‘สินมั่นคงประกันภัย’ แจ้งยกเลิกจดหมายบอกเลิก ‘กรมธรรม์โควิด’ ที่ส่งถึงลูกค้าแล้ว ยืนยันให้ความคุ้มครองตามเดิม ขณะที่ 'คปภ.' ระบุหาก 'ผู้เอาประกัน' ยังได้รับเช็คคืนเบี้ยประกัน ให้ส่งหลักฐานมาที่สำนักงานฯ ก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
......................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 16 ก.ค. บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ออกประกาศถึงลูกค้าแจ้งบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) และต่อมานายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ลงนามในคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย
แต่ต่อมาสื่อโซเชียลมีเดียมีการแชร์จดหมายของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ถึงลูกค้าแจ้งยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เว็บไซต์ของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ลงประกาศว่า “ขอแจ้งยกเลิก จดหมายบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ที่ลูกค้าได้รับโดยบริษัทฯ ยืนยันให้ความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโคโรนาดังกล่าวกับลูกค้าตามเดิม บริษัทฯ ขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้”
ขณะที่เพจ PR OIC ซึ่งเป็นเพจประชาสัมพันธ์ของ คปภ. ระบุว่า คปภ.ยืนยันว่า บริษัทประกันภัย ไม่สามารถบอกเลิกประกันภัยโควิด-19 ได้ คำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง สั่งให้ระงับสิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันภัยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.25641 ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง มีสภาพบังคับให้ทุกบริษัทประกันวินาศภัยต้องปฏิบัติตาม
“หนังสือบอกเลิกของบริษัทที่ส่งไปถึงผู้เอาประกันไม่มีสภาพบังคับ กรมธรรม์ประกันภัยของท่าน ยังคงสมบูรณ์และมีความคุ้มครองตามปกติ หากผู้เอาประกันยังคงได้รับเช็คคืนเบี้ยประกันภัยทางไปรษณีย์จากบริษัท สามารถนำเอกสารดังกล่าวมาร้องเรียนต่อสำนักงาน คปภ. ซึ่งสำนักงาน คปภ.จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับบริษัทประกันภัยต่อไป” คปภ.ระบุ
วันเดียวกัน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ออกเอกสารข่าว โดยระบุว่า มูลนิธิฯได้รับแจ้งจากผู้บริโภคจำนวนมากที่ทำประกันภัยโควิด กับ บริษัท สินมั่นคงประกันภัยว่า ได้รับหนังสือบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด ลงวันที่ 13 ก.ค. 64 ลงนามโดยผู้รับมอบอำนาจ โดยมีสาระสำคัญที่กล่าวถึงเงื่อนไขการบอกเลิกตามสัญญาประกันภัยหมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนดข้อ 2.4.3 และ ข้อ 2.5.1 ซึ่งหนังสือฉบับดังกล่าวสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคจำนวนมาก จึงมาร้องต่อมูลนิธิ ฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ
มูลนิธิฯ เห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวของ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งที่การประกอบการของบริษัทเป็นธุรกิจที่ต้องคาดการณ์ความเสี่ยงล่วงหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้รับทำประกันภัยโควิดกับประชาชนไว้จำนวนมาก เท่ากับยอมรับความเสี่ยงและผลตอบแทนไว้อย่างดีแล้ว แต่การอ้างเหตุความเสี่ยงจากสถานการณ์โควิดมาบอกเลิกสัญญากับผู้เอาประกัน จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ บริษัทยังลักไก่ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญา ก่อนแจ้ง คปภ. ในฐานะนายทะเบียน โดยอาจหวังตัดตอนการเรียกร้องค่าสินไหมจากผู้บริโภค จึงเท่ากับเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคอาจหลงเข้าใจผิดต่อการประกอบธุรกิจประกันภัย และเข้าข่ายขาดจริยธรรมในการทำธุรกิจบนความเสี่ยงของผู้บริโภคภายใต้สถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอย่างรุนแรงในขณะนี้
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจึงขอเรียกร้องให้ คปภ. ตรวจสอบการประกอบการและสถานะทางการเงินของ บริษัท สินมั่นคงประกันภัยโดยทันที เนื่องจากเข้าข่ายมีพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบในฐานะผู้มีวิชาชีพประกอบธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน และขอให้ คปภ. เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้เอาประกันภัยโควิดของบริษัทประกันภัยทุกบริษัทต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงจำนวนที่แท้จริงของผู้เอาประกัน และเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้กับผู้บริโภคที่ทำประกันภัยโควิดทุกคน
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอเชิญชวนผู้บริโภคทุกคนร่วมแสดงพลังด้วยการไม่สนับสนุนสินค้าและบริการของ บริษัท สินมั่นคง ประกันภัย เพื่อแสดงเจตจำนงว่า “ผู้บริโภคจะไม่ยอมถูกเอาเปรียบอีกต่อไป และสิทธิผู้บริโภคต้องได้รับการคุ้มครอง” #แบนสินมั่นคง
อ่านประกอบ :
‘คปภ.’ ออกคำสั่งยกเลิกเงื่อนไข ‘บ.ประกันภัย’ ใช้สิทธิบอกเลิก ‘กรมธรรม์โควิด’
ขู่ใช้กฎหมายบังคับ! ‘คปภ.’ สั่ง ‘สินมั่นคงประกันภัย’ ห้ามบอกเลิก 'กรมธรรม์โควิด'
ชวดเงิน-ผิดฉ้อฉล!คปภ.เตือนคนตั้งใจติดโควิดหวังเคลมประกัน-แนะจำกัดกรมธรรม์'เจอจ่ายจบ'
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage