ตร.-สอท. สรุปปฎิบัติการตัดวงจรภัยออนไลน์ ปูพรม 29 จุด ใน 3 จว. กรุงเทพ ปทุมธานีและชลบุรี เปิด 2 ยุมธการ ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ล่าลวงหลอก-ตัดวงจรทุนคริปโต ยึดทรัพย์กว่า 1,500 ล้านเงินสด-รถโรลส์รอยซ์ มูลค่า 36 ล้านบาท,รถยนต์เลกซัส, ฮัลพาร์ท, รถเบนซ์ โฉนดที่ดิน บ้านหรู รวบหญิงชาวจีนนายหน้าอสังหาฯ จัดหาทรัพย์ให้กลุ่มทุนจีน ขณะที่เคสคอลเซ็นเตอร์บุกรวบม้ากดเงินชาวพม่า ด้านผู้ช่วยเลขาธิการปปง.เตรียมเสนอเรื่องคืนทรัพย์ผู้เสียหาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่บช.สอท. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการปปง.พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 แถลงข่าวสรุปผลการระดมกวาดล้าง ตัดวงจรภัยออนไลน์ 2 ยุทธการ ประกอบ ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ล่าลวงหลอก Ep:2 และ ตัดวงจรทุนคริปโตEP:4 หลังช่วงเช้านำกำลังปิดล้อม 29 จุด ใน 3 จังหวัด กรุงเทพ ปทุมธานีและชลบุรี
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางบช.สอท.ได้เปิดปฎิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโต Ep:1 โดยครั้งนั้น บช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับกุม นายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และ นางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิทผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัล หรือสินทรัพย์ต่างๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งมีผู้เสียหายในทั่วโลกกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งครั้งนั้นได้พบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการเล่นแร่แปรธาตุทรัพย์สินในลักษณะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เปิดบริษัทฟอกเงินโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี รวมทั้งขยายผลเรื่อยมา กระทั่งพบความเชื่อมโยงถึงชาวจีน 2 ราย คือนายอาบิน เย่ และน.ส.เฝิงเฟย ไข่ จนเป็นที่มาของปฎิบัติการตัดวงจรทุนคริปโต EP:4
ผบช.สอท. กล่าวว่า โดยวันนี้ได้นำกำลังตรวจค้น 29 จุด ใน 3 จังหวัด กรุงเทพ ปทุมธานีและชลบุรี เพื่อพิสูจน์ทราบทรัพย์ ที่ได้มาจากการกระทำความผิด พร้อมจับกุมน.ส.เฝิงเฟย ไช่ ตามหมายจับ 2496/2566 ลงวันที่ 7 ส.ค. ในความผิดร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง , นำเข้าข้อมูล สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกัน โดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเป็นเหตุให้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ได้ที่ห้องพักของผู้ต้องหาในคอนโดหรู ย่านลุมพินี ซึ่งการตรวจค้นวันนี้ตรวจยึดของกลางกว่า 100 รายการ อาทิ รถยนต์โรลส์รอยซ์ มูลค่า 36 ล้านบาท,รถยนต์เลกซัส, ฮัลพาร์ท, รถเบนซ์ เอกสาร สัญญาเช่าต่างๆมูลค่ารวมกว่า 1500 ล้านบาท ซึ่งจากปฏิบัติการทั้ง 4 ครั้งสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้ 3000 ล้านบาท ในส่วนประเด็นที่สื่อมวลชนสอบถามว่ารถยนต์โรลส์รอยซ์ เป็นคันเดียวกับที่เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ส่วนนี้ยืนยันว่าเป็นคนละคัน อย่างไรก็ดีขั้นตอนจากนี้ทางตำรวจจะทำการประสานปปง. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนเฉลี่ยทรัพย์คืนแก่ผู้เสียหาย
สอดรับกับนายกมลสิษฐ์ กล่าวว่า ทั้งสองกรณีเข้าข่ายความผิดการมีส่วนร่วมในองศ์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานอาญาฟอกเงิน โดยจากนี้ทางปปง.จะทำการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและให้ผู้เสียมายื่นคำร้องเปิดลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิเฉลี่ยทรัพย์สินคืน กับ ปปง. เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน
ขณะที่พล.ต.ต.สถิตย์ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่าขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งเฝิงเฟย ไช่ ทำหน้าที่เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในไทย มีลูกค้าเป็นชาวจีนกว่าร้อยละ 90 ทั้งนี้บช.สอท.ได้รวบรวมแอปพลิเคชั่นปลอมที่คนร้ายใช้หลอกเหยื่อ ซึ่งประกอบไปด้วย แอพ BChGlobal Bitmox,Orangex, BitcoinEx,NAGA, Bitgo ,Cobo ,EthMiner,SpotGlobal, Paxful และMATH นอกจากนี้ทางตำรวจสอท. ได้ขยายผลปฎิบัติการ ล่าลวงหลอก เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นผู้กำกับเมืองตากหลอกเหยื่อว่ามีพัสดุผิดกฎหมาย โดยนำหมายจับเข้าจับกุมน.ส.นางโมเมเอ (nang moe moe aye) อายุ 24 ปี ชาวพม่า ตามหมายจับศาลจ.ขอนแก่น ที่505/2566 ลงวันที่ 16 ส.ค. ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็น เจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น,นำเข้าข้อมูล สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกัน โดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเป็นเหตุให้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตรวจยึดของกลางเงินสด 4,444,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม บัตรเอทีเอ็มและบัตรกดเงินสด 16 ใบ กระเป๋าแบรนด์เนม 2 ใบ ได้ที่คอนโดหรูใจกลางเมืองย่านอโศก-พระราม 9 ซึ่งแนวทางสืบสวนพบว่ามีความเชื่อมโยงในเส้นทางการเงินของคนร้ายที่ถูกจับกุมก่อนหน้า โดยผู้ต้องหารายนี้ทำหน้าที่กดเงินออกไป 15 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนกว่า 87 ล้านบาท