คุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสมากขึ้น เปิดสาระสำคัญพ.ร.ป.ป.ป.ช.ฉบับใหม่

เปิดสาระสำคัญพ.ร.ป.ป.ป.ช.ฉบับใหม่ หลังที่ประชุมสภาฯมีมติเห็นชอบไปวานนี้ (5 มี.ค. 68) พบสาระสำคัญเน้นไปที่การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส พร้อมระบุขั้นตอนมาตรการการให้ความช่วยเหลือ และเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือบุคคลซึ่งได้รับความคุ้มครอง

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 มีนาคม 2568 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาแล้วเสร็จ โดยที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีมติเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 507 เสียง

ทั้งนี้ เมื่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ฉบับนี้มีผลใช้บังคับ จะเป็นการเพิ่มกลไกการให้ความคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ให้ถ้อยคำ แจ้งข้อมูลหรือเบาะแสที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากได้กระทำโดยสุจริต และยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการต่อต้านหรือชี้เบาะแสการทุจริตให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีหลักการในสาระสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ดังนี้

1. ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ให้ถ้อยคำ แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส ส่งพยานหลักฐาน หรือแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ได้รับความคุ้มครองทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย

2. กำหนดกระบวนการ ขั้นตอน และมาตรการในการให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลซึ่งได้รับความคุ้มครองทั้งกรณีที่ถูกฟ้องคดีแพ่ง กรณีถูกร้องทุกข์ ถูกกล่าวโทษ ถูกดำเนินคดีหรือถูกฟ้องคดีอาญา และกรณีถูกดำเนินการทางวินัย ยกตัวอย่างเช่น การจัดหาทนายความให้ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างทนายความ การสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี การส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในชั้นพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ รวมถึงการปล่อยชั่วคราว

3. เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุม
ถึงค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือบุคคลซึ่งได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 132 การกำหนดให้มีกลไกในการคุ้มครองและช่วยเหลือประชาชนผู้ชี้ช่องเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตตามกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมีมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น