บิ๊กโจ๊ก พร้อมคณะบินด่วน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประสานรับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ หลังมาเลฯ จับกุมตัวได้ 3 ราย เผยความร่วมมือ 2 ประเทศบังคับใช้กฎหมายด้วยดีเสมอมา ปิดทางอาชญากรไม่ให้มีที่ยืนต่อไป
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เปิดปฏิบัติการ “SAVE ผ้าขาว” โดยปิดล้อมตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่ จ.ชลบุรี และฉะเชิงเทรา จับกุุม นายวันเผด็จ เรืองฤทธิ อายุ 41 ปี และ นายกอแต้ หรือลีโอ อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมาเครือข่ายค้าประเวณีเด็กหญิง อายุ 13 ปี พร้อม ประสานหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศมาเลเซีย (CID) จับกุม น.ส.เกษณี ตาท้าว อายุ 38 ปี นางนฤมล แฟงฟัก. อายุ44 ปี และ น.ส.เมธินี แสงไข่ อายุ 38 ปี ได้อีก 3 คนในโรงแรมย่าน Selangor และสามารถช่วยเหยื่อเป็นหญิงไทย 2 คน และหญิงชาวอินโดนีเซีย 2 ราย ที่ถูกหลอกลวงไปขายบริการทางเพศที่ประเทศมาเลเซียออกมาได้อย่างปลอดภัยตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีนี้ว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบ Tan Sri Acryl Sani Bin Hj Abdullah Sani ผบ.ตร. ,Dato’ Sri Abd Jalil Bin Hassan ผบช.สืบสวนคดีอาชญากรรม ,Dato’ Sri Hazani Bin Ghazali ผบช.ความมั่นคงภายใน ,Dato’ Hj Baharuddin Bin Hj Ahmad ผบช.ตำรวจสันติบาล ,Dato’ Mohd Kamarudin Bin Md Din ผบช.สืบสวนคดีเศรษฐกิจ, Datuk Zaini Bin Jass ผบช.ฝ่ายบริหาร ,Datuk Seri Ayob Khan Bin Mydin Pitchay ผบช.ปราบปราบยาเสพติด เพื่อประสานความร่วมมือในคดีอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นการพัฒนาความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งการส่งตัว น.ส.เกษณี ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเครือข่ายขายบริการทางเพศ นางนฤมล ผู้จัดหาลูกค้า และ น.ส.เมธินี คนทำหน้าที่ส่งข้อความทางโซเชียลมีเดียไปหลอกชักชวนผู้เสียหายให้ไปทำงานร้านนวดที่ประเทศมาเลเซียกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศไทย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจาก บก.ปคม. ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากญาติของเหยื่อ โดยชุดปฏิบัติการสามารถประสานความร่วมมือในการเข้าช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว และพากลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงคนไทยไปค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซียได้อย่างทันเวลานั้น เป็นเพราะ ทางการไทยและทางการมาเลเซียมีการประสานความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายด้วยดีเสมอมา ทำให้การร่วมมือกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งจากการได้พบและพูดคุยกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ก็ยืนยันว่าจะประสานความร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้กันอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อปิดทางมิให้อาชญากรเหล่านี้มีที่ยืนในทั้งสองประเทศต่อไป