คดีค้ามนุษย์โรฮีนจา!!! ศาลอุทธรณ์สั่งเพิ่มโทษอ่วม"พล.ท.มนัส-แก๊งนักการเมืองท้องถิ่นใต้"เป็นจำคุก78-82ปี ส่วน"โกโต้ง"กับ"นายหน้าชาวเมียนมา"ยังคงโทษคุก75-94 ปี ส่วนจำเลยที่เคยยกฟ้องถูกหวย โดนโทษใหม่อ่วม16ราย75-82ปี ฟาก"โกจ๋วน"ที่เคยยกฟ้องโดนจำคุก76ปีถึงขั้นยืนกลางศาลแถลงบริสุทธิ์ ศาลต้องแจงใช้สิทธิฎีกาตามกฎหมายได้
เว็บไซต์ www.naewna.com รายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น.เศษ วันที่ 31 ตุลาคม 2562 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีค้ามนุษย์โรฮิงญาหรือโรฮีนจา รวม 11 สำนวน ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบรรณจง หรือโกจง ปองผล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1 และเจ้าหน้าที่รัฐประกอบด้วยทหาร-ตำรวจ , ผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น , พลเรือนทั้งไทยและสัญชาติเมียนมารวม 103 คน (ระหว่างพิจารณาคดี นายสุรีชัย อาหะหมัด จำเลยที่ 26 ได้เสียชีวิต) ในความผิดฐานสมคบกับค้ามนุษย์ที่กระทำกับบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และไม่เกิน 18 ปี และที่เกิน 18 ปี อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 , มีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 และความผิดอื่นตามประมวลกฎมายอาญา
กรณีช่วงต้นเดือน ม.ค.54 - 1 พ.ค.58 มีจำเลยคดีนี้ซึ่งร่วมขบวนการองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ได้หลอกลวงขู่บังคับชาวบังกลาเทศ และชาวโรฮิงญา หรือโรฮีนจา 80 คน จากประเทศบังคลาเทศและเมียนมา เข้ามายังประเทศไทย และส่งไปประเทศที่สาม(มาเลเชีย)โดยแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นนายหน้าชักชวนผู้เสียหายว่าจะส่งไปทำงาน จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อและที่ไม่สมัครใจ โดยจะใช้กำลังหรืออาวุธปืนประทุษร้ายและข่มขู่ผู้เสียหายด้วย และเมื่อรวบรวมผู้เสียหายได้ 200 - 500 คน ที่มีผู้ควบคุมพร้อมอาวุธไม่ให้ผู้เสียหายหลบหนี จากนั้นจะมีเรือเล็กรับผู้เสียหายขึ้นฝั่งไปพักในเขต จ.ระนอง จ.พังงา ขณะที่จะมีการขายผู้เสียหายให้กับผู้อื่นคิดเป็นเงินไทยคนละ 60,000 - 70,000 บาท
สำหรับจำเลย เจ้าหน้าที่รัฐรายสำคัญคดีนี้ อาทิ นายบรรณจง หรือโกจง จำเลยที่ 1 , นายอ่าสัน หรือหมู่สัน หรือบังสัน อินทธนู อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 2 , นายประสิทธิ์ หรือเดช หรือบังเบส หรือบังเค เหล็มเหล๊ะ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 6 , นายอาบู หรือ ส.จ.บู ฮะอุรา อดีตสมาชิก อบจ.อำเภอควนโดน จ.สตูล จำเลยที่ 14 , นายปัจจุบัน หรือโกโต้ง อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ. จ.สตูล จำเลยที่ 29 , พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และ ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยกที่ 1 ระนอง จำเลยที่ 54
ส่วนพลเรือนจำเลยที่สำคัญ คือนายซอเนียง อานู หรืออันวา หรือโซไนท์ จำเลยที่ 46 สัญชาติเมียนมาร์ มีพฤติการณ์เป็นนายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย
โดยคดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.60 ซึ่งศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 540 หน้า นานร่วม 12 ช.ม. ให้จำคุกนายบรรจง หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1 , นายอ่าสัน หรือบังสัน อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 2 , นายประสิทธิ์ หรือเดช อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 6 จำคุกคนละ 78 ปี (ศาลให้นับโทษจำเลยที่ 6 จากคดีศาลจังหวัดนาทวีด้วย คดีหมายเลขแดง 459/2560)
นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกอบจ. จ.สตูล จำเลยที่ 29 จำคุก 75 ปี , นายซอเนียง จำเลยที่ 46 นายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ จำคุก 94 ปี , พล.ท.มนัส อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 จำคุก 27 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือ 56 คน ที่มีตำรวจและพลเรือน ให้จำคุก ตั้งแต่ 4 - 79 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงของจำเลย 1 , 2 , 4 , 5 , 6 , 10 , 11 , 12 , 16 , 18 , 22 , 25 , 27 , 28 , 29 , 38 , 43 , 46 , 47 , 48 , 53 , 57 , 58 , 99 , 101 จำคุกสูงสุดคนละ 50 ปี พร้อมทั้งมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 - 8 , 10 - 14 , 16 - 22 , 25 , 27 - 31 , 33 , 38 - 51 , 53 - 60 , 65 - 67 , 74 , 78 , 79 , 81 , 87 , 88 , 96 , 97 , 99 , 100 รวม 61 คน ชดใช้ผู้เสียหาย 58 ราย รวมทุนทรัพย์ทั้งหมด 4,400,250 บาท
และพิพากษายกฟ้องจำเลย 40 ราย ประกอบด้วย จำเลยที่ 9 , 15 , 23 , 24 , 32 , 34 , 35 , 36, 37, 41 , 52 , 61 , 62 , 63 , 64 , 68 , 69 , 70 , 71 , 72 , 73 , 75 , 76 , 77 , 80 , 82 , 83 , 84 , 85 , 86 , 89 , 90 , 91 , 92 , 93 , 94 , 95 , 98 , 102 , 103
ต่อมาทั้งอัยการโจทก์และจำเลยยื่นอุทธรณ์
โดยการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ 791 หน้า ใช้เวลา 4.30 ชม.
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พิพากษาแก้โทษในส่วนของ นายบรรจง หรือโกจง จำเลยที่ 1 , นายอ่าสัน หรือบังสัน จำเลยที่ 2 และ นายประสิทธิ์ จำเลยที่ 6 จากเดิมที่จำคุกคนละ 78 ปี ฐานสมคบค้ามนุษย์ฯ และนายสมยศ อังโชติพันธุ์ จำเลยที่ 11 ที่เดิมศาลชั้นต้นจำคุก 74 ปี เป็นให้เพิ่มจำคุกอีกคนละ 1 ปี ฐานร่วมกันพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งเมื่อรวมโทษของจำเลยที่ 1, 2 และ 6 แล้วให้จำคุกคนละ 79 ปี
ส่วนจำเลยที่ 11 เป็นโทษจำคุก 75 ปี ขณะที่นายปิยวัฒน์ หรือโกหย่ง พงษ์ไทย จำเลยที่ 22 เดิมจำคุก 79 ปี เพิ่มเป็นจำคุก 80 ปี แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกจำเลยทั้งหมดไว้คนละ 50 ปีตามกฎหมายและให้เพิ่มโทษ ร.ต.ต.นราทอน สัมพันธ์ จำเลยที่ 33 และ พล.ท.มนัส คงแป้น จำเลยที่ 54 อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก ในความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ 4 กรรม และความผิดฐานให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ จากเดิมจำคุก 27 ปี เป็นจำคุก 82 ปี เช่นเดียวกับนายร่อเอ หรือเอ๋ สนยาแหละ จำเลยที่ 3 ให้จำคุกเพิ่มเป็น 34 ปี 32 เดือน โดยเมื่อรวมกับโทษเดิมที่ศาลชั้นต้นตัดสิน 14 ปี 8 เดือน เป็นให้จำคุกจำเลยที่ 3 รวม 48 ปี 40 เดือน แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี
ส่วนนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง อังโชติพันธุ์ จำเลยที่ 29 อดีตนายก อบจ.สตูล ที่ศาลชั้นต้นจำคุก 75 ปี และนายซอเนียง อานู นายหน้าชาวเมียนมา จำเลยที่ 46 จำคุก 94 ปี ที่รวมลงโทษสูงสุดแล้ว ให้จำคุก 50 ปีนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่ได้พิพากษาแก้โทษ จึงยืนผลคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น
ขณะที่จำเลยที่ 8 , 30 , 45 , 48 , 50 , 81 ศาลให้เพิ่มโทษจำคุกความผิดฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯอีก 4 กรรม จากเดิมจำคุกคนละ 23 ปี เป็นให้จำคุกคนละ 77 ปี กับจำเลยที่ 13 , 19 ที่เดิมจำคุกคนละ 17 ปี 3 เดือน ให้เป็นจำคุก 57 ปี ส่วน นายอาบู หรือ ส.จ.บู ฮะอุรา จำเลยที่ 14 และจำเลยที่ 31 เดิมจำคุก 27 ปี เป็นให้จำคุก 81 ปี ส่วนจำเลยที่ 44 เดิมจำคุก 15 ปี 4 เดือน เป็นจำคุก 49 ปี 28 เดือน สำหรับจำเลยที่ 59 , 60 , 65 , 66 , 74 , 79 , 100 จากเดิมจำคุกคนละ 19 ปี เป็นจำคุกคนละ 73 ปี แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี และจำเลยที่ 21 , 55 เดิมจำคุก 11 ปี 6 เดือน เป็น 38 ปี 6 เดือน
นอกจากนี้ ให้เพิ่มโทษ นายสุวรรณ หรือโกหนุ่ย แสงทอง จำเลยที่ 17 ฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯอีก 4 กรรม และฐานร่วมกันพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ จากเดิมจำคุก 22 ปี เป็นจำคุก 77 ปี เช่นเดียวกับจำเลยที่ 51 เดิมจำคุก 23 ปี เป็นจำคุก 78 ปี รวมทั้งจำเลยที่ 87 , 97 จากเดิมจำคุก 19 ปี เป็นจำคุก 74 ปีแต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี
ส่วน นายสมรรถชัย หรือโบ้ หรือแรมโบ้ ฮะหมัด จำเลยที่ 20 ศาลให้เพิ่มโทษฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯอีก 4 กรรม และฐานร่วมกันพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ 2 กรรม เป็นจำคุก 48 ปี 48 เดือนส่วนจำเลยที่ 67 จากเดิมจำคุก 19 ปี เพิ่มเป็น 75 ปี สำหรับจำเลยที่ 96 จากเดิมจำคุก 22 ปี เป็นจำคุก 78 ปี แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี
สำหรับนายอนัส หะยีมะแซ จำเลยที่ 23 และ ร.อ.วิสูตร บุนนาค จำเลยที่ 90 พิพากษาแก้จากยกฟ้องเป็นให้ลงโทษจำคุกฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ 1 กรรม กับฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯ 6 กรรม และความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวอีก 2 กรรม เป็นจำคุกคนละ 82 ปี ส่วนนายโกเซี่ย อังโชติพันธุ์ จำเลยที่ 34 ให้ลงโทษจำคุก 75 ปี ขณะที่จำเลยที่ 71 , 72 , 75 , 80 , 84 , 85 , 86 , 89 , 91 , 94 , 95 , 98 ให้ลงโทษเพิ่มฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ 1 กรรม กับฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯ 6 กรรม จากเดิมยกฟ้อง เป็นลงโทษจำคุกคนละ 76 ปี ขณะที่นายชินพงษ์ ชาตรูประชีวิน จำเลยที่ 92 ศาลลงโทษจำคุกฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ 1 กรรม กับฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯ 6 กรรม และความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวอีก 2 กรรม จากเดิมยกฟ้องเป็นจำคุก 77 ปี แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี
ขณะที่จำเลยที่ 78 , 88 ศาลลงโทษเพิ่มฐานสมคบกันค้ามนุษย์ฯ 3 กรรม จากเดิมจำคุก 14 ปี เป็น 54 ปี 9 เดือน แต่เมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี
และพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง นายถาวร หรือบังวร มณี จำเลยที่ 49 และนายผิน ร่วมบัว จำเลยที่ 101 จากเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก จำเลยที่ 49 ไว้ 23 ปี ส่วนจำเลยที่ 101 จำคุก 74 ปี
โดยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ขัง จำเลย 14 คน ไว้ระหว่างฎีกา ประกอบด้วย จำเลยที่ 9 , 24 , 32 , 35 , 36 , 37 , 49 , 52 , 63 , 73 , 76 , 77 , 82 , 101 และนอกจากที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้ว ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว นายวิทยา หรือโกจ๋วน จีระธัญญาสกุล จำเลยที่ 80 จากเดิมที่ยกฟ้อง แต่ชั้นอุทธรณ์แก้เป็นให้จำคุก 76 ปี ได้ลุกขึ้นแถลงต่อศาลทันทีว่าตนกับภรรยาไม่เคยกระทำความผิด ขณะที่ศาลชี้แจงว่าหากจำเลยไม่พอใจผลคำพิพากษาตามขั้นตอนยังสามารถฎีกาได้อีก
ทั้งนี้ จากผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวได้แก้โทษจำเลยรวม 55 คน จากเดิมที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกไว้ 62 คน สำหรับจำเลยที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง 40 ราย เมื่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แก้ในส่วนของจำเลยต่างๆ แล้ว คงมีจำเลยที่ยกฟ้องรวม 26 ราย
ในส่วนของ พล.ท.มนัส นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มโทษจำคุกเป็น 82 ปี แต่จำคุกจริง 50 ปี ตามกฎหมาย และเมื่อรวมโทษจำคุกฐาน ร่วมกันฟอกเงินอีก 20 ปี ที่อัยการแยกฟ้องคดีไว้ รวมโทษจำคุก พล.ท.มนัส ขณะนี้ 70 ปี