“สกาย กรุ๊ป” ทะยานนิวไฮทำรายได้ 4.1 พันลบ. โกยกำไร 546 ลบ. โตพุ่ง 161% มั่นใจปี 67 โตต่อเนื่อง เหตุนักท่องเที่ยวบูมหนุนโปรเจ็กต์เกี่ยวกับสนามบิน พร้อมรับรู้รายได้และกำไรจากการลงทุนในบริษัทลูก
“สกาย กรุ๊ป” กางผลประกอบการปี 2566 คว้ารายได้ 4,119 ล้านบาท เติบโต 47% กวาดกำไรสุทธิ 546 ล้านบาท โตทะลุ 161% หลังท่องเที่ยวยังคึกคักยอดผู้โดยสารเข้า-ออกประเทศโตตามคาด ส่งผลให้รายได้จากโครงการเกี่ยวกับสนามบินพุ่ง ตุนแบ็กล็อกแกร่ง 23,213 ล้านบาท เชื่อมั่นปี 2567 แรงส่งจากท่องเที่ยวพลิกฟื้นเต็มที่หนุนธุรกิจ Aviation Tech และ Airport Services เติบโตต่อเนื่อง
นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ สกาย กรุ๊ป (SKY Group) เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 (ต.ค.-ธ.ค. 66) บริษัทสามารถทำรายได้รวม 1,277 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 213 ล้านบาท เติบโตขึ้น 51% และ 156% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY%) ส่งผลให้การดำเนินงานปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค. 66) บริษัทสามารถทำรายได้ทั้งหมด 4,119 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 546 ล้านบาท เติบโตขึ้น 47% และ 161% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 (YoY%) โดยบริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและสร้างนิวไฮได้ครั้งนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก และยอดผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศเฉลี่ยจาก 70,000 คน/วัน เพิ่มเป็นประมาณ 153,000 คน/วัน หรือเพิ่มขึ้นเกิน 150% ในปี 2566 ส่งผลให้รายได้จากโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยาน อาทิ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System: CUPPS) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) เติบโตตามอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2566 บริษัทได้เข้าทำสัญญาใหม่และมีงานที่รอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต (Backlog) อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 23,213 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ให้กับสกาย กรุ๊ป ในอีกอย่างน้อย 6-7 ปี
นายสิทธิเดช กล่าวว่า จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว ทางรัฐบาลยังมีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นสนามบินดิจิทัล (Digital Airport) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้าน Aviation Tech ทางสกาย กรุ๊ปมีความพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจตอบรับนโยบายของภาครัฐและยกระดับการบริการของสนามบินของประเทศไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก รองรับนักท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ
นายสิทธิเดช กล่าวอีกว่า นอกจากการรับรู้รายได้หลักจากโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสนามบินแล้ว สกาย กรุ๊ป ยังมีแผนนำบริษัท โปร อินไซด์ จำกัด เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของงานโครงการจากภาครัฐ พร้อมรับรู้รายได้เต็มปีจากบริษัท เมทเธียร์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) ที่จะเป็นบริษัทหลักในการบุกเจาะภาคเอกชน
“สกาย กรุ๊ป มั่นใจว่าในภาพรวมบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างมั่นคง และเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เรามองหาโอกาสใหม่ในการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ และเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อรับมือกับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ อาทิ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล ไปจนถึงการขยายสู่ธุรกิจเทคโนโลยีด้านต่างๆ ในอนาคตเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง” นายสิทธิเดช กล่าว