ไทยป่วยเพิ่ม 1,871 ราย อยู่ระหว่างรักษา 27,988 ราย อาการหนัก 786 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 230 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว มี 2 รายเสียชีวิตก่อนทราบผลว่าตัวเองติดเชื้อ สธ.คาดคุมสถานการณ์ กทม.และปริมณฑล เท่ากับแก้ปัญหาได้ทั้งประเทศ ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานเน้น Work From Home ช่วยลดเสี่ยงได้มาก
----------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,871 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,864 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,830 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 34 ราย และอีก 7 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 63,570 ราย หายป่วยเพิ่ม 992 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 27,988 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 786 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 230 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 188 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 10 ราย มาจาก กทม. 6 ราย นครสวรรค์ สมุทรปราการ ยโสธร อยุธยา จังหวัดละ 1 ราย โดยส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ทั้งนี้หากดูระยะเวลาตั้งแต่วันที่ทราบผลจนกระทั่งเสียชีวิต มี 5 รายใช้เวลา 6-16 วัน มี 2 รายเสียชีวิตก่อนทราบผลติดเชื้อ และ 1 ราย เสียชีวิตวันเดียวกับที่ทราบผลว่าติดเชื้อ
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ 1,864 ราย เป็นผู้ติดเชื้อตามพื้นที่ปัจจัยเสี่ยง พบมากสุดที่ กทม. 689 ราย สมุทรปราการ 151 ราย ชลบุรี 112 ราย เชียงใหม่ 89 ราย ปทุมธานี 81 ราย สงขลา 46 ราย สุราษฎร์ธานี 46 ราย สมุทรสาคร 39 ราย ขอนแก่น 32 ราย และนครปฐม 30 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ประกอบด้วย อินเดีย 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย สวิสเซอร์แลนด์ 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และ ฮังการี 1 ราย
ทั้งนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 20,761 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 44,172 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 1,344,646 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 1,059,721 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 284,925 ราย
@ คาดคุมโควิดใน กทม. เท่ากับแก้ปัญหาได้ทั้งประเทศ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวิเคราะห์ตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 28 เม.ย.2564 กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อ รวม 15,405 ราย ส่วนอีก 73 จังหวัดพบผู้ติดเชื้อรวม 19,095 ราย ในรอบนี้หากเราจัดการปัญหาใน กทม.และปริมณฑลได้ก็เสมือนจัดการได้ทั้งประเทศ เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาครั้งก่อน หากจัดการปัญหาที่สมุทรสาครได้ก็จะจัดการได้ทั้งประเทศเช่นกัน
“ดังนั้นยุทธศาสตร์การจัดการอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล ขอประชาชนได้โปรดให้ความร่วมมือ ตอนนี้เราพูดคุยกันเรื่องของการติดเชื้อในกลุ่มวัยทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือ Work From Home เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้ 100%” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า เหตุที่ต้องขอความร่วมมือให้ Work From Home เนื่องจากพบว่า กทม.และปริมณฑลเดินทางกันไปมา และพบปะสังสรรค์รวมถึงรับประทานอาหารร่วมกัน โดยพบว่า ร้านอาหารกลายเป็นแหล่งติดเชื้อ ทั้งนี้เมื่อดูตัวเลขผู้ป่วยที่ติดจากร้านอาหารทั่วประเทศมีทั้งหมด 294 ราย พบว่า มีอายุเฉลี่ย 30 ปี
ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยแสดงอาการ 175 ราย หรือ 60% พบว่ามีอาการไอ เจ็บคอ ไข้ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ มีเสมหะ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว การได้กลิ่น รวมถึงหายใจลำบาก ดังนั้นหากใครมีอาการเหล่านี้ขอให้สงสัยไว้ก่อน โดยปัจจัยเสี่ยงคือ สัมผัสร่วมบ้านเป็นวงที่ 2 จำนวน 42 ราย ร้านชาบู หมูกระทะ หรือสุกี้ 18 ราย ร้านอาหารกึ่งผับ 12 ราย
“ตอนนี้มาตรการ Work From Home สำคัญที่สุด ไม่ต้องไปพบปะสังสรรค์กัน งานเลี้ยงอะไรทั้งหลายด้วย ขอความร่วมมือให้ซื้อกลับบ้าน ผู้ประกอบการอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ตรงนี้ยังไม่ได้มีการปิด เพราะยังต้องให้ค้าขายได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ขอให้ปรับเปลี่ยนวิธีการ อย่าว่าแต่นั่งรวมกลุ่มกัน แม้กระทั่งทานที่บ้าน ก็อาจจะเอาเชื้อมาติดได้” นพ.ทวีศิลป์
@อัพเดต 12 จว.ของดออกจากบ้าน – 73 จว.คุมเข้มใส่หน้ากาก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวย้ำว่า กระทรวงมหาดไทย จัดทำข้อสรุป จังหวัดที่ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากเคหสถาน รวม 12 จังหวัด ทั้งนี้ไม่ใช่การประกาศเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น ประกอบด้วย 3 จังหวัด นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ที่ของดออกจากบ้านตั้งแต่ 21.00 – 04.00 น. อีก 4 จังหวัด สุราษฎร์ธานี ตรัง สงขลา และยะลา ที่ของดออกจากบ้านตั้งแต่ 22.00 – 04.00 น. และมี 5 จังหวัด ชัยนาท นครปฐม สมุทรสาคร บึงกาฬ และนครนายก ที่ของดออกจากบ้านตั้งแต่ 23.00 – 04.00 น.
“ทั้งนี้เป็นเพียงจังหวัดที่ขอความร่วมมือ ไม่ใช่การประกาศเคอร์ฟิว ที่จะต้องดำเนินการโดยคำสั่ง ศบค. โดยนายกรัฐมนตรีเท่านั้น” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนจังหวัดที่มีบทลงโทษกรณีประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกนอกเคหสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 28 เม.ย. เวลา 22.00 น.มีทั้งหมด 73 จังหวัดรวม กทม.
@ ทั่วโลกป่วย 885,604 ราย สะสม 150.21 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 885,604 ราย รวม 150,216,590 ราย อาการหนัก 110,779 ราย หายป่วย 127,736,203 ราย เสียชีวิต 3,163,873 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 56,604 ราย รวม 32,983,695 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 954 ราย รวม 588,337 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 379,459 ราย รวม 18,368,096 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3,647 ราย รวม 204,812 ราย บราซิล พบเพิ่ม 77,266 ราย รวม 14,523,807 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3,019 ราย รวม 398,343 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 104 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage