
จริงๆ แล้ว DW ย่อมาจาก Derivative Warranty หรือใบแสดงสิทธิอนุพันธ์ พอถึงตรงนี้ หลายคนคงจะเห็นจากชื่อภาษาไทยแล้วใช่ไหมว่าจริงๆ แล้ว DW นั้นไม่ได้เป็นหุ้นแต่เป็นสิทธิในการซื้อหรือขายโดยที่ราคาของตัว DW จะอ้างอิงตามหุ้นรายตัวหรือดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ถึงแม้ DW จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายประการ แต่เราก็ไม่สามารถบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า DW คือทางเลือกที่ตอบโจทย์นักลงทุนทุกกลุ่ม เพราะหากมองในความเป็นจริง นักลงทุนแต่ละคนต่างก็มีสไตล์ในการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป และเพื่อเป็นการบอกต่อข้อมูลสำคัญ วันนี้เราจึงได้จัดทำบทความในหัวข้อ DW คืออะไร? และการเทรดดังกล่าวเหมาะกับนักลงทุนสไตล์ไหนบ้างขึ้นม
DW คืออะไร
จริงๆ แล้ว DW ย่อมาจาก Derivative Warranty หรือใบแสดงสิทธิอนุพันธ์ พอถึงตรงนี้ หลายคนคงจะเห็นจากชื่อภาษาไทยแล้วใช่ไหมว่าจริงๆ แล้ว DW นั้นไม่ได้เป็นหุ้นแต่เป็นสิทธิในการซื้อหรือขายโดยที่ราคาของตัว DW จะอ้างอิงตามหุ้นรายตัวหรือดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยในปัจจุบันเราสามารถแบ่ง DW ออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Call DW (C) หรือ DW ที่ราคาจะปรับตัวขึ้นลงตามหุ้นอ้างอิงในตลาดหลักทรัพย์ และ Pull DW (P) หรือ DW ทีราคาจะปรับตัวสวนทางกับหุ้นอ้างอิงในตลาดหลักทรัพย์
DW เหมาะกับนักลงทุนแบบไหนบ้าง?
หลังจากทราบกันไปแล้วว่า DW คืออะไร? ลำดับต่อมาก็ถึงเวลาที่เราจะพูดถึงสไตล์ของนักลงทุนที่ตอบโจทย์กับการเทรด DW ตามรายละเอียดด้านล่างดังนี้
เหมาะกับการเกร็งกำไรระยะสั้น
เนื่องจาก DW คือการเทรดสิทธิการซื้อขายในระยะสั้น ดังนั้นการลงทุนรูปแบบนี้จึงตอบโจทย์นักลงทุนที่ชอบเกร็งกำไรเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะสั้นมากกว่านักลงทุนที่เน้นวางแผนเพื่อเกร็งกำไรในระยะยาวเหมือนกับการซื้อหุ้นโดยตรงในตลาดหลักทรัพย์
ถูกใจนักลงทุนสายยืดหยุ่น
ความยืดหยุ่นถือว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้การลงทุนรูปแบบนี้น่าสนใจ เพราะเราสามารถลงทุนได้ในช่วงที่ตลาดอยู่ในขาขึ้นและลง ยกตัวอย่างเช่น หากเราคาดการณ์ไว้ว่าตลาดในปัจจุบันมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต เราก็สามารถเลือกเทรด Call DW หรือ DW ที่ราคาจะปรับตัวขึ้นตามหุ้นอ้างอิงได้ แต่ในทางกลับกันหากเราประเมินไว้ล่วงหน้าแล้วว่าในอนาคตอันใกล้ ตลาดมีแนวโน้มที่จะอยู่ในขาลง เราก็สามารถเลือกเทรด Pull DW หรือ DW ที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อหุ้นแม่อยู่ในขาลงได้อีกเช่นกัน
ยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะตามมาได้
ถึงแม้มูลค่าการซื้อขาย DW หนึ่งรายการจะถูกกว่าการซื้อขายหุ้นหนึ่งตัวในตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งมีความยืดหยุ่นสูงเพราะเราสามารถเลือกเทรด DW ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งของไทยและเทศได้อย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องเปิดพอร์ตใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นหรือลงของ DW นั้นกลับอิงอยู่กับปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือไปจากการปรับตัวของหุ้นอ้างอิง เช่น Time Decay และสภาพตลาดในปัจจุบัน ดังนั้น DW จึงเป็นการเทรดที่แม้โอกาสได้กำไรมีมากแต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความผันผวนที่ค่อนข้างสูง
เป็นยังไงกันบ้างกับบทความของเราว่าด้วยเรื่อง DW คืออะไร? เหมาะกับนักลงทุนสไตล์ไหนบ้าง หวังว่าทุกรายละเอียดที่ได้นำเสนอไปคงจะเป็นประโยชน์กับทุกคนมามากก็น้อยนะ
หมายเหตุบทความนี้เป็นบทความประชาสัมพันธ์

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา