ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ยกกำลังบุกจับ 2 ผับใหญ่กลางอำเภอกะทู้ ภูเก็ต หลังชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน สถานบริการเปิดเกินเวลากำหนด เบื้องต้นพบเป็นผับไร้ใบอนุญาต ปล่อยเด็กเข้าใช้บริการ เปิดยัน 6 โมงเช้า เตรียมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ชง ผู้ว่าฯ สั่งปิด 5 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 มิ.ย. 66 ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครองพร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองส่วนกลางและกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน บุกเข้าตรวจสอบและจับกุมสถานบริการชื่อดัง 2 แห่งกลางเมืองกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย ราตรีคลับ และ มหานครภูเก็ต ตั้งอยู่ริมถนนใกล้แยกกะทู้ อ.กะทู้ หลังกรมการปกครองได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่อยู่บ่อยครั้งว่า สถานบริการดังกล่าวเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเปิดบริการขายเหล้า ขายเบียร์ เล่นดนตรี มีนักเที่ยวหลายร้อยคนดื่มเมากันถึงเวลาเช้า ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน เป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนอนไม่หลับได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานบริการทั้ง 2 แห่งอยู่ตรงข้ามกัน โดยมีถนนสายหลักคั่นไว้
กรมการปกครองจึงได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครองแฝงตัวเข้าไปสืบสวนและแสวงหาพยานหลักฐาน พบว่า สถานบริการทั้ง 2 แห่งมีนักเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก มีการเล่นดนตรีสด สลับกับดีเจเปิดเพลง และขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนดทุกคืน โดย ราตรีคลับ เปิดทำการถึงเวลาตี 4 ส่วน มหานครภูเก็ต เปิดทำการถึงเวลา 6 โมงเช้าทุกวัน หลังจากที่ ราตรีคลับ ปิดทำการแล้ว นักเที่ยวจะเดินข้ามถนนมาเที่ยวต่อที่ มหานครภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ก่อนเข้าจับกุมเวลา 02.30 น. พนักงานฝ่ายปกครองได้แฝงตัวเข้าไปใช้บริการ ซึ่งเลยเวลาปิดทำการแล้ว พบว่าสถานบริการราตรีคลับ และ มหานครภูเก็ต ยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็กบิลปิดทำการแต่อย่างใด ดีเจยังเปิดเพลงและนักเที่ยวกำลังเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนานตามจังหวะของเสียงดนตรีที่เร้าใจ นอกจากนี้ยังพบว่าสถานบริการทั้ง 2 แห่งยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาจำหน่ายตามกฎหมายไปแล้วก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุมพร้อมกันทั้ง 2 ร้านทันที
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาถึงสถานบริการทั้ง 2 แห่ง พบว่า สถานบริการราตรีคลับ และ มหานครภูเก็ต ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยวจำนวนกว่าร้อยคนกำลังดื่มกินอยู่ภายใน ทันทีที่นักเที่ยวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมภายในผับ จึงเกิดโกลาหลเล็กน้อย หลายคนพยายามจะหลบหนีทางบันไดหนีไฟด้านหลังร้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังปิดประตูทางเข้าออกไว้ทุกด้าน เจ้าหน้าที่สั่งให้เปิดไฟแสงสว่าง ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ใช้เวลากว่า 15 นาที จึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
จากการตรวจสอบสถานบริการทั้ง 2 แห่งนี้ พบว่า เป็นสถานบริการที่ไม่มีใบอนุญาต และยังตั้งอยู่นอกโซนนิ่ง และยังปล่อยให้เยาวชนเข้าใช้บริการอีกด้วย โดยพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการจำนวน 10 คน ซึ่งเป็นเด็กอายุระหว่าง 17-19 ปี จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้านมหานครภูเก็ตส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ ในข้อหา 1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 4.จำหน่ายสุราแก่เด็ก 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ส่วนร้านราตรีคลับ แจ้งข้อหา 1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย โดยพนักงานฝ่ายปกครองจะเสนอเรื่องให้ ผวจ.ภูเก็ต มีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครองได้ดำเนินการกวดขันจับกุม ปราบปรามสถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงขอฝากถึงผู้ประกอบการสถานบริการทั่วประเทศขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่
โดยประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทําการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 1.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 3.เปิดทําการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ 4.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากําหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ 5.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน 6.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ ในสถานที่ของตน 7.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันในสถานที่ของตน 8.มีที่ตั้งบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา