ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง ทำหนังสือถึง ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เลขาธิการ อธิการบดี ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผู้อํานวยการสถานพยาบาลของทางราชการ เรื่อง ออกหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (ฉบับที่ 2)
ใจความในหนังสือที่อ้างถึง กรมบัญชีกลางได้แจ้งเวียนหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาล ประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยง หรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ให้ทราบและถือปฏิบัติในการเบิกค่ารักษาพยาบาล จากทางราชการ นั้น กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุขและสถานพยาบาล ของทางราชการหลายแห่ง กรณีสถานพยาบาลฯ มีสถานที่ไม่เพียงพอ และได้จัดสถานที่อื่นๆ เช่น เช่าหรือใช้สถานที่ จากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน เพื่อส่งตัวผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ที่อาการดีขึ้นไปพักฟื้นในสถานที่ดังกล่าวจนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติและสามารถกลับบ้านได้
ประกอบกับ ตามหนังสือที่อ้างถึง ได้กําหนดเงื่อนไขการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงประเภทผู้ป่วยนอก โดยให้สถานพยาบาลฯ จัดส่งยาทางไปรษณีย์ตอบรับปลายทางเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันการจัดส่งยาจะใช้ไปรษณีย์ ด่วนพิเศษ และไปรษณีย์ลงทะเบียนเป็นช่องทางหลัก และในบางกรณีสถานพยาบาลฯ มีหน่วยบริการปฐมภูมิ ที่สามารถนัดผู้ป่วยมารับยาในสถานที่ดังกล่าวได้
และโดยที่ปัจจุบันสถานพยาบาลฯ ออกมาตรการต่างๆ ในการลดการสัมผัสสิ่งของที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรค ซึ่งการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงประเภทผู้ป่วยนอก ด้วยบัตรประจําตัวประชาชน อาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้ ดังนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 8 และมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อธิบดีกรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบอํานาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเห็นสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ อัตรา วิธีการ และเงื่อนไข การเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (ฉบับที่ 2) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
สำหรับ หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (ฉบับที่ 2)
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคล ในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 8 และมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกา เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อธิบดีกรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบอํานาจ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงกําหนดหลักเกณฑ์ไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. หลักเกณฑ์นี้เรียกว่า “ หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (ฉบับที่ 2)”
ข้อ 2 หลักเกณฑ์นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2563 จนกว่าจะยกเลิกหลักเกณฑ์นี้
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 5/1 ของหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภท ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2563
"ข้อ 5/1 ผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 หากแพทย์ผู้รักษาเห็นว่า อาการดีขึ้นสามารถส่งตัวไปพักฟื้น ณ สถานที่ที่สถานพยาบาลของทางราชการได้ จัดหาไว้เป็นการเฉพาะ เช่น สถานพยาบาลสนาม หอผู้ป่วย COVID 19 ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อดูแล ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 จนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติและสามารถกลับบ้านได้ ให้มีสิทธิ ได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท ต่อวัน
ให้นําความในข้อ 6 มาใช้บังคับกับการส่งตัวผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวไปยังสถานที่ ที่สถานพยาบาลของทางราชการ ได้จัดหาไว้เป็นการเฉพาะด้วย”
ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 8.4 ของหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"8.4 การจัดส่งยาให้ดําเนินการได้ด้วยวิธี ดังต่อไปนี้
(ก) จัดส่งยาให้ผู้ป่วยโดยตรง โดยใช้ไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือไปรษณีย์ ด่วนพิเศษ หรือไปรษณีย์ตอบรับปลายทาง โดยให้เก็บเลขพัสดุที่จัดส่งไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ
(ข) จัดส่งยาไปยังหน่วยบริการปฐมภูมิหรือสถานที่ที่สถานพยาบาลของทางราชการ ได้จัดเตรียมไว้ และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ส่งมอบยาให้ผู้ป่วย โดยให้ออกใบรับยาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ"
ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 8/1 ของหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภท ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2563
"ข้อ 8/1 การใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงประเภทผู้ป่วยนอก หากผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวไปแสดงตน ณ สถานพยาบาลของทางราชการ การทําธุรกรรมผ่านเครื่องรับ รายการบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) อาจใช้บัตรประจําตัวประชาชนหรือใช้เลขประจําตัวประชาชนได้"