ป่วยใหม่ 2,256 คน มาจากเรือนจำ 183 ราย รวมสะสม 96,050 ราย หายป่วยเพิ่ม 1,701 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวใน รพ. 33,186 ราย และเสียชีวิตอีก 30 ราย ขณะที่ ศบค. ชงปรับโซนสีจังหวัด ผ่อนปรนมาตรการ ให้นั่งทานในร้านอาหารได้ถึง 21.00 น.
......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2664 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศไทย พบมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 2,256 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,068 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,523 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 545 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 183 ราย และอีก 5 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 96,050 ราย หายป่วยเพิ่ม 1,701 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 33,186 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,203 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 408 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 548 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 30 ราย มาจาก กทม. 11 ราย ราชบุรี 4 ราย ปทุมธานี และสระแก้ว จังหวัดละ 2 ราย สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สุโขทัย มหาสารคาม เชียงราย สุพรรณบุรี นนทบุรี ร้อยเอ็ด พัทลุง และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย โดยส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว และปฏิเสธโรคประจำตัว 4 ราย ขณะที่มีประวัติเสี่ยงโดยการสัมผัสหรือใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ 13 ราย ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อยืนยันอื่นๆ เช่น ร่วมงาน งานเลี้ยง 3 ราย ไปสถานที่แออัด 3 ราย เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง 10 ราย ประกอบอาชีพเสี่ยง 2 ราย
โดย 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 1,087 ราย ปทุมธานี 157 ราย นนทบุรี 131 ราย สมุทรปราการ 121 ราย ชลบุรี 64 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 52 ราย สมุทรสาคร 46 ราย ระยอง 33 ราย พระนครศรีอยุธยา 29 ราย และนครศรีธรรมราช 25 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ประกอบด้วย กัมพูชา 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 21,302 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 63,067 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 2,124,732 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 1,416,432 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 708,300 ราย
@ กทม.ตรวจเชิงรุก 7,247 คน ติดโควิด 359 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผลการตรวจเชิงรุกในพื้นที่กทม. ว่า จุดตรวจสนามกีฬาธูปเตมีย์ ตรวจหาเชื้อ 1,278 คน พบเชื้อ 68 คน คิดเป็น 5.32% ศูนย์ดินแดง ตรวจหาเชื้อ 1,668 คน พบเชื้อ 62 คน คิดเป็น 3.71% โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา คลองเตย ตรวจหาเชื้อ 988 คน พบเชื้อ 52 คน คิดเป็น 5.26% จุดรวจชุมชนสีลม 1,016 ราย ตรวจหาเชื้อ 107 ราย คิดเป็น 10.53% จุดตรวจห้วยขวาง ตรวจหาเชื้อ 510 คน พบเชื้อ 15 คน คิดเป็น 2.94% จุดตรวจ รองเมือง ตรวจหาเชื้อ 491 ราย พบเชื้อ 25 ราย คิดเป็น 5.09% จุดตรวจ เคหะหลักสี่ ตรวจหาเชื้อ 509 ราย พบเชื้อ 4 ราย คิดเป็น 0.79% จุดตรวจตลาดกลางดินแดง ตรวจหาเชื้อ 787 ราย พบเชื้อ 26 ราย คิดเป็น 3.30% รวมตรวจคัดกรองเชิงรุกทั้งสิ้น 7,247 คน พบเชื้อ 359 คน คิดเป็น 4.95%
"ตอนนี้ ถ้าพูดถึง กทม. 100 คน รอบๆตัวเราในกลุ่มบางพื้นที่ พบติดเชื้อเฉลี่ยประมาณ 5 คน ขอเรียนประชาชนให้ทราบว่า เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ขอให้ประชาชนดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด มาตรการการผ่อนคลายจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ แต่ขอให้ดูแลสุขอนามัยส่วนตนให้เป็นอย่างดี" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
@ เขตหลักสี่ แคมป์คนงานก่อสร้าง พบอัตราติดเชื้อสูงสุดเกือบ 22%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับอัตราการติดเชื้อในเขตที่มีคลัสเตอร์หรือชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ กทม. มีรายละเอียดดังนี้
เขตดินแดง ประกอบด้วย ตลาดห้วยขวาง มีอัตราการติดเชื้อ 1.48% และแฟลตดินแดง มีอัตราการติดเชื้อ 3.26
เขตวัฒนา แคมป์คนงานก่อสร้าง มีอัตราการติดเชื้อ 14.25%
เขตคลองเตย ชุมชนแออัดคลองเตย มีอัตราการติดเชื้อ 3.83%
เขตหลักสี่ แคมป์คนงานก่อสร้าง มีอัตราการติดเชื้อ 21.99%
เขตลาดพร้าว บริษัทประกัน มีอัตราการติดเชื้อ 7.70%
เขตราชเทวี ประกอบด้วย บริษัทไฟแนนซ์ มีอัตราการติดเชื้อ 17.30% และประตูน้ำ 3.96%
เขตพระนคร ปากคลองตลาด มีอัตราการติดเชื้อ 5.58%
เขตดุสิต สี่แยกมหานาค สะพานขาว หรือตลาดผลไม้ มีอัตราการติดเชื้อ 3.52%
เขตสวนหลวง ชุมชนโมราวรรณ มีอัตราการติดเชื้อ 8.85
ส่วนเขตปทุมวัน สาทร ป้มปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ จตุจักร รับทราบข้อมูลว่า มีแนวโน้มสามารถควบคุมการระบาดได้
อย่างไรก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากสถิติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า อย่างกรณีแคมป์คนงานที่พบอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดเกือบ 22% นั้น หมายความว่ามีคนติดโควิด 1 คน ในจำนวน 5 คน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกคนในการแจ้งเบาะแส และร่วมมือกันลดการแพร่ระบาด
@ กระทรวงแรงงาน เปิดโอกาสผู้ประกันตน 9 จังหวัด ตรวจคัดกรองเชิงรุกฟรี
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงแผนการตรวจเชิงรุกของกระทรวงแรงงาน โดย สำนักงานประกันสังคมว่า ขณะนี้ได้เปิดให้บริการ 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสาคร ภูเก็ต และระยอง
ทั้งนี้หากผู้ประกันตนรายใดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและอยากเข้ารับการตรวจคัดกรองเชิงรุกขอให้โทร.ไปที่สายด่วน 1506 กด 6 เพื่อไปขอรับการตรวจ โดยไม่เสียค่าบริการ และถ้าตรวจเจอจะถูกส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญาต่อไป
@ ชงปรับโซนสีจังหวัดพรุ่งนี้ ผ่อนปรนให้นั่งร้านได้ถึง 3 ทุ่ม แต่ยังให้งดจำหน่าย-ดื่มสุรา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเปิดเผยถึงการผ่อนปรนมาตรการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อผ่อนคลายผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยหลักการสำคัญ ทาง ศบค. จะปรับสี พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึงพื้นที่ควบคุม จาก 5 ปัจจัย ได้แก่ 1. ลักษณะการระบาดในชุมชน โดยพิจารณาจากจำนวน และความต่อเนื่อง ประกอบด้วย พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผู้ป่วยมากกว่า 100 รายต่อวัน อย่างน้อย 1 วัน ใน 1 สัปดาห์ หรือเฉลี่ยนใน 1 สัปดาห์ มากกว่า 50 รายต่อวัน
2. จังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับพื้นที่ที่พบการระบาดต่อเนื่องและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ 3. จังหวัดที่มีการระบาดในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสแพร่เชื้อได้ง่าย 4. จังหวัดที่ติดกับชายแดน หรือเคยมีผู้เดินทางเข้าไปในพื้นที่ติดเชื้อ และ 5. สัดส่วนการได้รับวัคซีนของประชากรในพื้นที่ ซึ่งจะปรับลดระดับกรณีได้รับวัคซีนมาก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศรายชื่อจังหวัดตามระดับของพื้นที่ พร้อมเผยหลักเกณฑ์แนวทางผ่อนคลายมาตรการ ดังนี้
1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
- สามารถบริโภคในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. นั่งได้ไม่เกิน 25% (1โต๊ะ 4 ที่นั่ง สามารถนั่งได้ 1 คน) หรือสั่งกลับบ้านได้ไม่เกิน 23.00 น. และให้งดการจำหน่วยและดื่มสุราในร้าน
- ร้านสะดวกซื้อ เปิดบริการ 04.00 - 23.00 น.
- ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง
- ศูนย์การค้า หรือห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติไม่เกิน 21.00 น. โดยต้องจำกัดคนและกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- สถานศึกษา ห้ามใช้อาการสถานที่เพื่อนจัดการเรียนการสอน
- สถานที่เสี่ยง ปิดยกเว้นที่เล่นกีฬากลางแจ้ง เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. แข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม
2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด
- สามารถบริโภคในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. และให้งดการจำหน่วยและดื่มสุราในร้าน
- ร้านสะดวกซื้อ เปิดบริการ 04.00 - 23.00 น.
- ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติไม่เกิน 21.00 น. โดยต้องจำกัดคนและกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- สถานศึกษา สามารถใช้อาการสถานที่เพื่อนจัดการเรียนการสอน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจังหวัด
- สถานที่เสี่ยง เปิดบริการตามข้อกำหนด สถานที่เล่นกีฬาเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม
3. พื้นที่ควบคุม
- สามารถบริโภคในร้านได้ตามปกติ และให้งดการจำหน่วยและดื่มสุราในร้าน
- ร้านสะดวกซื้อ เปิดบริการ 04.00 - 23.00 น.
- ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง
- ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติไม่เกิน 21.00 น.โดยจำกัดคนและกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- สถานศึกษา สามารถใช้อาการสถานที่เพื่อนจัดการเรียนการสอน ตามมาตรการที่กำหนด
- สถานที่เสี่ยง เปิดบริการตามข้อกำหนด สถานที่เล่นกีฬาเปิดได้ปกติ โดยจำกัดผู้ชม
@ ทั่วโลกป่วย 743,191 ราย สะสม 161.82 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 743,191 ราย รวม 161,824,477 ราย อาการหนัก 104,224 ราย หายป่วย 139,622,052 ราย เสียชีวิต 3,358,513 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 39,825 ราย รวม 33,626,097 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 762 ราย รวม 598,540 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 343,288 ราย รวม 24,046,120 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3,999 ราย รวม 262,350 ราย บราซิล พบเพิ่ม 75,141 ราย รวม 15,436,827 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,340 ราย รวม 430,596 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 94 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/