จัดซื้ออุปกรณ์ประปาเท็จ! คุก 3 ปี อดีตนายก อบต.สวนกล้วย ศรีสะเกษ

picnewsppvf0019 4 64

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ยศวัฒน์ จริยาวัฒนชัยกุล' อดีตนายก อบต.สวนกล้วย ศรีสะเกษ ตรวจรับเบิกจ่ายเงินก่อสร้างระบบประปา-ขุดลอดลำห้วย ทั้งที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบรายการ รวมทั้งเบิกจ่ายเงินซื้ออุปกรณ์แต่มิได้จัดซื้อจริง ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก สองกรรม 3 ปี ส่วนพวก โดน 6 เดือน , 4 ปี ปรับคนละ 20,000 บ. แต่รอการลงโทษ 3 ปี

..............................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายยศวัฒน์ จริยาวัฒนชัยกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวนกล้วย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ กับพวก คือ นางธัญทิพย์ จริยาวัฒนชัยกุล (นามสกุลเดียวกับนายยศวัฒน์) นายองอาจ กอแก้ว นางสมพรหรือ นางชฎาณิศ หรือนางสาวณัฐกฤตา อินอร่ามหรือกองพันธ และนายทะนงศักดิ์ คำสอนพันธ์ กรณีตรวจรับและเบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างระบบประปาและโครงการขุดลอดลำห้วย ทั้งที่ ไม่ถูกต้องตามรูปแบบรายการและเบิกจ่ายเงินซื้ออุปกรณ์ประปา ทั้งที่มิได้จัดซื้อจริง

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาดังนี้

นายยศวัฒน์ จริยาวัฒนชัยกุล จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 , 157 ประกอบมาตรา 83 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดตามมาตรา 151 จำคุก 5 ปี ความผิดตามมาตรา 157 จำคุก 1 ปี

นางธัญทิพย์ จริยาวัฒนชัยกุล จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 1 ปี และปรับ 10,000 บาท

นายองอาจ กอแก้ว จำเลยที่ 3 นางสมพร หรือ นางชฎาณิศ หรือนางสาวณัฐกฤตา อินอร่ามหรือกองพันธ จำเลยที่ 4 และนายทะนงศักดิ์ คำสอนพันธ์ จำเลยที่ 5 มีความผิดตามมาตรา 151 , 157 ประกอบมาตรา 83 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดตามมาตรา 151 จำคุกคนละ 5 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท ความผิดตามมาตรา 157 จำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 10,000 บาท

จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ และคำรับข้อเท็จจริงของจำเลยที่ 3 ถึง 5 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้จำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 คนละกึ่งหนึ่ง ลดโทษให้จำเลยที่ 3- 5 คนละหนึ่งในสาม

คงจำคุก จำเลยที่ 1 สองกรรม รวม 3 ปี

จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน และปรับ 5,000 บาท

จำคุกจำเลยที่ 3 ถึง 5 คนละสองกรรม รวม 4 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี

ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 สำหรับจำเลยที่ 1

สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

picnewsppvf19 4 64