ป.ป.ช.ตรัง ตรวจจุดชมวิว ‘ควนไอ้กว่าง’ อบต.หนองบัว งบสร้าง 5.9 ล้าน ไม่ได้ใช้งาน เหตุสร้างเสร็จถูกกรมป่าไม้แจ้งความบุกรุกป่า-เตรียมประสานงานจังหวัดตรังสอบข้อเท็จจริง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเชิญ นายรวยไชย ชัยสุริยา ผอ.กองช่าง อบต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ การดำเนินการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิว ควนไอ้กว่าง (ถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม) ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง หลังจากได้รับเบาะแสและได้รับการร้องเรียนว่า การก่อสร้างจุดชมวิวข้างต้นใช้งบประมาณในการก่อสร้างไปกว่า 5,900,000 บาท แต่ปรากฏว่าถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่ได้เปิดใช้งาน ขาดการดูแลปล่อยปละละเลยให้มีหญ้าและวัชพืชปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวได้ของบประมาณมาจากกรมปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2565 และสภาพแวดล้อมในการลงพื้นที่ตรวจสอบ การเดินทางขึ้นไปต้องเดินทางขึ้นค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ระยะทางจากพื้นล่างถึงจุดชมวิวประมาณ 1 กม. ถนนลาดด้วยปูนซีเมนต์ตลอดสาย มีลานจอดรถด้านบน ที่พักรถ 5 จุด อาคารต้อนรับนักท่องเที่ยว 1 หลัง ห้องน้ำ 1 หลัง ด้านบนจุดชมวิวมีการตกแต่งตามจุดต่าง ๆ มีโต๊ะ เก้าอี้ปูน สำหรับนั่งพักผ่อน เก้าอี้ชิงช้า ซุ้มสำหรับถ่ายรูป อีกหลายจุด ซึ่งสภาพขาดการดูแลหญ้าขึ้นรกและทรุดโทรม
นายสมชาย สงรักษ์ นายกอบต.หนองบัว กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าจุดชมวิวดังกล่าว ก่อนหน้านี้เป็นถนนที่ชาวบ้านใช้เดินทางไปกรีดยางพารา แต่มีการเล็งเห็นว่าจุดดังกล่าว มีวิวทิวทัศน์สวยมีธรรมชาติโอบล้อมมากมาย เห็นวิวไกลสุดลูกหูลูกตา จึงต้องการที่อยากจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมต่อกับถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน จึงได้ทำเรื่องของบประมาณและทำหนังสือขออนุญาตไปยังหน่วยงานป่าไม้ ก่อนเปิดการประมูลและดำเนินการก่อสร้าง
นายนพดล จิตรเพชร ชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองบัว กล่าวว่า ในระหว่างการก่อสร้างทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เดินทางเข้าออกตรวจตราผ่านไปผ่านมา วนเวียนมาดูปีละครั้งสองครั้ง เพราะพื้นที่อีกฝั่งเป็นพื้นที่เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งก็ไม่ได้พูดหรือทักท้วงแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ของชุมชน ชุมชนใช้ประโยชน์อยู่ โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้มีแผนเข้ามารังวัดที่ให้เรียบร้อย ตรงไหนที่ชุมชนใช้เขาก็ทำให้ ตนเองก็เดินรังวัดตามหลังป่าไม้ ตอนที่เขามารังวัด ตนเองยังถามว่าเขามาทำอะไร เขาบอกว่ามาดูป่าเฉลิมพระเกียรติ แต่หลังจากก่อสร้างเสร็จสิ้น กลับโดนป่าไม้ฟ้องข้อหาบุกรุกป่ากับทาง อบต.หนองบัว ในที่สุดศาลพิพากษา มาตรา 157 กับนายสมชาย สงรักษ์ นายก อบต.หนองบัว เพียงคนเดียว
"อยากสะท้อนไปยังป่าไม้ให้ช่วยปลดล็อก ให้สถานที่ตรงนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะผลประโยชน์มันเกิดกับชาวบ้านและชุมชนมาก เพราะรายได้มาจากการขายของ ผมมานอนพักผ่อนบ่อย เพื่อนที่เห็นก็บอกว่าทำไมไม่เปิดใช้งาน ซึ่งผมบอกว่า เปิดไม่ได้เพราะป่าไม้มีปัญหาถูกร้องเรียน ซึ่งตามที่เข้าใจ ป่าไม้อยากให้ แต่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น ทำให้ป่าไม้ต้องดำเนินการของเขา เขาอยากให้ อยากให้ชุมชนอยู่ได้ สิ่งไหนที่ชุมชนอยู่ได้เขาอยากจะให้" นายนพดล กล่าว
นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. จุดดังกล่าวสร้างเป็นจุดชมวิวงบประมาณ 5 ล้านกว่าบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ สืบเนื่องจาก ป.ป.ช.ภาค 9 มีนโยบายให้ ป.ป.ช.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการทิ้งร้างต่างๆ ใน จ.ตรัง ซึ่งปรากฏมีเยอะมาก ซึ่งครั้งนี้ลงพื้นที่ อบต.หนองบัว พบว่าโครงการดังกล่าว 'ไม่ได้ทิ้งงาน ไม่ได้ทิ้งร้าง' ปรากฏว่าเป็นโครงการที่ทาง อบต.หนองบัว ได้รับเงินสนับสนุนจากกรมการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 5 ล้านกว่าบาท มาก่อสร้างถนนและจุดชมวิว แต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างแล้วเสร็จ กรมป่าไม้ได้เข้าแจ้งความว่าทาง อบต.ได้บุกรุกป่าไม้ ทำให้ อบต.ไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการต่อได้ และโดนดำเนินคดีตามมาตรา 157 ของพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา ซึ่งทาง ป.ป.ช.จะประสานข้อมูลไปยัง จ.ตรัง อีกครั้งหนึ่ง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้าง ว่ามีการบุกรุกจริงหรือไม่อย่างไร
นายยุทธนา กล่าวว่า ซึ่งทาง อบต.ชี้แจงข้อมูลว่าได้ทำการขออนุญาตป่าไม้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะขอผิดโครงการ ผิดตำแหน่ง หรือผิดจุดหรือไม่อย่างไร ก็จะไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ทราบว่า ตอนนี้กำลังตั้งสอบการละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ว่าใครประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่อย่างไร ในการขอไปเข้าสร้างอาคารและก็ไม่ได้ขออนุญาต และข้อสังเกตของประชาชนก็คือ โครงการก่อสร้างดังกล่าวใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลาเป็นปีสองปี ทำไมป่าไม้ไม่เข้ามาดำเนินการประสานข้อมูลพิจารณายับยั้งโครงการก่อนที่จะมีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งทำให้รัฐเสียหาย ชาวบ้านมองว่า เงินก็เป็นเงินของรัฐ พื้นที่ก็เป็นพื้นที่ของรัฐ หน่วยงานที่สร้างก็เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่กลับสร้างเสร็จแล้วก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์
"เบื้องต้นก็ยังทราบว่า ทาง ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา ดำเนินคดีกับทางนายก อบต.หนองบัว ซึ่งทางตำรวจแจ้งว่าได้ดำเนินคดี แจ้งข้อกล่าวหา ส่งฟ้องไปยังอัยการคดีอาญาภาค 9 แล้วเช่นกัน" นายยุทธนา กล่าว