‘ราชกิจจานุเบกษา’ เผยแพร่ประกาศ 2 ฉบับ ‘ทำไพรมารีโหวต - ทำสาขาพรรค’ มีผลวันนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดประชุมสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อรับฟังความคิดเห็น การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 และประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและการแต่งตั้งแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด พ.ศ. 2566 โดยประกาศทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้วันนี้ (4 ก.พ. 2566)
สาระสำคัญของประกาศฉบับแรก คือ พรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง 2560 ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดทะเบียนจัดตั้ง พรรคการเมืองต้องดำเนินการจัดให้มีสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคตามประกาศคณะกรรมการ การเลือกตั้งเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัด อย่างน้อยภาคละ 1 สาขา โดยสาขาพรรคการเมือง แต่ละสาขาต้องมีสมาชิกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของสาขาพรรคการเมืองนั้นตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป
ทั้งนี้ การใดที่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมือง ประจำจังหวัดก่อนประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปตามประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 2563
ส่วนอีกฉบับหนึ่ง สาระสำคัญคือ พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งในจังหวัดใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้น กรณีมีสาขาพรรคการเมืองมากกว่า 1 สาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดมากกว่า 1 ตัวแทนในจังหวัดใด ให้กำหนดว่าจะให้สาขาพรรคการเมืองสาขาใดหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดใด ในจังหวัดนั้นเป็นสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเพื่อดำเนินการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และให้แจ้งนายทะเบียน พรรคการเมืองโดยพลัน
ส่วนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ให้พรรคการเมืองจัดทำบัญชีรายชื่อเพื่อส่งให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด โดยต้องคำนึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่าง ๆ และความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง กรณีที่พรรคการเมืองใดมีสาขาพรรคการเมืองมากกว่า 1 สาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด มากกว่า 1 ตัวแทนในจังหวัดใด ให้กำหนดว่าจะให้สาขาพรรคการเมืองสาขาใดหรือตัวแทน พรรคการเมืองประจำจังหวัดใดในจังหวัดนั้น เป็นสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมือง ประจำจังหวัดเพื่อดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และ ให้แจ้งนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยพลัน