กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) สรุปสถานการณ์ข่าวปลอมระหว่างวันที่ 20 – 26 ม.ค. 2566 พบข่าวปลอมนโยบายรัฐบาลมากสุด 71 เรื่อง ขณะที่อันดับสองเป็นข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ 29 เรื่อง ส่วนข่าวปลอมโควิด-19 ยังมีต่อเนื่อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2566 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เผยถึงผลสรุปการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมระหว่างวันที่ 20 – 26 ม.ค. 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,397,995 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ ทั้งสิ้น 257 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 236 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 21 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 124 เรื่อง
ทั้งนี้ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1:นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 71 เรื่อง
กลุ่มที่ 2:ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 29 เรื่อง
กลุ่มที่ 3:ภัยพิบัติ จำนวน 7 เรื่อง
กลุ่มที่ 4:เศรษฐกิจ จำนวน 17 เรื่อง
สำหรับข่าวปลอมทั้ง 4 กลุ่มมีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโควิค-19 จำนวน 2 เรื่อง
เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจลำดับต้น ๆ ในสัปดาห์ล่าสุดนี้พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวปลอมด้านนโยบายรัฐบาล และสุขภาพ สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับได้แก่
อันดับที่ 1:ธกส. สนับสนุนค่าตอบแทนผู้นำศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีละ 893 ล้านบาท
อันดับที่ 2:ดื่มน้ำต้มตะไคร้ มะตูมแห้งและเกสรบัวหลวงก่อนนอนช่วยความจำ
อันดับที่ 3:ป้องกันการปวดหัว โดยใช้น้ำตบท้ายทอยเบา ๆ สัก 2 - 3 ครั้ง ทุกวันตอนเช้า
อันดับที่ 4:สูตรเครื่องดื่มธัญพืชหรือน้ำอาร์ซี สามารถรักษาโรคมะเร็งได้
อันดับที่ 5:รัฐบาลเตรียมสั่งทุบวัดในเขตอุทยาน 6,000 แห่งทั่วประเทศ
อันดับที่ 6:ธนาคารออมสิน ส่ง SMS ให้กดรับสิทธิ์กู้เงิน
อันดับที่ 7:Mistletoe ยาฆ่าเซลล์มะเร็งทางเลือกใหม่ที่ไม่ทำลายเม็ดเลือดขาว
อันดับที่ 8:ออมสินเปิดสินเชื่อให้ยืม เพื่อทำธุรกิจต้องการเงินลงทุนผ่านเพจเฟซบุ๊ก
อันดับที่ 9:รัฐบาลเล็งเตรียมเก็บภาษีรถเก่าอายุ 10 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจป้ายแดง
อันดับที่ 10:รับประทานผักกาดขาวเป็นประจำ ช่วยรักษาอาการตับอักเสบ
พร้อมกันนี้ น.ส.นพวรรณ โฆษกฯDES ยังขอความร่วมมือประชาชน เมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลผ่านโซเชียล ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ เพื่อความปลอดภัยและรู้เท่าทัน โดยทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ติดตามความเคลื่อนไหวข้อความที่ผิดปกติในทุกช่องทางและได้มีการติดตามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอสหรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
สามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้
ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87