บอร์ดไฟเขียว DITTO เข้าถือหุ้น NETBAY 24.90% มูลค่าเกือบ 850 ล้านบาท “ฐกร” ย้ำเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและยังส่งให้ DITTO เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจ DATA ครบวงจร เผยเป้ารายได้ปีหน้า 2 พันกว่าล้านบาท คาดต้นปีย้ายเทรดใน SET
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท DITTO เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY จำนวน 49,800,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.90% ของทุนชำระแล้ว ในราคาหุ้นละไม่เกิน 17 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 846,600,000 บาท โดยบริษัทชำระค่าตอบแทนหุ้นสามัญของ NETBAY ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ จำนวนไม่เกิน 33,200,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 25.50 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้าลงทุนใน NET BAY ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับระบบบริหารจัดการข้อมูลที่ DITTO ดำเนินการอยู่ โดย NET BAY ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการคิดค้นสร้างสรรค์ และพัฒนา Digital Business Technology Platform ในการทำธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้นแก่ผู้ใช้ในรูปแบบการให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจกับภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคเอกชนกับผู้บริโภค (B2C) ในการลงทุนครั้งนี้นอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของบริษัทแล้ว ยังทำให้ DITTO เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ DATA แบบครบวงจรในทุกมิติเพื่อบริการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นายฐกร กล่าว
นายฐกร กล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อกลางปีนี้ DITTO ได้เข้าลงทุนในบริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIT สัดส่วน 18% ซึ่ง โสมาภา ได้รับสัญญาจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ในการบริหารจัดการระบบคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกของสนามบินของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ระยะเวลายาวจนถึงปี 71 ส่วนรายได้คิดจาก Transaction ของจำนวนผู้โดยสาร ดังนั้นทาง DITTO คาดว่าจะยังสามารถสร้างส่วนแบ่งกำไรให้กับบริษัทที่เข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่องและถือเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอีกทางหนึ่ง
ส่วนเป้าหมายในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท เนื่องจากมีงานในมือ (Backlog) ที่ทะยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ อยู่ราว 5.3 พันล้านบาท คาดว่าในปี 2567 บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 1ใน 3 ของตัวเลขมูลค่างานในมือเกือบทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทยังมีงานที่จะเข้าประมูลและรับงานใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมรายได้ในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบริษัทประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลซึ่งเป็นการแปลงเอกสารและข้อมูลสู่ระบบดิจิทัลครบวงจร 2 กลุ่มวิศวกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรม 3)กลุ่มธุรกิจ Climate tech ที่จะเป็นธุรกิจหลักในอนาคต และ 4) กลุ่มธุรกิจให้เช่าและจำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ ไดรฟ์ทรูและให้บริการระบบจำหน่ายสินค้าหน้าร้าน (POS) ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของทางบริษัท
“สำหรับการย้ายเข้าไปทำการซื้อขายของหุ้น DITTO จากปัจจุบันที่ซื้อขายในตลาด เอ็มเอไอ (MAI) ไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวนั้น ล่าสุดได้มีการยื่นแบบคำขอเรื่องดังกล่าวต่อทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยและดำเนินการได้ในต้นปีหน้า” นายฐกร กล่าว