ปีหน้าเปิดโรงขยะผลิตไฟฟ้าแห่งที่2 เทคโนโลยีใหม่ใช้วิธีหมักก๊าซ
นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทกรุงเทพธนาคม(เคที) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เคทีได้ดำเนินโครงการบิรหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานขนาดไม่น้อยกว่า800 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ซึ่งเป็นการกำจัดขยะโดยกระบวนการเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ( MBT-Mechanical Biological WasteTreatment) ซึ่งจะมีการนำขยะมาหมักให้เกิดก๊าซและก๊าซที่ได้จะนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่สะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยแบ่งเบาการกำจัดขยะของกรุงเทพมหานครซึ่งปัจจุบันมีปริมาณสูงถึงวันละ 10,000 ตัน โดยส่วนใหญ่นำไปฝังกลบซึ่งเป็นการกำจัดขยะรูปแบบเก่าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขณะนี้มีโรงงานกำจัดขยะด้วยวิธีการเผาความร้อนสูงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพียง1แห่งที่ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม มีความสามารถในการกำจัด500 ตันต่อวัน ซึ่งโรงงานกำจัดขยะของเคทีจะเป็นโรงกำจัดขยะของกทม.ที่กำจัดขยะและได้พลังงานมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้เป็นแห่งที่ 2 ซึ่งทางเคทีได้ให้เอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างและบริหารจัดการในระยะเวลา20 ปี โดยขณะนี้งานคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซนต์แล้ว และมีกำหนดที่จะเดินระบบเริ่มนำขยะเข้ากำจัดได้ภายในต้นปี 2563 นี้
ทั้งนี้ สำหรับการกำจัดขยะด้วยรูปแบบของMBTคือกระบวนการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ปนมากับขยะมูลฝอยจนกระทั่งอาหารหมดทำให้กระบวนการย่อยสลายสิ้นสุดลงไม่ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนและน้ำชะขยะจากการย่อยสลาย โดยผลพลอยได้มีทั้งกระแสไฟฟ้า ขยะเชื้อ (RDF)และขยะรีไซเคิล โครงการนี้เคทีได้จ้างเอกชนในรูปแบบจ้างก่อสร้างเดินระบบและส่งมอบโครงการเมื่อสิ้นสุดสัญญา(BOT)สำหรับค่ากำจัดขยะที่คิดจากกรุงเทพมหานครคือในอัตรา 600บาท/ตัน งบประมาณลงทุนทั้งโครงการรวมกว่า2,000.9 ล้านบาท.
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/bangkok/719694