ธ.ออมสิน ขยายเวลาพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไป ถึงสิ้นเดือนธ.ค. จากกำหนดเดิมสิ้นสุดเดือน ก.ย. เล็งลดภาระหนี้กลุ่ม Non-Bank
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 63 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมขยายมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค.นี้ จากเดิมมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือนก.ย. นี้ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ยังคงมีอยู่ ทำให้รายได้ต่างๆ ของลูกค้ายังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จึงเห็นว่าควรขยายมาตรการดังกล่าวออกไป แต่จะให้เลือกออฟชั่นได้ว่าจะพักชำระหนี้ในลักษณะไหน ทั้งพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือจะชำระเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่พักชำระหนี้ทั้งหมด 3.10 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 1.14 ล้านล้านบาท
ส่วนมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) วงเงิน 150,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้ปล่อยไปแล้ว 14,800 ราย คิดเป็นวงเงิน 136,800 ล้านบาท ขณะที่ความคืบหน้ามาตรการสินเชื่อซอฟต์โลน ก้อนใหม่วงเงิน 100,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้กับกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว
ทั้งนี้ ยอมรับจากปัญหาโควิด-19 ที่ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าไป รวมไปถึงการลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงนั้น จะทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 12,000-13,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิประมาณ 5,229 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 24,208 ล้านบาท และปี 2561 มีกำไร 30,842 ล้านบาท
นอกจากนี้ นายวิทัย ยังกล่าวว่า เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ จะเน้นบรรเทาภาระลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank ด้วยการลดดอกเบี้ยลงเหลือ 8-10% จากปัจจุบันที่คิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 24-28% เพื่อเป็นการบรรเทาภาระให้กับลูกหนี้ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อให้มีผลในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank มีอยู่ 25.38 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 481,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินเชื่อบุคคล บัตรกดเงินสด 48% บัตรเครดิต 31% และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 21%