ไทยติดเชื้อเพิ่ม 2,671 ราย เป็นคลัสเตอร์เรือนจำ 604 ราย รวมสะสม 177,467 ราย เสียชีวิตอีก 23 ราย ขณะที่ กทม.พบ 5 คลัสเตอร์ใหม่ ขยายวงชุมชน ตลาด แคมป์ก่อสร้าง ทำให้ต้องเฝ้าระวังทั้งหมด 63 คลัสเตอร์
------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2564 เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดป่วยรายใหม่ 2,671 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,984 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,095 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 889 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 604 ราย และอีก 83 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 177,467 ราย หายป่วยเพิ่ม 2,242 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 49,714 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,209 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 361 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,236 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 23 ราย มาจาก กทม. 13 ราย สมุทรปราการ 4 ราย ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา นครศรีธรรมราช สระบุรี สระแก้ว ระยอง จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 11 ราย มีอายุระหว่าง 32-79 ปี มีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 62 ปี
โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว แบ่งเป็น ความดันโลหิตสูง 16 ราย เบาหวาน 14 ราย ไขมันในเลือดสูง 6 ราย โรคไต โรคหัวใจ 5 ราย โรคอ้วน 3 ราย โรคปอด 2 ราย โรคหลอดเลือดในสมอง 1 ราย และไม่มีโรคประจำตัว 1 ราย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มาจากคนในครอบครัว 9 ราย รองลงมาคือ ติดเชื้อมาจากคนอื่นๆ เช่น เพื่อนร่วมงาน เพื่อน เพื่อนบ้าน ผู้ร่วมงานศพ 6 ราย อาศัย/เดินทางไปในพื้นที่ระบาด 4 ราย และมีอาชีพเสี่ยง 4 ราย เป็นคนค้าขาย และพนักงานส่งของ
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 675 ราย สมุทรปราการ 288 ราย เพชรบุรี 196 ราย นนทบุรี 163 ราย สมุทรปราการ 124 ราย สงขลา 89 ราย ตรัง 58 ราย ปทุมธานี 51 ราย พระนครศรีอยุธยา 44 ราย และฉะเชิงเทรา 35 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 26,611 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 20,948 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 4,190,503 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 2,845,287 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 1,345,216 ราย
@ ศปม.เปิดให้คนไทยที่อยากกลับประเทศ ลงทะเบียนขอข้ามแดนออนไลน์ได้
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 83 ราย ประกอบด้วย อินเดีย 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย บาห์เรน 1 ราย อียิปต์ 1 ราย มาเลเซีย 2 ราย และกัมพูชา 76 ราย ซึ่งมี 16 รายเดินทาง ไม่ถูกกฎหมาย
สำหรับตัวเลขการสกัดกั้นการลับลอบเข้าเมืองวันนี้ พบผู้ลักลอบ 173 ราย แบ่งเป็น ลาว 37 ราย เมียนมา 35 ราย และกัมพูชา 26 ราย นอกเหนือจากนั้น เป็นคนไทย 45 ราย ลักลอบอื่นๆ 1 ราย ผู้นำพา 4 ราย และคดีอื่นๆ 25 ราย
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า วันนี้ ที่ประชุมศบค.ก็ได้คุยกันโดยใช้เวลาพอสมควร โดยทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้เสนอขึ้นมาเฉพาะชาวไทยที่อยากกลับประเทศ ขอให้เข้ามาในช่องทางถูกกฎหมาย สามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านระบบของกระทรวงต่างประเทศ เข้ามาก่อนได้ พร้อมกับยื่นหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ หากตรวจคัดกรองแล้วไม่มีเชื้อ เจ้าหน้าที่จะพาเข้าสู่ Local Quarantine เพื่อกักกันตัว แต่หากพบติดเชื้อจะถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล โอยช่องทางที่อนุญาตให้ประชาชนไทยเดิน
ส่วนช่องทางจุดผ่านแดนที่อนุญาตให้ประชาชนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศ มีอยู่ด้วยกัน 23 จุด ใน 22 จังหวัด กระจายไปทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น ด้านเมียนมา 4 แห่ง ด้านลาว 10 แห่ง ด้านกัมพูชา 5 แห่ง และด้านมาเลเซีย 4 แห่ง
@ คลัสเตอร์ใหม่ 'เขตอุตสาหกรรมฟอกหนัง' ติดโควิดแล้ว 16 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดในจังหวัดอื่นว่า ยังพบผู้ป่วยทั่วประเทศ ส่วนมากเป็นการติดเชื้อภายในโรงงาน แคมป์ก่อสร้าง และตลาด ซึ่งวันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเขตอุตสาหกรรมฟอกหนัง พบติดเชื้อโควิดแล้ว 16 ราย
โดยประวัติเสี่ยงส่วนใหญ่ของคลัสเตอร์ต่างๆ เกิดจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน และเป็นผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่มีการระบาด
@ กทม.เฝ้าระวัง 63 คลัสเตอร์-ชี้ผลสำรวจแคมป์ก่อสร้างไม่ผ่านเกณฑ์เกือบ 100 แห่ง
ขณะที่สถานการณ์การระบาดใน กทม. พบคลัสเตอร์ใหม่ 4 แห่ง ประกอบด้วย เขตดุสิต ตลาดเทวราช (เทเวศร์) เขตราชเทวี ชุมชนเพชรบุรี ซอย 10/ซอยหลังโรงเรียนกิ่งเพชร เขตลาดพร้าว แคมป์ก่อสร้าง บ. ซิโน-ไทย เขตวัฒนา ชุมชนมาชิม และชุมชนเฉลิมอนุสรณ์ ทำให้ขณะนี้ กทม. ต้องเฝ้าระวังทั้งสิ้น 63 คลัสเตอร์
นอกจากนี้ กทม.รายงานว่า ขณะนี้มีการตรวจตลาดและประเมินสุขาภิบาลของตลาดต่างๆ ที่ขึ้นทะเบียนกับ กทม.ไว้แล้ว 102 แห่ง ขณะที่ในส่วนของแคมป์คนงานก่อสร้าง 409 แห่ง ขณะนี้ตรวจไปแล้ว 367 แห่ง พบว่า ผ่านเกณฑ์ 270 แห่ง ไม่ผ่านการเกณฑ์ 97 แห่ง ซึ่งในส่วนของมาตรการนายจ้าง จะต้องมีการปรับปรุงในเรื่องการวางแผนเตรียมความพร้อมเมื่อพบผู้ป่วย ปรับปรุงเรื่องข้อมูลข่าวสารที่ต้องสื่อสารกับลูกจ้าง โดยเฉพาะเรื่องภาษา ปรับปรุงที่นั่งรับประทานอาหารที่ไม่มีการจัดเตรียมไว้ให้ ทำให้แรงงานต้องไปนั่งจับกลุ่มกัน ปรับปรุงห้องน้ำที่ยังไม่มีความเหมาะสม รวมถึงการป้องกันการรวมตัวกันทำกิจกรรมสังสรรค์ดื่มกินหลังเลิกงาน
"โควิด อยู่กับเรามาปีกว่า เรายึดหลักและรับนโยบายมาจากนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. บางครั้งชุดข้อมูลต่างๆ ไม่มีความชัดเจน แต่ไม่ได้มีเจตนาปกปิดอะไร และขอให้เครดิตกับผู้ทำงานเบื้องหลังที่ทำกัน 24 ชั่วโมง ไม่ได้หยุดเพื่อให้ได้ข้อมูลมารายงานแก่ประชาชน ส่วนที่มีอะไรไม่ถูกต้องตนขอน้อมรับไว้ ข้อมูลส่วนใหญ่ 99% ไม่มีเจตนาจะปกปิด แต่บางครั้งมีความไม่เรียบร้อยของข้อมูล ซึ่ง ผอ.ศบค.เน้นว่าให้ยึดความถูกต้อง ทันการณ์ ทันเวลา โดยเอาความถูกต้องขึ้นก่อน และถ้าทันการณ์และทันเวลาได้จะดี ระบบข้อมูลอาจจะช้าหน่อย แต่ความเร่งรีบเราต้องบอกประชาชนให้ได้โดยเร็ว เราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่และดีที่สุด" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
@ ทั่วโลกป่วย 394,844 ราย สะสม 173.71 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 394,844 ราย รวม 173,717,565 ราย อาการหนัก 87,594 ราย หายป่วย 155,586,510 ราย เสียชีวิต 3,736,092 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 11,603 ราย รวม 34,204,374 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 574ราย รวม 611,611 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 114,537 ราย รวม 28,808,372 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,706 ราย รวม 340,719 ราย บราซิล พบเพิ่ม 65,471 ราย รวม 16,907,425 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,078 ราย รวม 469,784 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 80 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage