สำนักงานประกันสังคมทำ MOU กับสถานพยาบาล 10 แห่งเพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพ นำร่องในกลุ่ม 5 โรค หัวใจ-หลอดเลือดสมอง-นิ้วในไต-มะเร็งเต้านม-ก้อนเนื้อที่มดลูก ผู้ช่วยรมว.แรงงานร่วมเป็นประธานในการลงนาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2565 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษาของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม
นายสุรชัย กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลและเข้าถึงการให้บริการรักษาทางการแพทย์ของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายในเรื่องการจัดการและพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประกันตนโดยมีภารกิจสำคัญในการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์พร้อมการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ในวันนี้ ตนรู้สึกยินดีที่ได้รับมอบหมายจากท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มาเป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานการทำบันทึกข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ ระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับสถานพยาบาลทั้ง 10 แห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเข้าถึงการรักษาให้กับผู้ประกันตน ด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการนำร่องในกลุ่ม 5 โรค
“นับเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นหนึ่งที่รัฐบาล และกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มอบให้ผู้ประกันตนในกรณีเจ็บป่วยและมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการกับโรงพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการทำบันทึกข้อตกลงในวันนี้ สามารถทำให้ผู้ประกันตนได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นการลดระยะเวลาการรอคอย ลดภาวะแทรกซ้อน ไม่ให้อาการของโรคมีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้น ส่งผลให้ผู้ประกันตน สามารถกลับไปทำงานได้อย่างรวดเร็ว และดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงนับได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่สามารถช่วยเหลือผู้ประกันตนอย่างแท้จริง” นายสุรชัยกล่าว
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึง การทำบันทึกข้อตกลงระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับสถานพยาบาลที่มีศักยภาพตามมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการนำร่องในกลุ่ม 5 โรค ในวันนี้มีสถานพยาบาลในระบบประกันสังคมจำนวน 10 แห่ง ร่วมบันทึกข้อตกลงฯ ให้บริการรักษาให้กับผู้ประกันตนตามความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีดังนี้
1. สถานพยาบาลให้บริการรักษาด้านหัตถการโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค กรุงเทพฯ, โรงพยาบาลเทพธารินทร์ กรุงเทพฯ, โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม กรุงเทพฯ, โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพฯ, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล จังหวัดนนทบุรี, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ จังหวัดสมุทรปราการ
2. สถานพยาบาลให้บริการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ สถาบันประสาทวิทยา กรุงเทพฯ
3. สถานพยาบาลให้บริการผ่าตัดนิ่วในไตและถุงน้ำดี จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
4. สถานพยาบาลให้บริการผ่าตัดมะเร็งเต้านม จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลบางปะกอก 8 กรุงเทพฯ
5. สถานพยาบาลให้บริการผ่าตัดก้อนเนื้อที่มดลูก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลบางปะกอก 8 กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯ
นายบุญสงค์กล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์โดยตรงกับสถานพยาบาลที่ทำบันทึกข้อตกลง โดยผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับบริการแต่อย่างใด สำหรับระยะเวลาดำเนินการเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2566
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการแล้ว สำนักงานประกันสังคมจะติดตามและประเมินผล เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดการบริการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผู้ประกันตนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกันตนมาใช้บริการ ทั้งสิ้นจำนวน 7,500 คน สำนักงานประกันสังคม ยังคงมุ่งมั่นและทุ่มเทการทำงานโดยยึดหลักการดำเนินงานภายใต้แนวทางของรัฐบาล