สปสช. ชวนโรงพยาบาลและคลินิกร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้าน หลังปรับแนวทางเบิกจ่ายรวดเร็วขึ้น
สปสช. ชวนโรงพยาบาลและคลินิก ร่วมให้บริการระบบดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation: HI) รองรับโอมิครอน หลังปรับแนวทางตรวจสอบการเบิกจ่ายที่รวดเร็วขึ้น พร้อมขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระบบ HI ทำ “แบบประเมินทาง LINE สปสช. @nhso” กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ดูแล หลังจากหายป่วยหรือถูกส่งต่อรักษา ยืนยันการรับบริการ และเป็นข้อมูลสู่การพัฒนาระบบต่อไป
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation: HI) เพื่อรองรับกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลสายพันธุ์โอมิครอนที่มีรายงานการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว อาจส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นกระจายไปในหลายพื้นที่ได้ สปสช.ได้พัฒนาระบบการติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทาง Line สปสช. @nhso กรณีเข้ารับบริการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน และใช้เป็นหลักฐานการให้บริการ ทำให้เบิกจ่ายชดเชยถูกต้อง รวดเร็ว และลดการทักท้วง
ทั้งนี้ โรงพยาบาล หรือ คลินิก ที่ดูแลผู้ติดเชื้อโควิดในระบบ HI ดำเนินการด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1.ยืนยันตัวตนพิสูจน์สิทธิผู้รับบริการผ่าน Line สปสช. @nhso ซึ่ง สปสช.จะจ่ายค่าบริการเหมาจ่ายเบื้องต้นจำนวน 1,000 บาท
2.บันทึกในเวชระเบียน หรือใน platform ที่ สปสช.กำหนด เช่น AMED เป็นต้น พร้อมเก็บหลักฐานการให้บริการผู้ป่วยทุกราย อาทิ การติดตามอาการ บริการส่งยา ส่งอาหาร ส่งอุปกรณ์ผู้ป่วย ได้แก่ ที่วัดไข้ เครื่องวัดค่าออกซิเจน เป็นต้น การเอกซเรย์ปอด การตรวจ RT-PCR ในรายที่จำเป็น และการส่งต่อไปรักษาต่อในโรงพยาบาลกรณีอาการเปลี่ยนแปลง เมื่อหลักฐานครบ ตรวจสอบได้ สปสช.จ่ายค่าบริการทันที
3.เมื่อมีการจำหน่ายผู้ป่วยทุกราย ให้ผู้ติดเชื้อทำ “แบบประเมินการเข้ารับบริการ HI” ใน Line สปสช. @nhso โดยตอบคำถามครบ 12 ข้อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลตรวจสอบก่อนจ่าย (Pre audit) โดยที่ สปสช.ไม่ต้องโทรศัพท์หาผู้ติดเชื้อเพื่อตรวจสอบภายหลัง ลดปัญหาหน่วยบริการส่งเอกสารทักท้วง โดยเฉพาะกรณีโทรติดต่อผู้ติดเชื้อไม่ได้
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระบบ HI สปสช.จำเป็นต้องมีระบบยืนยันการรับบริการและการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาจากข้อมูลผู้ติดเชื้อที่ไม่ชัดเจน เช่น เบอร์โทรไม่ถูกต้อง เป็นต้น ทำให้ต้องตรวจสอบเพิ่ม ทำให้หน่วยบริการต้องส่งเอกสารเพิ่ม ส่งผลต่อการจ่ายชดเชยค่าบริการที่ล่าช้าไปด้วย ดังนั้น สปสช. จึงแก้ปัญหาโดยปรับระบบใหม่ที่ใช้ข้อมูล Line สปสช. @nhso เป็นหลัก รวมถึงการทำแบบประเมินการเข้ารับบริการของผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้การจ่ายค่าชดเชยค่าบริการรวดเร็ว
“สปสช. เชิญชวนโรงพยาบาลและคลินิกร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระบบ HI นอกจากได้รับการชดเชยค่าบริการในอัตราที่เหมาะสมแล้ว ในครั้งนี้ สปสช. ยังปรับวิธีการตรวจสอบก่อนจ่ายค่าบริการที่รวดเร็วขึ้น พร้อมกันนี้ สปสช. ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อที่เข้ารับบริการในระบบ HI พิสูจน์ตัวตนเข้ารับบริการด้วยการแอดไลน์ @nhso และ Scan QR code กับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่รับดูแล พร้อมทำแบบติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทาง Line สปสช. @nhso เมื่อหายป่วย หรือถูกส่งต่อไปรักษากรณีอาการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพ้นจากการดูแลของคลินิกหรือโรงพยาบาล โดยตอบคำถามครบถ้วน 12 ข้อ และให้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาระบบบริการต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso