ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายและให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ขับเคลื่อนงานตามนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการเชิงรุก และบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับแจ้งจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี (ALLiance Anti Trafic : AAT) ร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าช่วยเหลือหญิงไทย จำนวน 3 ราย เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากถูกนายหน้าหลอกลวงนำพาไปบังคับใช้แรงงาน ถูกข่มขู่บังคับ กักขังหน่วงเหนี่ยว ขาดอิสรภาพ และบังคับให้ใช้หนี้ โดยไม่สมัครใจ ณ อาคารเป่าอี้ เอ้อ ตัง เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว อันเป็นการกระทำในลักษณะที่เป็นเครือข่ายข้ามชาติทั้งภายในและนอกประเทศ อันอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 (เรื่องสืบสวนที่ 268/2564)
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้สั่งการให้ พันตำรวจตรี สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ มอบหมายให้ พันตำรวจตรี อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ รองผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ พันตำรวจโท ปริญญา กฤษณา ผู้อำนวยการส่วนคดีการค้ามนุษย์ 2 และคณะพนักงานสืบสวน ลงพื้นที่เร่งด่วนเพื่อเข้าทำการช่วยเหลือ โดยบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หน่วยงานปกครองจังหวัดเชียงราย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดเชียงราย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงจังหวัดเชียงราย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย สถานีตำรวจภูธรเชียงแสน ตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประสานขอความร่วมมือระหว่างประเทศ ถึงเจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และสถานเอกอัครราชทูตไทยในเวียงจันทน์ เข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน จากการประสานงานอย่างต่อเนื่องตามขั้นตอนและพิธีการระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยและส่งตัวกลับประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ - ห้วยทราย)
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรค Covid-19 สปป.ลาว ได้ทำการตรวจร่างกายผู้เสียหาย ทั้ง 3 ราย พบว่า มีผู้เสียหายติด Covid-19 จำนวน 1 ราย จึงได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังเชื้อ Covid-19 โดยนำตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ ส่วนผู้เสียหาย จำนวน 2 ราย ผลการตรวจปกติ ได้นำไปกักตัว ณ โรงแรมในจังหวัดเชียงราย ตามขั้นตอนคัดกรอง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการคัดแยกผู้เสียหายจากการกระทำผิดค้ามนุษย์ร่วมกับสหวิชาชีพต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อการชักชวนให้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และอ้างว่ามีค่าตอบแทนสูง เพราะอาจตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และถูกบังคับใช้แรงงานหรือบริการได้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือโทรสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ