ติดเชื้อเพิ่ม 3,394 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 116,949 ราย เสียชีวิตอีก 29 ราย พบ 4 ราย เสียชีวิตวันเดียวกับการรู้ผลติดเชื้อ ขณะที่พบ 5 คลัสเตอร์ใหม่ในกทม. ศบค.ห่วงแคมป์ก่อสร้าง ย้ำให้โรงงานคุมเข้มมาตรการโควิด
------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2664 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศไทย พบมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 3,394 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 3,377 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,625 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 254 ราย และพบการติดเชื้อจากเรือนจำ 1,498 ราย ส่วนอีก 17 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 116,949 ราย หายป่วยเพิ่ม 4,450 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 41,903 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,210 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 584 ราย
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 876 ราย สมุทรปราการ 153 ราย นนทบุรี 130 ราย ปทุมธานี 119 ราย เพชรบุรี 76 ราย สมุทรสาคร 57 ราย สงขลา 46 ราย ชลบุรี 39 ราย จันทบุรี 32 ราย ระนอง 25 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 64,739 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 39,911 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 2,445,645 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 1,585,773 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 859,872 ราย
@ 4 ราย เสียชีวิตวันเดียวกับการรู้ผลติดเชื้อ
สำหรับผู้เสียชีวิต 29 ราย มาจาก กทม. 14 ราย สมุทรปราการ 5 ราย ปทุมธานี 2 ราย ปทุมธานี 2 ราย ฉะเชิงเทรา ลำพูน ชลบุรี สระบุรี นครปฐม กำแพงเพชร หนองคาย และนนทบุรี จังหวัดละ 1 ราย
โดยเป็นชาย 19 ราย หญิง 10 ราย มีอายุระหว่าง 42 - 92 ปี โดยส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวานไขมันสูง ไตเรื้อรัง โรคปอด หัวใจ ภาวะอ้วน และปฏิเสธโรคประจำตัว 5 ราย
ขณะที่มีประวัติเสี่ยงติดโควิด โดยการสัมผัสหรือใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ 9 ราย ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อยืนยันอื่นๆ เช่น ร่วมงาน เพื่อน โรงพยาบาล 4 ราย อาศัยหรือเดิทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด 10 ราย ไปสถานที่แออัด เช่น ตลาดนัด และโรงงาน 5 ราย และระบุไม่ได้ 1 ราย
นอกจากนี้ยังมีรายงาน มีผู้ป่วยโควิดจำนวน 4 ราย เสียชีวิตในวันที่ทราบผลการตรวจหาติดเชื้อ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและไม่ตระหนักว่าตนเองเป็นผู้ติดเชื้อ และมีผู้ป่วย 12 ราย เสียชีวิตในสัปดาห์แรกหลังจากทราบผลการติดเชื้อ
@ ศบค.พบผู้ลักลอบเข้าเมือง 113 ราย ขอพื้นที่เข้มงวดสูงสุด
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ประกอบด้วย อินเดีย 1 ราย ซึ่งเป็นการรายงานย้อนหลัง ฮ่องกง 1 ราย มัลดีฟส์ 1 ราย บังคลาเทศ 3 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย บาห์เรน 1 ราย และ 8 ราย ซึ่งมีการเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย
"ทั้งนี้มีรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) แสดงผลการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จับกุมได้ 113 ราย ซึ่งมาจากเมียนมา ลาว กัมพา และมาเลเซีย ซึ่งศบค.กังวลในเรื่องการเฝ้าการติดเชื้อ และเชื้อกลายพันธุ์ จึงขอให้พื้นที่เข้มงวดสูงสุดด้วย" พญ.อภิสมัย
@ ตรวจคัดกรองเชิงรุกเรือนจำอีก 2-3 วัน คาดอีก 1 สัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลด
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เรือนจำ ว่า ยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอีก 2-3 วัน ซึ่งประชาชนจะยังเห็นตัวเลขการรายงานเข้ามาจากราชทัณฑ์ในช่วงสัปดาห์นี้ และหลังจากนั้นคาดว่าหนึ่งสัปดาห์ตัวเลขของราชทัณฑ์จะลดลงจนถึงหมดไป
โดยมีการตรวจคัดกรองเชิงรุก ได้แก่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพตรวจทั้งสิ้น 3,021 ราย พบติดเชื้อ 2,908 ราย คิดเป็น 61% เรือนจำกลางคลองเปรมตรวจ 8,087 ราย พบติดเชื้อ 1,538 คิดเป็น 15% เรือนจำกลางบางขวางตรวจแล้ว 5,607 ราย พบติดเชื้อ 598 รายคิดเป็น 6%
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของกรมราชทัณฑ์รายงานเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2564 ด้วยว่ามีการลงตรวจอีกด้วยทั้งในเรือนจำพิเศษธนบุรี หญิงกลาง นนทบุรี ฉะเชิงเทรา เรือนจำกลางเชียงใหม่ ซึ่งตัวเลขจะแตกต่างกันบางที่เจอ 6% บางที่ 15% สูงสุดขึ้นไปถึง 71%
ซึ่งในการดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำ ขอย้ำว่ามีระบบปิด จะไม่มีโอกาสแพร่เชื้อออกมาด้านนอกได้ รวมทั้งมีมาตรการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเช่นเดียวกับประชาชนที่อยู่ข้างนอก ทั้งนี้วันนี้กรมการแพทย์และโรงเรียนแพทย์ได้มีการระดมทรัพยากรเครื่องช่วยหายใจบุคลากรเข้าไปช่วยเหลือกรมราชทัณฑ์ซึ่งจะมีการดูแลเบ็ดเสร็จอยู่ภายในเรือนจำ ขอให้ประชาชนคลายความกังวล
@ กทม.พบ 5 คลัสเตอร์ใหม่ ขอให้โรงงานคุมเข้มมาตรการโควิด
ส่วนสถานการณ์ของกรุงเทพมหานคร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ตอนนี้กรุงเทพมหานครมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังทั้งสิ้น 34 คลัสเตอร์ ซึ่งมี 29 คลัสเตอร์เดิม และบวกใหม่ 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ 1. ตลาดบางกะปิ ซึ่งจะมีการลงพื้นที่ตรวจในวันนี้ 2.บางคอแหลม เป็นแคมป์ก่อสร้าง 3. จตุจักร เป็นโรงงานน้ำแข็ง 4. ดอนเมือง เป็นแคมป์คนงาน และ 5 .บางซื่อ เป็นการพบคลัสเตอร์ในโกดังสินค้า
ซึ่งทั้งหมดใน 50 เขตของกรุงเทพมหานครจะมีพื้นที่ที่กระจุกตัวเป็นการรายงานการติดเชื้อสูง ซึ่ง ศบค. ชุดเล็กเรียกว่า เป็นพื้นที่ไข่แดง โดยมีความเป็นห่วงในส่วนของแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่พบว่าบางเขตมีแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่มีคนงานมากกว่า 20 แคมป์ เช่น บางกะปิ บางเขน ลาดพร้าว และห้วยขวาง หรือบางแคมป์มีจำนวนตัวเลขคนงานเกิน 1,000 คน
โดยในที่ประชุมมีการพูดคุยถึงมาตรการดูแลของการติดเชื้อ ว่า จะให้ 1. มีการจัดตั้งที่ทำงานเป็นไซด์ก่อสร้างและที่พักอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยขอความร่วมมือให้เกิดการซิล (Seal) ไม่ให้แรงงานเดินทางออกนอกพื้นที่ และ 2.ให้ใช้กระบวนการบับเบิล (Bubble) ไซด์ก่อสร้าง โดยหากโรงงานอยู่ในกรุงเทพมหานครแต่ที่พักคนงาน อาจจะอยู่บริเวณชานเมือง หรือคนละเขต บริษัทจำเป็นต้องจัดรถรับส่งพนักงานทั้งหมด โดยจะไม่อนุญาตให้มีการแวะพัก และหากมีการเคลื่อนย้ายจำเป็นต้องขออนุญาตไปที่สำนักงานเขต
นอกจากนี้หากเห็นว่าไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้สำนักงานเขตมีอำนาจในการปิดแคมป์หรือไซด์ก่อสร้างนั้นได้ ดังนั้นอยากให้บริษัทที่เป็นผู้ดูแลเข้าไปศึกษารายละเอียดของสำนักงานเขตรวมทั้งของคณะกรรมการโรคติดต่อของพื้นที่อย่างละเอียดและขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตาม
@ เตรียมประชุมหาข้อสรุปแผนฉีดวัคซีนกทม. 20 พ.ค.64
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ในวันที่ 20 พ.ค.2564 ที่จะประชุมหาข้อสรุปการฉีดวัคซีนในกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดจุดฉีดวัคซีนและการเปิดรับลงทะเบียน ภายใต้หลักการกระจายวัคซีน ที่ต้องยึดหลักความปลอดภัย และให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด นอกจากนี้ที่ประชุมได้พูดถึงกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ ผู้ขับรถแท็กซี่รวมถึงบุคลากรทางการศึกษา ที่จะให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง
@ ทั่วโลกป่วย 611,227 ราย สะสม 164.86 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 611,227 ราย รวม 164,886,821 ราย อาการหนัก 100,828 ราย หายป่วย 143,811,583 ราย เสียชีวิต 3,418,430 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 27,506 ราย รวม 33,779,945 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 733 ราย รวม 601,330 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 267,174 ราย รวม 25,495,144 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4,525 ราย รวม 283,276 ราย บราซิล พบเพิ่ม 74,379 ราย รวม 15,735,485 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,517 ราย รวม 439,379 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 92 ของโลก
@ มาเลเซียเตรียมล็อกดาวน์รัฐสลังงอร์ หลังเผชิญโควิดหนักจากเชื้อกลายพันธุ์
กระทรวงมาเลเซียเตรียมพิจารณาล็อกดาวน์รัฐสลังงอร์ พื้นที่เขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศมาเลเซีย หลังพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ที่ทำให้การระบาดรวดเร็วขึ้น และนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.2564 พบการระบาดเพิ่มเป็นหลักพัน ซึ่งมากกว่า 1 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อรายวันของทั้งประเทศ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/