ปปป.เรียก ‘เจ้าคุณแจ๊ค’ รับทราบข้อหาเพิ่ม 2 คดี พร้อมเชิญ 12 เจ้าอาวาสวัด นครนายก-สุรินทร์ สอบปากคำเพิ่มปมทุจริตเงินทอนวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2565 กรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ร่วมกับหน่วยงานที่อื่นเกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการล้างบาปปราบอลัชชี เพื่อสางต่อคดีทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 ลุยค้น จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กทม. กระทั่งสามารถควบคุมตัว พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ็ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก คากุฏิ เจอทั้งเหล้า ถุงยาง และปืนบีบีกัน
หลังสืบสวนพบว่าร่วมกับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 64 ปี อดีต ผอ.พศ. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ จ.15 /65 ลงวันที่ 15 ก.พ. 2565 ข้อหาสมคบและร่วมกันฟอกเงิน และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีทุจริตเงินทอนวัดครั้งแรกที่ยังหลบหนี อมเงินบูรณะซ่อมแซม 12 วัดใน จ.นครนายก ไป 110 ล้านบาทจากวัดต่างๆมาเก็บไว้ แล้วเอาไปซื้อที่ดินในชื่อเมีย-ลูกอดีต ผอ.พศ. กว่า 21 ล้านบาท จึงมีการเร่งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินกลุ่มบุคคลใกล้ชิดพระสิทธิวรนายก และ นายนพรัตน์ เพื่อติดตามเงินส่วนที่หายไปอีกกว่า 90 ล้านบาท
ล่าสุด พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกพระสิทธิวรนายกให้มาพบในวันที่ 1 มี.ค.2565 เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม อีก 2 คดี เพราะเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ หลังก่อนหน้านี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วในคดีแรก เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังเรียกเจ้าอาวาสวัดต่างๆ รวม 12 วัด มาสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน ประกอบด้วยเจ้าอาวาส 11 วัด ในพื้นที่ จ.นครนายก ประกอบด้วย วัดสมบูรณ์สามัคคี วัดช้าง วัดท่าซุง วัดหนองโพธิ์ วัดบ้านนุ่ง วัดนาบุญ วัดดงละคร วัดโพธิ์งาม วัดปทุมวงษาวาส วัดธรรมารังสฤษฏ์ วัดบางเตย และเจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ทั้งนี้เพื่อสอบประเด็นต่างๆที่ยังคงมีข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวด้วยหรือไม่
ขณะที่เจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี ที่มีการเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานะพยานครั้งนี้ด้วยนั้น เนื่องจากพบข้อมูลว่า พระสิทธิวรนายกได้มีการทุจริตลักษณะเดียวกัน หลังมีการให้เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถอนเงินงบบูรณะซ่อมแซมวัดที่ได้รับจากทางสำนักพระพุทธศาสนา จำนวนรวม 4 ล้านบาท มามอบให้กับตัวเองที่วัดเขาทุเรียน ก่อนจะถอนกลับคืนไปให้จำนวน 9 แสนบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับประเด็นการสอบปากคำกลุ่มเจ้าอาวาส 11 วัดในพื้นที่ จ.นครนายก จะมุ่งเน้นไปที่พฤติการณ์รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการทุจริต รวมถึงห้วงเวลา สถานที่นัดรับส่งมอบเงิน และข้อมูลการติดต่อกันระหว่างพระสิทธิวรนายก กับ กลุ่มเจ้าอาวาสทั้ง 11 วัด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ขุดคลี่คลายคดีดังกล่าวยังเตรียมเร่งขยายผลตรวจสอบไปตามพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่างๆเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าพระสิทธิวรนายก น่าจะมีการทุจริตในลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง หลังแนวทางสืบสวนตรวจสอบพบการกระทำผิดเพิ่มเติมอีก 1 วัด โดยเป็นวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง