‘ศาลปกครองสูงสุด’ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้ 'กสทช.' คืนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิทัลให้ ‘ไทยทีวี’ 151 ล้านบาท พร้อมคืนหนังสือค้ำประกัน 16 ฉบับ 1.74 พันล้านบาท หลังเพิกถอนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล
....................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น คดีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล เป็นให้คณะกรรมการ กสทช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แก่บริษัท ไทยทีวี จำกัด จำนวน 151.73 ล้านบาท
และให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารฯ ที่ผู้ฟ้องคดีวางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 จำนวน 16 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 1,748.8 ล้านบาท ให้แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้จำนวนเงินตามหนังสือค้ำประกันที่ไม่สามารถคืนได้นั้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ ให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
สำหรับคดีนี้ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ฟ้องว่า คณะกรรมการ กสทช. มีคำสั่งตามหนังสือที่ สทช 4010/5495 ลว. 12 ก.พ. 2559 เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ เลขที่ B1-S20031-0024-57 และ B1-S20031-0017-57 และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีอ้างว่าผู้ฟ้องคดีไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนเลิกการประกอบกิจการ ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวตกเป็นโมฆะ เนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้แจ้งยกเลิกใบอนุญาตและยุติการดำเนินการตามใบอนุญาตดังกล่าวไปก่อนแล้ว เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
ต่อมาศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ที่ผู้ฟ้องคดีวางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของงวดที่ 3 และงวดที่เหลือ คืนให้แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้จำนวนเงิน โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็นระบบดิจิทัลเกิดความล่าช้าและไม่เป็นไปตามแผนงาน
นอกจากนี้ การประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์ทำได้ไม่ทั่วถึง ประชาชนจึงไม่เข้าใจวิธีการเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์รวมทั้งการใช้คูปอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัดส่วนจำนวนผู้ชม อันมีผลต่อการเสนออัตราค่าเช่าช่วงเวลาและอัตราค่าโฆษณาอันเป็นที่มาของรายได้ของผู้ฟ้องคดี ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนต้องแบกรับภาระต้นทุนทั้งด้านการบริหารจัดการสถานีต้นทุนในการบริหารช่องรายการและเนื้อหารายการ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี แม้ว่าจะมีการประชุมเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
อีกทั้งการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ใช้อำนาจตามกฎหมายลงโทษปรับหรือลงโทษทางปกครองกับผู้ให้บริการโครงข่าย มิได้ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับการเยียวยาความเดือดร้อนแต่อย่างใด เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้ ผู้ฟ้องคดีจึงมีสิทธิบอกเลิกการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้ เมื่อผู้ฟ้องคดีได้บอกเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่องรายการโดยชอบแล้ว ผู้ฟ้องคดีย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะต้องชำระ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีในงวดหลังจากผู้ฟ้องคดีบอกเลิกสัญญา
และเมื่อผู้ฟ้องคดีไม่จำต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่องรายการในงวดที่เหลือนับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่องรายการ ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองย่อมไม่มีสิทธิยึดหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และจำต้องคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ผู้ฟ้องคดีต้องชำระในงวดที่หนึ่งและงวดที่สองคืนให้แก่ผู้ฟ้องคดี
แต่เนื่องจากช่องรายการทีวีดิจิตอลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและมีการแข่งขันของผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์ ทำให้รายได้จากการโฆษณาลดน้อยลง และเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแข่งขันทางด้านธุรกิจของสถานีโทรทัศน์ ที่มีผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ทั้งรายเก่าและรายใหม่เพิ่มเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นผลกระทบอันเกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร
แม้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองจะมีส่วนทำให้การเปลี่ยนผ่านระบบการรับชมสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินไปสู่การรับส่งสัญญาณระบบดิจิตอลเป็นไปอย่างล่าช้าก็ตาม แต่มิใช่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ฟ้องคดีประสบภาวะขาดทุนหรือได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจ ซึ่งความเสียหายที่ได้รับล้วนเกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติทั่วไปของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงไม่อาจเรียกค่าเสียหายดังกล่าวกับผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
อ่านประกอบ :
‘โควิด-ชุมนุมการเมือง’หนุนดูทีวีเพิ่ม! ‘กสทช.’เผยสำรวจปี 63-คนกรุงฯเฝ้าจอเกือบ 6 ชม.
ศาลปค.สูงสุดกลับคำพิพากษา 'ยกฟ้อง' ถอนประกาศกสทช. 'เรียงช่องทีวี'
กสทช.ศึกษาเชิงลึกอุ้ม'ทีวีดิจิทัล'!เผยผลสำรวจพบผู้ชม 75.2% ระบุเนื้อหาบนโลกออนไลน์ทดแทนได้
อุ้มทีวีดิจิทัล! ‘บอร์ดกสทช.’ มีมติลดเงินนำส่งกองทุน กทปส.เหลือ 0.125-1.5%
องค์กรผู้บริโภคเเนะกสทช.ลดค่าบริการเน็ตเเทนเเจกฟรี ตอบโจทย์เยียวยาโควิดฯ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/