โรคไข้หวัดหมูเริ่มระบาดออกไปยังหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าจีนและเวียดนามทำลายหมูที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มแล้วหลายล้านตัว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคระบาดในสัตว์ เตือนว่า ไทยอาจจะเป็นประเทศต่อไปที่โรคไข้หวัดหมูเข้ามาระบาด
ที่ประเทศจีนตอนนี้การระบาดเข้าขั้นวิกฤต แม้ว่ารัฐบบาลจะสั่งให้ทำลายหมูไปแล้วราว 1 ล้าน 2 แสนตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วจีนน่าจะฆ่าหมูทิ้งไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ล้านตัว
ส่วนที่ประเทศเวียดนาม ทางการยืนยันว่าได้ทำลายหมูในฟาร์มแล้วราว 2 ล้านตัว โดยรัฐมนตรีเกษตรของเวียดนามระบุว่า พบการระบาดของไข้หวัดหมูรวม 48 จังหวัด จากทั้งสิ้น 63 จังหวัดทั่วประเทศ ส่วนที่ประเทศกัมพูชามีหมูตายเพราะโรคหวัดไปแล้ว 2,400 ตัว ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา
ด้านนาย “เดิร์ค ไฟเฟอร์”(Dirk Pfeiffer)ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดในปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย แต่ถือว่าไทยอยู่ในฐานะที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีการระบาด เพราะมีภูมิประเทศติดกับประเทศที่มีการระบาด อีกทั้งเชื้อไวรัสโรคนี้ฆ่าให้ตายยาก โดยสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นสัปดาห์ และสามารถติดมากับของทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ตามร่างกายของมนุษย์ การที่มีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้การแพร่ระบาดไม่สามารถยับยั้งได้
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ โรคไข้ใหวัดหมูที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาเนื้อสุกรทั่วโลกสูงขึ้นเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ธุรกิจลักลอบขนเนื้อสุกรข้ามแดนมีมากขึ้น ซึ่งเนื้อสุกรเหล่านี้ไม่ผ่านการตรวจสอบ จึงเป็นไปได้สูงที่จะมีการลักลอบนำเนื้อสุกรเถื่อนเข้ามาขายตามแนวชายแดนของประเทศไทย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เข้มงวดตรงจุดนี้ด้วย
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอาหารและการเกษตร หรือ FAO แห่งสหประชาชาติเปิดเผยว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การระบาดควบคุมได้ยาก เป็นเพราะภาครัฐไม่มีการจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกร ทำให้เกษตรกรบางส่วน เลือกที่จะไม่ทำลายหมูของตวัเองทิ้ง เพราะทำลายแล้วก็ขาดทุน สู้แอบนำออกมาจำหน่ายยังได้เงินคืนบ้าง