9 ส.ส. 4 จังหวัด พรรคพลังประชารัฐ แถลงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี รื้อระบบกระจายวัคซีนโควิด หลังพบหลายจังหวัดได้รับการจัดสรรไม่เป็นธรรม
----------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค ประกอบด้วย นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี , นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี , นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี , นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี , นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ , น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ , นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา , นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา แถลงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนแห่งชาติให้รื้อระบบแผนกระจายวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาอีกประมาณ 6 ล้านโดสให้เป็นธรรม และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมคำนึงถึงความหนาแน่นของเศรษฐกิจแต่ละจังหวัดด้วย ให้น้ำหนักกับจังหวัดที่มีปัญหาอยู่
(ข่าวประกอบ : สแกนแผนกระจาย'แอสตร้าเซนเนก้า' 77 จังหวัด ใครได้มากสุดในเดือน มิ.ย.?)
นายสรวุฒิ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบ 20 อันดับที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนพบว่า ในจังหวัดสีแดงได้รับการจัดสรรน้อยกว่าบางจังหวัด เช่น จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ได้รับการจัดสรรเพียง 237,000 โดส ไม่เพียงพอกับยอดผู้ติดเชื้อที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่วนในจังหวัดเพชรบุรี ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการติดเชื้อจากโรงงานที่มียอด 1 ใน 5 ของประเทศ กลับไม่ได้ให้น้ำหนักในการจัดสรรวัคซีน ดังนั้นจึงขอให้มีการทำข้อมูลเป็นปัจจุบันในการจัดสรรวัคซีน และขอให้นายกรัฐมนตรีจัดสรรวัคซีนตามความหนาแน่นของประชากร ซึ่งการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่า เรียกร้องเพื่อจังหวัดตัวเอง แต่อยากให้ทบทวนระบบการจัดสรรควัคซีนใหม่จะเป็นประโยชน์ของประเทศ และช่วยตัดวงจรการติดเชื้อ
"มีน้อยแบ่งน้อย มีมากแบ่งมาก แต่อย่าให้เกิดบนพื้นฐานความไม่เป็นธรรม เล่นพรรคเล่นพวก พวกเรายอมไม่ได้" นายสรวุฒิ กล่าว
ขณะที่นายสุชาติ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาคลัสตอร์โรงงานในจังหวัดเพชรบุรีมีการติดเชื้อที่รวดเร็วและจำนวนมาก เป็นอันดับ 2 ของประเทศและต่อเนื่องกัน 4 วัน โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อกว่า 800 คน ถือว่าห่างจาก กทม.ไม่มากนัก ดังนั้นเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนต้องยอมรับว่าสถานการณ์ขนาดนี้เปลี่ยนไปหมด จึงต้องทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันต้องเอาจังหวัดที่มีกลุ่มเสี่ยงเป็นด่านหน้า เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจังหวัดเพชรบุรีจนถูกยกระดับให้เป็นจังหวัดสีแดงเข้มเมื่อไหร่ หมายความว่าคนที่ต้องเดินทางผ่านจังหวัดเพชรบุรีจะต้องถูกกักตัวจนเป็นปัญหากันทั้งหมด จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีทบทวน และเพิ่มจำนวนวัคซีนให้จังหวัดกลุ่มเสี่ยง อาจจะมากกว่าที่ได้รับเดิม 2-3 เท่า
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/