'ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์' รมว.ดีอีเอส เผย รัฐบาลเร่งออก พ.ร.ก.ไซเบอร์ หยุดเส้นทางการเงิน ทุนสีเทา อยู่ ย้ำปัญหาธุรกิจสีเทาเกิดขึ้นมานานแล้ว เตือน ปชช. หยุดรับจ้างเปิดบัญชีม้า พร้อมป้อง บิ๊กป้อง มีภาพคู่เพื่อนตู่ห้าว ยัน ไม่เกี่ยว ขอความเป็นธรรม อ้างใครเข้าพบได้ทั้งนั้น เหตุเป็นคนรับฟัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายวันแรก โดยเฉพาะปัญหาต่าง ๆ ที่ฝ่ายค้านเสนอแนะ ว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ จะนำไปสู่นโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ด้วย ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในรัฐบาลหน้า
เพราะรัฐบาลนี้คงทำไม่ทัน หลายเรื่อง โดยเฉพาะธุรกิจสีเทาและมาเฟียต่าง ๆ รัฐบาลดำเนินการปราบปรามอยู่แล้ว
ส่วนสาเหตุที่เป็นข่าวเยอะ ๆ เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปปราบปรามอย่างจริงจัง มีการจับกุมดำเนินคดี จริง ๆ แล้วทุนสีเทา ธุรกิจพวกนี้มันทำมานานแล้ว เป็นสิบๆ ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมามีสมัยนี้ สมัยรัฐบาลในอดีตก็มี เสธ.คนนั้น เสธ.คนนี้ ใครจะทำธุรกิจสีเทาต้องไปคุยกับ เสธ.คนนี้ จำชื่อไม่ได้แล้ว เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว เป็นเพื่อนอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย
นายชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่าไปคิดมากเลย ปัญหานี้มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลไหนมามันก็วิ่งเข้ามาหา พวกทุนสีเทาชอบวิ่งมาหาผู้มีอำนาจ เพราะฉะนั้น เราต้องแก้ที่กฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อจะลดปัญหาเหล่านี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการพยายามเชื่อมโยงเรื่องการบริจาคเงินกับพรรค พปชร. ที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดกันอีกครั้ง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ตรวจสอบ ผิดถูกก็ว่ากันไปตามกฎหมาย วันนี้ปัญหาของสังคมไทย คือ เรื่องของกฎหมายหรือระเบียบที่เอื้อให้เกิดธุรกิจสีเทา มีกฎหมายที่ใช้ในทางปฎิบัติไม่ได้ เมื่อเขาทำธุรกิจแล้วขัดต่อกฎหมายก็ต้องไปจ่ายส่วย ดังนั้นหน้าที่ของเรา คือต้องเอากฎหมายมาพิจารณา อะไรที่ล้าสมัยก็ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ โดยไม่ต้องจ่ายส่วยกัน นี่คือสิ่งที่ตน และพรรค พปชร. ผลักดันอยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง การอภิปรายพาดพิงถึงฝ่ายรัฐบาลจะส่งผลต่อการเลือกตั้งในครั้งหน้าหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามประชาชน แต่คิดว่าเรื่องธุรกิจสีเทามีมาทุกยุคทุกสมัย เขาจะวิ่งหาผู้มีอำนาจ ทุกคนมีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้้มาตลอด ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ และยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ได้เกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา แต่ธุรกิจสีเทาเขาพยายามวิ่งเข้าหาผู้มีอำนาจ อย่างที่เห็นว่ามีการถ่ายรูปกับผูัมีชื่อเสียง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดภาพคู่เพื่อนสนิทของนายตู้ห่าวกับพล.อ.ประวิตร ที่บ้านป่ารอยต่อ นายชัยวุฒิ ทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับนักการเมือง บางทีตนไปงานมอบโล่ หรือถ่ายรูปคู่กับบุคคลต่างๆ ก็ไม่ทราบว่าเขาทำธุรกิจสีเทาหรือสีขาว คิดว่า พล.อ.ประวิตร ก็ไม่รู้ว่าเขาทำธุรกิจอะไร เพราะพล.อ.ประวิตร เป็นคนที่เปิดกว้าง ให้โอกาส รับฟังความคิดเห็นทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ต่างมากันทั้งนั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง ในการป้องกันกลุ่มทุนจีนสีเทา การออกพระราชกำหนด มาตรการปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (พ.ร.ก.ไซเบอร์) จะช่วยในการตามเส้นทางการเงินอย่างไร นายชัยวุฒิ ระบุว่า ปัญหาใหญ่ของการทำอาชญากรรมออนไลน์คือการปิดกั้นเว็บไซต์ทำได้ยาก เราห้ามคนไทยไม่ให้ใช้เว็บไซต์ต่างประเทศก็ไม่ได้ ไม่ว่าจะเว็บไซต์พนันหรือเว็บไซต์ขายของ ฉะนั้น วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการออกกฎหมายเพื่ออาญัติบัญชี หยุดเส้นทางการเงิน ซึ่งต่อไปรัฐสามารถอาญัติบัญชีที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายเป็นเวลา 7 วัน หากเจ้าของบัญชีทำธุรกิจอย่างถูกต้อง และมาแจ้ง ก็จะเปิดให้ใช้ได้ เชื่อว่าเมื่อธุรกิจสีเทาเจอกฎหมายดังกล่าว ก็หยุดหมด เพราะไม่สามารถโอนเงินเป็นจำนวนมาได้
เมื่อถามว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวจะมีผลเมื่อใด นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว แต่ต้องรอกระบวนการ จะพยายามวางมาตรการต่างๆให้สอดรับกัน
นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ขอเตือนประชาชน สำหรับผู้ที่เปิดบัญชีม้า ขณะนี้มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท ใครที่รับจ้างเปิดก็ขอให้ไปยกเลิกซะ