได้มีสิทธิประโยชน์สุขภาพที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ ให้การดูแลตั้งแต่การรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย โดยครอบคลุมถึงโรคค่าใช้จ่ายสูงและโรคเรื้อรังต่างๆ ที่มักพบในผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคข้อเข่าเสื่อม โรคหัวใจขาดเลือด และโรคสมองเสื่อม เป็นต้น การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ได้แก่ บริการฉีดวัคซีนคอตีบและบาดทะยัก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังหรืออายุ 65 ปีขึ้นไป) การคัดกรองภาวะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคซึมเศร้า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งช่องปาก รวมถึงการฝึกสมองป้องกันโรคสมองเสื่อมซึ่งมักเป็นภาวะที่พบในผู้สูงอายุ การตรวจประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL) เป็นต้น โดยสามารถเช็คสิทธิรับบริการผ่านแอปเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพได้
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ยังมีบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์เพื่อดูแลผู้สูงอายุให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตดีขึ้น นอกจากนั้น สปสช.ยังสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับต่าง ๆ ผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น (กปท.) กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด และกองทุนการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุและบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง (LTC) เพื่อร่วมดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ที่ชุมชนในแต่ละพื้นที่ด้วย
สำหรับการดำเนินโครงการเพื่อผู้สูงอายุ ภายใต้กองทุน กปท. นั้น มีหลากหลายมาก เช่น การส่งเสริมการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ บริการแว่นสายตาสำหรับผู้สูงอายุที่มีสายตาสั้นหรือสายตายาว บริการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับ และแผ่นเสริมซึมซับการขับถ่ายเพื่อผู้สูงอายุ โดยโครงการต่างๆ เพื่อผู้สูงอายุ ขณะนี้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้นำเสนอและจัดทำโครงการผ่าน กปท. แล้วจำนวนมาก
นอกจากนี้ สปสช. ยังได้ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย กรมการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมดำเนินการ “โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567” เพื่อให้ผู้สูงอายุมีฟันบดเคี้ยวอาหารที่นำไปสู่สุขภาพที่ดี โดยผู้ที่มีปัญหาใส่ฟันเทียมซึ่งเป็นสิทธิบัตรทองยังได้รับบริการใส่รากฟันเทียมตามการวินิจฉัยของทันตแพทย์ผู้ให้การรักษา
การดำเนินการที่ระบุมาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และเมื่อเจ็บป่วยก็สามารถเข้าถึงการรักษาโดยใช้สิทธิบัตรทองได้
“ตามที่คณะกรรมการอำนวยการวันอนามัยโลกของกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดคำขวัญวันผู้สูงอายุแห่งชาติ “ให้ความรัก พิทักษ์อนามัย ผู้สูงวัยอายุยืน” สปสช. ขอร่วมรณรงค์ เพื่อให้ช่วยกันตระหนักและให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุ รวมถึงการดูแลผู้สูงอายุให้เข้าถึงบริการสุขภาพสิทธิประโยชน์บัตรทอง 30 บาท โดยเฉพาะบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพื่อให้ท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดี” เลขาธิการ สปสช. กล่าว