ไทยติดเชื้อเพิ่ม 3,886 ราย เป็นคลัสเตอร์เรือนจำ 1,230 ราย รวมสะสม 169,348 ราย เสียชีวิตอีก 39 ราย ด้าน ศบค. กำชับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด คุมเข้มโรงงานอุตสาหกรรมการแพทย์ หลังพบติดเชื้อหลายแห่ง ป้องกันการหยุดชะงักการผลิต หวั่นกระทบแผนคุมโควิด
------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2564 เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ติดป่วยรายใหม่ 3,886 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,607 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,362 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 1,245 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 1,230 ราย และอีก 49 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 169,348 ราย หายป่วยเพิ่ม 3,626 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 49,998 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,208 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 373 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 39 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,146 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 39 ราย มาจาก กทม. 24 ราย นนทบุรี และภูเก็ต จังหวัดละ 2 ราย ชลบุรี ชัยภูมิ เชียงราย ตาก นครศรีธรรมราช บึงกาฬ ปัตตานี สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี และอ่างทอง จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 20 ราย หญิง 19 ราย มีอายุระหว่าง 36 - 89 ปี มีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 64 ปี
โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว แบ่งเป็น ความดันโลหิตสูง 22 ราย เบาหวาน 18 ราย ไขมันในเลือดสูง 13 ราย โรคไต 10 ราย โรคปอด 5 ราย โรคหัวใจ 4 ราย โรคตับ 3 ราย โรคหลอดเลือดในสมอง 2 ราย มะเร็ง 1 ราย และไม่มีโรคประจำตัว 3 ราย
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มาจากคนในครอบครัว 13 ราย รองลงมาคือ อาศัย/เดินทางไปในพื้นที่ระบาด 10 ราย ติดเชื้อมาจากคนอื่นๆ เช่น เพื่อน เพื่อร่วมงาน ผู้ดูแล และวงน้ำชา 7 ราย มีอาชีพเสี่ยง ไปในที่คนหนาแน่น และระบุไม่ชัดเจน อย่างละ 3 ราย
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 995 ราย เพชรบุรี 380 ราย นนทบุรี 336 ราย สมุทรปราการ 232 ราย ตรัง 92 ราย สมุทรสาคร 76 ราย ปทุมธานี 60 ราย ชลบุรี 46 ราย ฉะเชิงเทรา 40 ราย นครปฐม และสระบุรี จังหวัดละ 31 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 146,917 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 58,721 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 3,959,356 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 2,738,289 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 1,221,067 ราย
@ ย้ำคนข้ามแดนไทย เข้าเมืองผ่าน'ด่านข้ามแดนถาวร'
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 ราย ประกอบด้วย แอฟริกาใต้ รัสเซีย คูเวต อเมริกา อย่างละ 1 ราย เมียนมา 2 ราย กัมพูชา 43 ราย ซึ่ง 4 ราย ลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติ
"ขอเน้นย้ำว่าเราได้เปิดด่านข้ามแดนถาวรขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้เข้าเมืองอย่างถูกต้อง ซึ่งจะมีระบบจัดการ และระบบ Quarantine รวมถึงผู้ป่วยติดเชื้อจะได้รับการดูแลอยู่ในรอบเขตจังหวัดสระแก้วอยู่แล้ว ดังนั้นขอทุกคนให้ความร่วมมือ" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนตัวเลขการสกัดกั้นการลับลอบเข้าเมืองวันนี้ พบผู้ลักลอบ 167 ราย แบ่งเป็น ลาว 21 ราย เมียนมา 114 ราย และกัมพูชา 7 ราย ส่วนทางภาคใต้ยังเป็นตัวเลข 0 อยู่
@ กทม.เฝ้าระวัง 50 คลัสเตอร์ ใน 33 เขต
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดในกทม.ว่า วันนี้พบคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 50 คลัสเตอร์ ใน 33 เขต โดยในกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด ประกอบด้วย บางกะปิ คลองเตย ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย บางรัก ดินแดง ห้วยขวาง สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย ราชเทวี พระนคร ปทุมวัน ทุ่งครุ บางแค ลาดพร้าว คลองสาน สวนหลวง ยานนาวา มีนบุรี วัฒนา คลองสามวา บางนา และสาทร
กลุ่มเฝ้าระวัง ประกอบด้วย บางเขน บางซื่อ ประเวศ หลักสี่ สาทร ดอนเมือง บางคอแหลม หนองจอก
ส่วนพบคลัสเตอร์ใหม่ ประกอบด้วย เขตบางซื่อ เป็นแคมป์ที่พักคนงาน และเขตราชเทวี เป็นแคมป์
@ กำชับคุมเข้มโรงงานอุตสาหกรรมการแพทย์ หลังพบติดเชื้อหลายแห่ง
นอกจากการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใน กทม. ในจังหวัดอื่นๆ ยังมีรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ในคลัสเตอร์ต่างๆ ดังนี้
เพชรบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานผลิตรองเท้า มีผู้ติดเชื้อ 20 ราย และยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กระจาย 11 จังหวัด เป็นชาวไทย เมียนมา กัมพูชา อินเดีย และจีน รวม 232 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 5,226 ราย
นนทบุรี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแคมป์ก่อสร้าง 277 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 1,001 ราย
สมุทรปราการ พบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานอะลูมิเนียม มีผู้ติดเชื้อ 64 ราย นอกจากนั้นยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในตลาดสำโรง 8 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 252 ราย และยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในคอนโดมิเนียม และในชุมชน 41 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 241 ราย
ตรัง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโรงงานผลิตถุงมือและระบาดต่อเนื่องไปยังชุมชน 64 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 538 ราย
สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโรงงานผลิตสินค้าเด็ก 39 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 86 ราย
ปทุมธานี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในตลาดสี่มุมเมือง เป็นชาวไทย เมียนมา กัมพูชา และลาว 10 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 1,592 ราย
สระบุรี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ เป็นชาวไทยและกัมพูชา 32 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 470 ราย
ระนอง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นแรงงานแพปลา ชาวเมียนมา 22 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 699 ราย
ตาก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในชุมชนบ้านผึ้ง 21 ราย มียอดสะสมในคลัสเตอร์ 77 ราย
ขณะที่ฉะเชิงเทรา เพิ่งพบคลัสเตอร์ใหม่ในบริษัทผลิตอุปกรณ์ทันตกรรม มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า กรมควบคุมโรคได้วิเคราะห์แหล่งที่เกิดคลัสเตอร์ มีโรงงานผลิตถุงมือ มีโรงงานผลิตอุปกรณ์ทันตกรรมหลาย และอีกหลายโรงงานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือทางการแพทย์ มีรายงานการติดเชื้อเข้ามาแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจะต้องมีการให้ความสำคัญกับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆเหล่านี้ เนื่องจากเป็นแหล่งการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันโรคโควิดด้วยเช่นกัน ศบค.จึงกำชับไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้คุมเข้มมาตรการกับอุตสาหกรรมทางการแพทย์ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักการผลิตต่างๆ เนื่องจากจะมีผลต่อการควบคุมโรคด้วย
@ ทั่วโลกป่วย 489,890 ราย สะสม 172.42 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 489,890 ราย รวม 172,424,472 ราย อาการหนัก 89,935 ราย หายป่วย 155,052,446 ราย เสียชีวิต 3,706,561 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 16,974 ราย รวม 34,154,305 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 514 ราย รวม 611,020 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 134,105 ราย รวม 28,440,988 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,899 ราย รวม 338,013 ราย บราซิล พบเพิ่ม 94,509 ราย รวม 16,720,081 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,394 ราย รวม 467,706 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 81 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage