ผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ 398 ราย รักษาหายเพิ่ม 453 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กรมราชทัณฑ์เผยแนวโน้มสถานการณ์เริ่มดีขึ้น เรือนจำระบาดใหม่เริ่มชะลอตัว ไม่พบเรือนจำแพร่ระบาดเพิ่ม
-----------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2564 นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ กล่าวว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน สถานะเรือนจำยังคงที่ มีเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 38 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 104 แห่ง ไม่มีการระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มีจำนวน 398 ราย มาจากพบในเรือนจำสีแดง 338 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 60 ราย รักษาหายเพิ่ม 453 ราย ไม่มีรายงานการเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,306 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว 87.3% สีเหลือง 12.3% และสีแดง 0.4% เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 412 ราย ปริมณฑล 620 ราย และต่างจังหวัด 3,274 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 50,445 ราย หรือ 90.7% ของผู้ติดเชื้อสะสม 55,592 ราย เสียชีวิตสะสม 96 ราย คิดเป็นอัตรา 0.17% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายวัลลภ เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศบค.ยธ. วันนี้ โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุม พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กล่าวคือ จำนวนเรือนจำแห่งใหม่ที่มีการแพร่ระบาดค่อนข้างชะลอตัว จากมาตรการป้องกันเชื้ออย่างเข้มข้นทั้งการตรวจหาเชื้อและกักตัวผู้ต้องขังรับใหม่ รวมถึงการตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่ก่อนปฏิบัติงานทุกราย และในส่วนของผู้ติดเชื้อที่รักษาหายยังมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น และมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกระบวนการรักษาผู้ติดเชื้อทุกรายที่เป็นระบบและมีมาตรฐาน สามารถดำเนินการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิต ได้ดี และป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำมาตรการปล่อยตัวผู้พ้นโทษ ที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ติดเชื้อหรือรับการรักษาอยู่ และกลุ่มผู้ต้องขังไม่ติดเชื้อแต่มีความเสี่ยงสูง จนถึงกลุ่มผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อ แต่ได้รับการรักษาหายจนมีภูมิคุ้มกันแล้ว โดยจะต้องไม่มีการปล่อยตัวผู้พ้นโทษที่ติดเชื้อเพื่อทำการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ทุกกรณีโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อไปแพร่ระบาดภายนอก
นอกจากนี้ นายวัลลภ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเรือนจำจังหวัดอุทัยธานี มีผู้ต้องขังติดเชื้อกว่า 200 ราย ว่า เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี ได้ตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อและมีการระบาดตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ได้นำเสนอข่าวรายงานสถานการณ์เรือนจำติดเชื้อไปแล้ว โดยปัจจุบัน เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 231 ราย รักษาหายแล้ว 28 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 203 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว 162 ราย และสีเหลือง 41 ราย โดยไม่มีผู้ป่วยกลุ่มสีแดง และไม่มีผู้ต้องขังเสียชีวิต ขณะนี้ ได้ดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเป็นระบบ และอยู่ระหว่างเตรียมแผนการสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT แล้ว คาดว่าจะสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นปกติในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนต่อจากนี้
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีผู้ติดเชื้อสะสม 28 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 22 ราย และเยาวชน 6 ราย ยอดผู้ติดเชื้อที่หายป่วยวันนี้ จำนวน 1 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯและศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 44 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 12 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 2 แห่ง และติดเชื้อ 9 แห่ง หมดสถานะ 1 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น 135 ราย หรือคิดเป็น 3.23% จากทั้งหมด 4,174 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 3,795 ราย หรือคิดเป็น 87% จากทั้งหมด 4,354 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage