'วัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลนครตรัง ลงนามคำสั่งไล่ออก ขรก. 3 ราย คดีค่าประกันสัญญา รร. แล้ว หลังได้รับแจ้งเวียนมติ กทจ. เป็นทางการ ส่วนงานค้างแบ่งให้จนท.ที่เหลืออยู่ทำแทน 'อิศรา' พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่ยังไม่ได้ บางรายแจ้งสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี ก่อนตัดสายทิ้ง
.....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีที่ประชุมคณะกรรมการเทศบาลจังหวัดตรัง (กทจ.ตรัง) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ได้มีมติให้ไล่ออกราชการ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง และนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความทางอาญาการผ่อนปรนค่าประกันสัญญาโครงการประมูลราคาให้เช่าอาคารโรงแรมตรังและการเช่าอาคารพาณิชย์ด้านล่างอาคารโรงแรมตรัง
ล่าสุด นายวัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลนครตรัง ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยกับ สำนักข่าวอิศรา ว่า เทศบาลนครตรัง ได้รับหนังสือเวียนมติให้ดำเนินการทางวินัยด้วยการไล่ออกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีการผ่อนปรนค่าประกันสัญญาโครงการประมูลราคาให้เช่าอาคารโรงแรมตรังและการเช่าอาคารพาณิชย์ด้านล่างอาคารโรงแรมตรัง ทั้ง 3 ราย จาก กทจ.ตรัง แล้ว และได้ลงนามในคำสั่งให้ไล่ออกจากราชการไปแล้ว
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ส่วนงานค้างที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย นั้น ได้ส่งมอบงานให้เจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่ไปแบ่งงานกันทำต่อแล้ว เช่น วันที่ 25 มีนาคมนี้ เดิมทีนายสมมุ่งต้องไปขึ้นศาลในคดีอื่นของทางเทศบาลก็ต้องมอบหมายให้นิติกรอื่นไปแทน ส่วนงานในความรับผิดชอบของนายยงยุทธ ได้มอบหมายให้ นายวิจิตร ด้วงอินทร์ ผอ.สำนักการช่างเทศบาลนครตรัง เป็นคนแบ่งงานให้เจ้าหน้าที่คนอื่นรับผิดชอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองเพื่อทุเลาโทษทางวินัย แต่ไม่สามารถติดต่อได้ บางรายแจ้งว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่ดี ไม่ได้ยินเสียงสนทนา ก่อนจะตัดสายทิ้งไป และไม่สามารถติดต่อได้อีก
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เกี่ยวกับคดีนี้ เป็นผลมาจากการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง ว่า การกระทำของ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่ มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
ส่วนนายอภิชิต วิโนทัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ได้ถึงแก่ความตายแล้ว สิทธิ นำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39
ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง และพร้อมที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
ป.ป.ช. ชี้มูลรองปลัดเทศบาลตรัง-พวก 3 ราย ผ่อนปรนค่าประกันสัญญาประมูลเช่า รร.
กทจ.ตรัง ลงดาบไล่ออก 'รองปลัดฯ-พวก' คดีค่าประกันสัญญา รร.- สู้ต่อในชั้นศาล
รอหนังสือเวียนมติ กทจ.ก่อน! เทศบาลฯ ตรัง ยังไม่ไล่ออก ขรก.คดีค่าประกันสัญญา รร.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage