‘ชัยธวัช ตุลาธน’ ปฏิเสธกระแสข่าว ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ เปิดดีลใหม่ ขอตั้งนายกฯแทน ‘พิธา’ หากไม่ผ่านด่าน ส.ว. วิงวอน ส.ส.-ส.ว.ยึดหลักการปี 62 โหวตนายกฯที่ได้เสียงเกินครึ่งของสภาฯ ส่วนเงื่อนไข 112 อย่าเอามาเป็นประเด็น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30มิถุนายน 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า กระแสข่าวพรรคเพื่อไทยยอมถอยประธานรัฐสภาแลกกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหากพรรคก้าวไกลไม่สามารถรวมเสียง ส.ว. ได้นั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังพูดคุยกันบนประโยชน์สูงสุดของประชาชนและภารกิจร่วมกันฟื้นฟูประชาธิปไตย
และข่าวดังกล่าว ตนไม่ทราบว่า มีที่มาจากไหน แต่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงไม่พูดอะไรแบบนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องสอนหนังสือสังฆราชกันเพราะประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล มีความต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ฟื้นฟูประชาธิปไตยและแก้ปัญหาประชาชน ทั้ง 2 พรรคต้องช่วยกันไม่ทำให้เรื่องไม่ปกติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้กลายเป็นเรื่องปกติ ตนยังเชื่อมั่นว่าทั้ง ส.ส. และ ส.ว. จะช่วยกันคืนความปกติให้กับระบบรัฐสภาในระบบประชาธิปไตย ด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้งให้พรรคที่ได้รับเลือกตั้งอันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้า 8 พรรคการเมืองผนึกกันแน่นก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาไม่ใช่เรื่องของความต้องการส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นหลักการที่เป็นปกติในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอยู่แล้ว แต่อย่างไรด็ตามความชัดเจนขอให้รอการพูดคุยจากวงเจรจาทั้ง 2 พรรคซึ่งตนเชื่อว่าจะจบด้วยดี ทั้งสองผ่านต่างวางอยู่บนผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน
@พูดซ้ำๆ ส.ส.-ส.ว. ต้องโหวตเหมือนปี 62
เฉพาะหน้าเมื่อผ่านการเลือกประธานสภาไปแล้วทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น ตนยังเชื่อมั่นและขอให้ ส.ส.-ส.ว. เชื่อในหลักการพื้นฐานของระบบประชาธิปไตย ให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งและสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. ได้ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตามเหตุผลที่ ส.ว. ให้เหตุผลในการโหวตพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกในปี 2562 อย่างเป็นเอกภาพ
@ วอนอย่าเอา 112 มาเป็นเงื่อนไขโหวตนายกฯ
ส่วนคำถามเรื่องการเสนอแก้ ม.112 จะกลายเป็นเงื่อนไขในการเลือกนายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะแก้กฎหมายฉบับใด ล้วนแต่มีกระบวนการนิติบัญญัติอยู่แล้วในการตรวจสอบถ่วงดุล และมีกระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบว่ากฎหมายนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอให้เรื่องนี้อย่าเอามาเป็นเงื่อนไขในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยขอให้ยึดหลักการเดียวในการเลือกนายกฯ คือผลการเลือกตั้งของประชาชน
“ตอนนี้จำนวนเสียงระหว่างขั้วเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยมีความห่างกันเยอะมาก ถ้า 8 พรรคร่วมรัฐบาลผนึกกำลังกันแน่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลิกขั้ว ผมเชื่อมั่นว่าเราทำงานด้วยกันด้วยความจริงใจและเอาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง สำหรับำรรคเพื่อไทยเอง สิ่งที่สัมผัสได้อย่างจริงใจคือมีความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลกันระหว่าง 8 พรรค เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ เท่าที่ทำงานร่วมกันกับหมอชลน่าน เราเห็นความจริงใจว่าสมการการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันดีที่สุด การจัดตั้งรัฐบาลมีได้การพูดคุยกันเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งเชื่อว่าจะจบด้วยดี เราต้องการเวลาในการพูดคุยกันเพื่อตกผลึก เพื่อให้เรื่องจบเร็วที่สุด” นายชัยธวัชทิ้งท้าย