‘การบินไทย-ปตท.’ ลงนาม MOU ศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางธุรกิจ 'ขนส่งสินค้าทางอากาศ' หวังต่อยอดทางธุรกิจร่วมกัน
.............................
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยมีนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม
นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ หรือธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) มีการขยายตัวและมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา แม้ว่าการบินไทยจะไม่สามารถทำการบินขนส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ แต่คาร์โก้การบินไทยยังคงให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการนำเข้าและส่งออกสินค้าภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม อาทิ ผัก ผลไม้ อาหารแช่แข็ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ รวมทั้งสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีน อีกทั้ง ยังมีบริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าเช่าเหมาลำ (Charter Flight) อย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร ลูกค้าสามารถกำหนดเส้นทางตามจุดบินของการบินไทย เลือกเวลาการขนส่งสินค้าตามตารางบินและกำหนดแบบเครื่องบินได้ตามขนาดบรรทุกได้อย่างสะดวก
นายสุวรรธนะ กล่าวต่อว่า สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศกับ ปตท.ครั้งนี้ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันในการยกระดับขีดความสามารถการบูรณาการธุรกิจโลจิสติกส์
โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางอากาศในระดับประเทศและภูมิภาคอย่างครบวงจร ซึ่งการบินไทยมีความเชี่ยวชาญและความพร้อม ทั้งในด้านเที่ยวบินขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Freighter) กิจการคลังสินค้า (Cargo Warehouse) กิจการให้บริการระบบสนับสนุนการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Commercial Platform) และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ ปตท. เป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพและขีดความสามารถสูง
“ความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากเป็นการแสวงหาโอกาสและต่อยอดทางธุรกิจร่วมกันยังแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อการบินไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งสินค้าและบริการ รวมทั้งก่อให้เกิดการพัฒนาทางธุรกิจ อันจะนำไปสู่การผสานความร่วมมือระหว่างองค์กร (Synergy) ในมิติด้านต่างๆ ในอนาคต อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สร้างโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรของภูมิภาคอาเซียน” นายสุวรรธนะกล่าว
ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. มุ่งพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรม และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้พร้อมรับการแข่งขันบนเวทีโลก ด้วยวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต” โดยในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ปตท. มีนโยบายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงการบริหารคลังสินค้า ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัล แพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์ประสบความสำเร็จได้
“ปตท. มีเป้าหมายสู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (Third Party Logistics) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ โดย ปตท. และ การบินไทย จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถธุรกิจโลจิสติกส์ของไทย ให้เติบโตและแข็งแกร่ง พร้อมเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นการร่วมกันสร้างประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืนได้ต่อไป” นายอรรถพลกล่าว
ทั้งนี้ ในพิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าว มีนายชาญศักดิ์ ชื่นชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นพยาน และมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ร่วมด้วย นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมพิธีลงนามด้วย